“วันงดดื่มสุราแห่งชาติ” วันดีๆ แห่งการพิทักษ์สังคม

สังคมปลอดภัยจากน้ำเมา

“วันงดดื่มสุราแห่งชาติ” วันดีๆ แห่งการพิทักษ์สังคม

 

          ผ่านช่วงเทศกาลวันเข้าพรรษา นอกจากจะเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาของประเทศไทยแล้ว หลายๆ คนอาจยังไม่ทราบอีกว่า วันเข้าพรรษายังถือเป็นวันสำคัญอีกอย่าง นั่นก็คือ วันงดดื่มสุราแห่งชาติเพราะถือเป็นวันแห่งการเริ่มต้นที่ดีในการที่จะลด ละ เลิกจากอบายมุขน้ำเมาทั้งหลายในช่วงที่เป็นวันสำคัญในทางพุทธศาสนาได้ ซึ่งวันนี้ยังสอดคล้องกับกิจกรรมการรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษาที่หน่วยงานต่างๆ ได้รณรงค์ขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

          ดังนั้น“วันงดดื่มสุราแห่งชาติ” จึงถือเป็นเครื่องมือเชิงสัญลักษณ์และเป็นการส่งสัญญาณที่ดีงามเพื่อสนับสนุนให้ภาคประชาชนและหน่วยงานราชการของรัฐร่วมมือกันทำให้สังคมไทยปลอดภัยจากน้ำเมาร่วมสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีให้สังคมได้

 

          จะเห็นได้ว่า อบายมุขน้ำเมาอย่างเหล้า เบียร์ ถือเป็นตัวการแห่งความสูญเสียอย่างมากมายในหลายๆ เรื่องต่อสังคมไทย ไม่ว่าจะเป็นด้านชีวิต จิตใจ ทรัพย์สิน และด้านอื่นๆ อีกมากมาย ที่ไม่ได้เป็นเรื่องดีต่อคนในสังคมเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ทว่าสังคมก็ยังปล่อยให้มหันต์ภัยร้ายนี้แฝงตัวทำลายสังคมไปเรื่อยๆ

 

          เมื่อมาดูสถิติย้อนหลังในรอบ 20 กว่าปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี พ.ศ.2532 ถึง 2546 ปริมาณลิตรของการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของคนไทยสูงขึ้นถึง 3 เท่าตัว  โดยในปี พ.ศ.2546 คนไทยร้อยละ 30 ดื่มสุรารวมแล้วสูงกว่า 3,691 ล้านลิตร  โดยวัยรุ่นชายดื่มเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 21 ส่วนวัยรุ่นหญิงดื่มเพิ่มขึ้นถึง 6 เท่า ในเวลา 7 ปี จากร้อยละ 1 เป็นร้อยละ 5.6 นอกจากนี้ยังพบว่าเยาวชนไทยที่เริ่มดื่มแอลกอฮอล์ตั้งแต่อายุ 10-13 ปีมีอัตราเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับการเพิ่มงบประมาณในการโฆษณาธุรกิจเหล้าจากจำนวน 1.9 พันล้านบาทในปี 2542 เป็น 2.4 พันล้านบาทในปี 2548 

 

          แพทย์หญิงพันธุ์นภา  กิตติรัตน์ไพบูลย์ อธิบายให้ฟังถึงพฤติกรรมการดื่มสุราของคนไทยว่า สำหรับกลุ่มผู้ดื่มสุราในประเทศไทยนั้น แบ่งได้เป็นหลายกลุ่มคือ กลุ่มที่ไม่ดื่มเลย กลุ่มดื่มจำกัด กลุ่มดื่มที่มีความเสี่ยง และสุดท้ายคือกลุ่มที่ดื่มอันตราย โดยในกลุ่มผู้ดื่มอันตรายนี้จะเป็นกลุ่มที่ดื่มหนักหรือที่เรียกว่าติดเหล้างอมแงม  เพราะกลุ่มนี้จะต้องดื่มเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง และถ้าหากไม่ได้ดื่มก็จะมีอาการต่างๆ เกิดขึ้น เช่น กระวนกระวาย มือไม้สั่น วิตกกังวล และประสาทหลอน เป็นต้น

 

           ส่วนในกลุ่มดื่มแล้วมีความเสี่ยง กลุ่มนี้ถือได้ว่าเป็นจำนวนนักดื่มกลุ่มใหญ่ของสังคม โดยพฤติกรรมการดื่มสุราของกลุ่มนี้ ก็จะเป็นการดื่มบ่อยๆ ดื่มเรื่อยๆ มีงานเลี้ยงหรือสังสรรค์ต่างๆ ก็ไป กลุ่มนี้จะคิดว่าตนไม่ได้ติดเหล้าเหมือนกับกลุ่มแรก แต่ปัญหาที่พบจากกลุ่มนี้ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากลุ่มแรก อย่างเช่น การขาดงาน การทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกาย รวมไปถึงปัญหาด้านสุขภาพที่เกิดกับตัวนักดื่มเองด้วย

 

          แพทย์หญิงพันธุ์นภา กล่าวต่อว่า ในส่วนของการรณรงค์เกี่ยวกับเหล้าในเรื่องต่างๆ นั้น จะต้องรณรงค์ในทุกกลุ่ม ไม่เน้นแค่กลุ่มผู้ที่ติดเหล้าหนักงอมแงมเพียงอย่างเดียว เพราะจะเห็นว่าปัจจุบันนักดื่มหน้าใหม่หรือนักดื่มที่เป็นส่วนใหญ่ของสังคมจะไม่ได้มีลักษณะการดื่มที่ต้องติดอย่างหนัก แต่จะเป็นการดื่มตลอดเรื่อยๆมากกว่า และในอนาคตอาจพัฒนาเป็นกลุ่มนักดื่มที่อันตรายขึ้นมาได้

 

          ในกลุ่มนักดื่มที่ชอบบอกว่าไม่ได้ติดเหล้า แต่ก็กินเป็นประจำ ก็ถือว่าน่าเป็นห่วงเพราะเขาอาจจะบอกได้ว่าวันนี้เขายังไม่เป็นอะไร ยังขับรถได้ ยังกลับบ้านได้ แต่ในวันข้างหน้าที่เขาดื่มสุรา อาจจะมีอุบัติเหตุที่เกิดจากสุราขึ้นมาก็ได้  ดังนั้น การรณรงค์เราต้องทำให้ครอบคลุมให้ได้มากที่สุด อย่างน้อยก็ต้องทำให้ผู้ที่ดื่มเหล้าลดปริมาณลงให้ได้มากที่สุด เพื่อที่ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากเหล้าจะได้ลดจำนวนลงตามแพทย์หญิงพันธุ์นภา กล่าว

 

มาดูตัวอย่างของนักดื่มสุราที่สามารถเอาชนะจิตใจตัวเองเลือกหันหลังให้กลับอบายมุขน้ำเมาได้

 

          ดำรงศักดิ์ ผัดตะคุ พนักงานบริษัทไท้เฮงการช่างและการหล่อ เล่าให้ฟังว่า เริ่มดื่มเหล้าตั้งแต่ตอนอายุ 14 ปี โดยในช่วงนั้น ตนมีเพื่อนฝูงเยอะ ประกอบกับที่เป็นวัยรุ่นทำให้รักสนุก และเมื่อเพื่อนชักชวนให้ดื่มเหล้าด้วยแล้ว ตนก็ไม่ปฏิเสธเพราะความอยากรู้ว่าเป็นยังไง จากนั้นจึงดื่มเรื่อยมา พอถึงช่วงที่ได้มาทำงาน ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่ดื่มหนักมากคือหลังเลิกงานก็จะเข้าร้านขายเหล้าทันที และจะเป็นอย่างนี้เป็นประจำทุกวัน และบางครั้งก็อาจดื่มก่อนเข้าทำงานเพราะความอยากสุรานั่นเอง

 

          ในช่วงที่ทำงานแล้วดื่มหนักนั้นก็ส่งผลกระทบหลายอย่างต่อครอบครัว เช่นเงินเดือนก็หมดไปกับค่าเหล้าเป็นส่วนใหญ่ทำให้ไม่มีเงินให้ภรรยา ให้ลูก นอกจากนั้นเวลาที่เมากลับมาบ้านแล้วเกิดมีปากเสียงกับภรรยาในบางครั้งตนก็มีการทำร้ายภรรยาจนได้รับบาดเจ็บ นอกจากผลกระทบที่มีต่อครอบครัวแล้ว เรื่องงานตนก็โดนฝ่ายบุคคลของบริษัทคาดโทษเนื่องจากตนดื่มสุราเข้าไปทำงาน

 

          ดำรงศักดิ์ เล่าต่อว่า จากนั้นตนก็เริ่มคิดได้ว่าเหล้ามันไม่ได้ส่งผลดีอะไรต่อตนและครอบครัว จึงพยายามตัดสินใจเลิกให้ได้ และเป็นจังหวะที่ดีมากที่ทางบริษัทได้ส่งตนเข้าไปอบรมการเลิกเหล้ากับทางสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า(สคล.)ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ตนสามารถตัดขาดน้ำเมาออกจากชีวิตได้

 

          เริ่มแรกผมก็ลดปริมาณการดื่มเหล้าลงก่อน จากนั้นก็ค่อยๆ ลดลงจนเลิกสำเร็จ ตอนนี้ก็เลิกมาเกือบ 2 ปีแล้วที่ไม่ได้เข้าไปแตะเลย และชีวิตหลังเลิกเหล้าของผมก็ดีขึ้นมาก ซึ่งเห็นได้ชัดเจนคือ ผมก็มีเงินเก็บในแต่ละเดือน สามารถให้ภรรยาและให้ลูกได้ใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้อย่างเป็นปกติและมีความสุขดำรงศักดิ์กล่าว

 

          วันงดดื่มสุราแห่งชาติ ถือเป็นวันที่ดีที่มีส่วนชักจูงคนในสังคมให้งดและห่างจากน้ำเมาต่างๆ ได้ แต่จะเป็นเรื่องที่ดียิ่งขึ้น หากจะเป็นการทำให้คอสุราทั้งหลายที่กลับตัวกลับใจ ใช้เป็นวันเริ่มงดเหล้าอย่างตลอดไป 

 

 

 

 

 

ที่มา: คมสัน ไชยองค์การ Team content www.thaihealth.or.th

 

 

 

Update: 28-07-53

อัพเดตเนื้อหาโดย: คมสัน ไชยองค์การ

 

 

 

Shares:
QR Code :
QR Code