วัยรุ่นไทยเมินถุงยาง เสี่ยงโรคติดต่อ
วัยรุ่นเสี่ยงติดโรคเพศสัมพันธ์ เหตุเมินถุงยาง-แนะให้ความรู้ป้องกัน
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากการสรุปรายงานสถานการณ์โรค ที่เฝ้าระวังทางระบาดวิทยา ประเด็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ พบว่าช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โรคนี้มีแนวโน้มสูงขึ้น โดยในปี 2556 สำนักระบาดวิทยา ได้รับรายงานโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ 33,662 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 52.09 ต่อประชากรแสนคน แบ่งเป็น หนองใน 6,731 ราย โรคหูดอวัยวะเพศและทวารหนัก 2,491 ราย โรคซิฟิลิส 2,369 ราย หนองในเทียม 1,981 ราย เริม 1,941 ราย แผลริมอ่อน 605 ราย ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต อย่างไรก็ตาม ยังไม่นับรวมโรคเอดส์ ซึ่งในปี 2556 มีรายงานผู้ป่วยที่เริ่มมีอาการป่วย 25 จังหวัด รวม 1,671 ราย ปัจจัยเสี่ยงมาจากเพศสัมพันธ์ร้อยละ 84.20
นพ.โอภาสกล่าวต่อว่า เมื่อจำแนกโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่สำคัญ พบว่ามีผู้ป่วย 12,038 ราย คิดเป็น 18.63 คนต่อประชากรแสนคน กลุ่มที่มีอัตราป่วยด้วยโรคทางเพศสัมพันธ์สูงสุด คืออายุ 15-24 ปี คิดเป็น 52.21 ต่อแสนประชากร รองลงมาคืออายุ 25-34 ปี และ 35 ปีขึ้นไป อัตราส่วนการป่วยเพศชาย มากกว่าเพศหญิงเท่าตัว ส่วนใหญ่อาชีพรับจ้าง รองลงมาเป็นนักเรียน และเกษตรกรรม
นพ.โอภาสกล่าวว่า จังหวัดที่มีผู้ป่วยมากที่สุด คือ จ.ภูเก็ต อัตราป่วย 73.93 ต่อประชากรแสนคน รองลงมาคือ จ.ตราด อัตราป่วย 53.71 ต่อประชากรแสนคน ระยอง อัตราป่วย 49.45 ต่อประชากรแสนคน จ.พิษณุโลก อัตราป่วย 43.37 ต่อประชากรแสนคน จ.เชียงใหม่ อัตราป่วย 41.78 ต่อประชากรแสนคน จ.จันทบุรี อัตราป่วย 41.49 ต่อประชากรแสนคน จ.เชียงราย อัตราป่วย 38.58 ต่อประชากรแสนคน จ.ศรีสะเกษ อัตราป่วย 38.49 ต่อประชากรแสนคน จ.นครสวรรค์ อัตราการป่วย 34.66 ต่อประชากรแสนคน และ จ.เพชรบุรี อัตราป่วย 34.26 ต่อประชากรแสนคน ทั้งนี้ อัตราการป่วยที่สูงในอายุ 15-24 ปี พบว่าในแต่ละปีแนวโน้มพบผู้ป่วยอายุน้อยลงเรื่อยๆ และพบการป้องกันโรคด้วยถุงยางอนามัยต่ำ ซึ่งต้องให้ความรู้อย่างเหมาะสม
ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต