วางมาตรการเข้มสกัด‘โรคอีโบลา’
กทม.ออก 3 มาตรการเข้มหวังสกัดโรคอีโบลา เผยเตรียมจัดตั้งหน่วยคัดกรองผู้ที่เดินทางกลับจากประเทศที่มีการระบาด ณ สนามบินดอนเมืองและท่าเรือคลองเตย
ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) น.ส.ตรีดาว อภัยวงศ์ โฆษก กทม. เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะผู้บริหาร มี ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.เป็นประธานว่า ที่ประชุมได้มีการหารือถึงมาตรการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลา ซึ่งผู้ว่าฯกทม.มีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก เนื่องจากกรุงเทพฯเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว มีผู้เดินทางเข้าออกจำนวนมากในแต่ละวัน แม้ว่าสถานการณ์ในขณะนี้ยังไม่พบผู้ป่วยในประเทศไทยและกรุงเทพฯ แต่ กทม.ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้มอบหมายให้สำนักอนามัยจัดทำระบบเฝ้าระวัง และตั้งคณะทำงาน 2 คณะ โดยมีผู้ว่าฯ กทม. เป็นประธาน
โฆษก กทม.กล่าวต่อว่า ที่ประชุมได้กำหนด 3 มาตรการ ดังนี้ 1.ตั้งหน่วยคัดกรองผู้โดยสารที่เดินทางเข้ามาในกรุงเทพฯ ที่ท่าเรือคลองเตย และสนามบินดอนเมือง ส่วนสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งไม่ได้อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ ก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่ทำงานร่วมกระทรวงสาธารณสุขเพื่อคัดกรองผู้โดยสารที่มาจากประเทศเฝ้าระวัง 42 ประเทศ และ 3 ประเทศที่มีการระบาดรุนแรง โดยจะมีการซักถามประวัติพร้อมติดตามอาการ 21 วัน 2.หากพบว่าบุคคลในกลุ่มเฝ้าระวังมีอาการป่วย ให้รีบส่งโรงพยาบาลเพื่อวินิจฉัยโรคว่าเข้าเกณฑ์ติดเชื้อไวรัสอีโบลาหรือไม่ และ3.ประสานความร่วมมือในระดับชุมชนจากอาสาสมัคร ผู้ประกอบการ และประชาชน ในการเฝ้าระวัง หากพบผู้ป่วยต้องสงสัยให้รีบแจ้งศูนย์บริการสาธารณสุขและกองควบคุมโรคติดต่อ สำนักอนามัย
"จากการติดตามผู้ที่อยู่ในข่ายเฝ้าระวังที่เดินทางมาจากประเทศที่มีการระบาดพบว่ามี 1,089 ราย โดยมาจากประเทศที่มีการระบาดรุนแรง 11 ราย ในจำนวนนี้มี 8 รายที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งสำนักอนามัยสามารถติดตามอาการอย่างใกล้ชิดได้ทุกราย ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบผู้ที่มีอาการป่วย" น.ส.ตรีดาว กล่าว
ที่มา : เว็บไซต์มติชนออนไลน์
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต