วันงดสูบบุหรี่โลก ร่วมใจ เดิน-วิ่ง ขจัดภัยบุหรี่
เป็นที่รู้กันดี ไม่ว่า คุณจะอยู่บนส่วนไหนของโลก ว่า การสูบบุหรี่เป็น พิษแก่ร่างกาย และ เป็นภัย กับ สังคม ด้วยเหตุนี้เอง เครือข่ายวิชาชีพสุขภาพเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ จึงได้จัดกิจกรรมรณรงค์ ขึ้นในวันที่ 31พฤษภาคม ที่เป็นวันงดสูบบุหรี่โลก ซึ่งกำหนดโดยองค์การอนามัยโลก ด้วยการจัดวิ่งเพื่อสุขภาพ ซึ่งทำมาเป็นประจำทุกปี ตั้งแต่ พ.ศ.2548 เป็นต้นมา
สำหรับปีนี้เครือข่ายฯ จัดโครงการ“ทีมสุขภาพร่วมใจเดิน-วิ่ง ขจัดภัยบุหรี่ ครั้งที่ 7″ ขึ้นในวันที่ 29 พฤษภาคมนี้ ที่กระทรวงสาธารณสุข ภายใต้คำขวัญ “พิทักษ์สิทธิตามกฎหมาย มุ่งสู่สังคมไทยปลอดบุหรี่” (The WHO Framework Convention on Tobacco Control) โดยการสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สนับสนุนให้ประชาชน มีครอบครัวที่อบอุ่น มีสุขภาพที่ดี มีชุมชนที่เข้มแข็ง เป็นพลังสำคัญเพื่อสังคมไทยยุคใหม่ปลอดบุหรี่ ปลอดโรค
ศ.พญ.สมศรี เผ่าสวัสดิ์ ประธานเครือข่ายวิชาชีพสุขภาพเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่กล่าวถึงสถานการณ์บุหรี่ในประเทศไทย ว่า ปัจจุบันมีผู้ที่สูบบุหรี่สะสมประมาณ 12ล้านคน ในจำนวนนี้รวมถึงนักสูบหน้าใหม่ที่มีอายุระหว่าง 10-13ปีรวมอยู่ด้วย ขณะเดียวกันทางเครือข่ายฯ ได้มีการสำรวจกลุ่มตัวอย่างที่เป็นแพทย์ที่สูบบุหรี่ ในปี 2542พบว่า มีแพทย์ที่สูบบุหรี่มากถึง 6% จากจำนวนแพทย์ทั่วประเทศที่ราว 40,000 คน และผลสำรวจในปีที่ผ่านมา มีจำนวนลดลงเหลือเพียง 2.4%เท่านั้น ซึ่งเป็นนิมิตหมายที่ดีว่า คนในสังคมเริ่มตระหนักถึงพิษภัยของควันบุหรี่กันมากขึ้น
“ที่ผ่านมาทางเครือข่ายฯ ได้รณรงค์ให้ประชาชนรู้เท่าทันพิษภัยของควันบุหรี่ ว่า ในควันบุหรี่มีสารพิษก่อให้เกิดโรคร้ายต่างๆมากถึง 4,000 ชนิดด้วยกัน ทางเครือข่ายฯ ได้ทำงานด้านวิชาการและจัดกิจกรรมรณรงค์สร้างเสริมสุขภาพ เพื่อเข้าทุกภาคส่วนของสังคม ซึ่งคาดว่าการรณรงค์ในเรื่องดังกล่าว จะช่วยให้ประเทศไทยประหยัดค่าใช้จ่ายในการรักษาโรคให้กับผู้ป่วยได้มากถึง 70,000 ล้านบาท” ศ.พญ.สมศรี กล่าว
ศ.พญ.สมศรี ยังบอกถึงประโยชน์ของการออกกำลังกายว่า การอกกำลังกายทำให้ร่างกายหลั่งสารเอ็นโดฟิน กระตุ้นให้ร่างกายได้รับความสดชื่น และมีความสุข และยังช่วยให้สามารถเลิกสูบบุหรี่ได้ กิจกรรมครั้งนี้ ยังสนับสนุนการออกกำลังกายร่วมกันระหว่างครอบครัว เพื่อสร้างความสัมพันธ์และกระตุ้นให้ครอบครัวมีส่วนร่วมในการสร้างแรงจูงใจในการเลิกบุหรี่ ซึ่งพบว่าลูกมีส่วนช่วยให้ พ่อ แม่ ที่สูบบุหรี่สามารถเลิกสูบบุหรี่ได้ โดยเฉพาะ “ลูก” คือคนที่มีบทบาทสำคัญที่ทำให้พ่อสามารถเลิกสูบบุหรี่ได้มากที่สุด
การรณรงค์งดสูบบุหรี่ในครั้งนี้ ยังมีดารา นักแสดงจากสังกัดช่อง 7 มาร่วมรณรงค์ด้วย โดย น้องเมย์ น.ส.อรวรรษา ฐานวิเศษ ซึ่งมาร่วมกิจกรรมวิ่งเป็นปีที่ 2 แล้ว บอกว่า เคยเข้าร่วมโครงการนี้แล้วเป็นโครงการที่ดีมากเพราะทุกคนรู้อยู่แล้วว่าการสูบบุหรี่เป็นสิ่งไม่ดี การจัดกิจกรรมแบบนี้ทำให้สามารถลดการสูบบุหรี่ลงได้แต่ถ้าจะให้ดีต้องไม่สูบเลยจะดีกว่า เพราะหากพ่อแม่สูบก็จะมีผลต่อลูกทำให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบ
น้องอ้อม น.ส.ประถมาภรณ์ รัตนภักดี ที่เคยมาร่วมกิจกรรมวิ่งแล้วเช่นกัน กล่าวว่า อยากมาทุกปีเพราะเป็นโครงการที่ดีทำให้ได้ออกกำลังกาย ส่งเสริมให้คนงดสูบบุหรี่ทำให้สุขภาพดีด้วย และยังได้ร้องเพลงเพลิดเพลินจนทำให้หลายคนไม่อยากสูบบุหรี่ และขอเป็นกำลังใจให้กับคนที่กำลังอยากเลิกสูบบุหรี่อยู่ในขณะนี้ด้วยอยากให้มาร่วมงานกันเยอะๆ
น้องอุ่น น.ส.ปริยานุช อาสนจินดากล่าวว่า เป็นครั้งแรกที่มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมวิ่งขจัดภัยบุหรี่ เพราะเห็นว่าเป็นกิจกรรมที่ดีอีกอย่างตาเสียชีวิตด้วยโรคถุงลมโป่งพองก็เลยอยากช่วยรณรงค์ให้คนที่สูบบุหรี่อยู่แล้วเลิกสูบส่วนคนที่ยังไม่สูบก็อย่าได้คิดสูบเลยเพราะบุหรี่ไม่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ
สำหรับกิจกรรมในปีนี้ จะจัดให้มีการแข่งขัน เดิน-วิ่ง ขจัดภัยบุหรี่ ในวันอาทิตย์ที่ 29พฤษภาคมนี้ ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี กิจกรรมจะ ประกอบด้วย 1.มินิมาราธอน 10.5 กม. 2.วิ่ง 5 กม. ประเภทครอบครัว 2 คน และครอบครัว 3 หรือ 4 คน และ 3.เดินเพื่อสุขภาพ 3 กม. ประเภทบุคคลและครอบครัว นอกจากนี้ ตั้งแต่ 13.30 น. นอกจากนี้ ยังมีการจัดประกวดขับร้องเพลงสร้างสรรค์ประเภทเพลงลูกทุ่งชิงแชมป์ประเทศไทยเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ครั้งที่ 1 รอบชิงชนะเลิศด้วย
โดยภายในงานมีกิจกรรมต่างๆ จากภาคี เครือข่ายที่เข้าร่วมกว่า 20 เครือข่าย ทั้งการตรวจวัดปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ในปอด ตรวจหาสมรรถภาพปอด วัดความดัน ความแข็งแรงของสุขภาพ รวมทั้งการจัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับพิษภัยของบุหรี่ และวิธีการเลิกสูบบุหรี่ และร่วมกิจกรรมกับดารานักแสดงช่อง 7
จึงขอเชิญชวนผู้สนใจสมัครร่วมแข่งขันวิ่งได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ที่สำนักงานเครือข่ายวิชาชีพสุขภาพฯ อาคารเฉลิมพระบารมี 50ปี แพทยสมาคมฯ ซอยศูนย์วิจัย หรือดาวน์โหลดใบสมัคร และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.runningthailand.net
ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า โดย ปานมณี