วัณโรค รักษาหาย
ที่มา : สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา
แฟ้มภาพ
วัณโรค เป็นโรคติดต่อที่เกิดได้กับทุกส่วนของร่างกาย แต่ที่พบมากคือ วัณโรคปอด ติดต่อกันโดยผู้ป่วย ไอ หรือจาม ทำให้ผู้ที่อยู่ใกล้หายใจเอาเชื้อเข้าสู่ร่างกายแล้วติดโรค วัณโรคสามารถรักษาให้หายได้ด้วยการกินยาให้ครบทุกเม็ด สำหรับกลุ่มเสี่ยงวัณโรค ได้แก่ ผู้สัมผัสร่วมบ้าน ผู้ต้องขังในเรือนจำ บุคลากรสาธารณสุข ผู้ติดเชื้อเอชไอวี ผู้ป่วยเบาหวาน ผู้สูงอายุ และแรงงานข้ามชาติ
นายแพทย์กิตติ์พงศ์ สัญชาตวิรุฬห์ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา กล่าวถึงวัณโรคว่า ประเทศไทยเป็น 1 ใน 14 ประเทศที่มีปัญหาวัณโรครุนแรง ปัจจุบันมีผู้ป่วยวัณโรค 120,000 รายต่อปี มีผู้ป่วยวัณโรคที่ติดเชื้อเอชไอวี 15,000 ราย ผู้ป่วยวัณโรคในเรือนจำ 1,800 ราย และผู้ป่วยวัณโรคดื้อยาหลายขนาน 4,700 ราย เสียชีวิต 8,600 ราย ในปี 2562 เขตสุขภาพที่ 9 พบผู้ป่วยที่ขึ้นทะเบียนรักษาวัณโรคจำนวน 7,540 แยกเป็นรายจังหวัดดังนี้ จ.นครราชมี มีผู้ป่วย 2,629 ราย จ.บุรีรัมย์ มีผู้ป่วย 1,726 ราย จ.สุรินทร์ มีผู้ป่วย 2,014 ราย จ.ชัยภูมิ มีผู้ป่วย 1,171 ราย กลุ่มเสี่ยงวัณโรค ได้แก่ ผู้สัมผัสร่วมบ้าน ผู้ต้องขังในเรือนจำ บุคลากรสาธารณสุข ผู้ติดเชื้อเอชไอวี ผู้ป่วยเบาหวาน ผู้สูงอายุ และแรงงานข้ามชาติ เมื่อไหร่ที่ควรตรวจหาวัณโรค คำตอบคือ เมื่อมีอาการไอติดต่อกันเกิน 2 สัปดาห์ ไอมีเสมหะปนเลือด มีเหงื่อออกผิดปกติในเวลากลางคืน เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย น้ำหนักลด หรือเป็นผู้อาศัยร่วมบ้านกับผู้ป่วยวัณโรค เป็นผู้ติดเชื้อเอชไอวี หรือผู้ป่วยเอดส์ หรือมีประวัติต้องขังในเรือนจำ
นายแพทย์กิตติ์พงศ์ สัญชาตวิรุฬห์ กล่าวต่อไปว่า วัณโรค เป็นโรคที่รักษาหายได้ เนื่องจากมียารักษาที่มีประสิทธิภาพสูง ใช้เวลารักษาเพียง 6-8 เดือน ต้องกินยาให้ครบทุกเม็ด ครบทุกมื้อ และไม่หยุดยาเอง ในการป้องกันไม่ให้ป่วยเป็นวัณโรค ควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรงโดยการออกกำลังกาย กินอาหารครบ 5 หมู่ อย่าคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วยวัณโรค หากมีผู้ป่วยวัณโรคอยู่ในบ้าน ต้องดูแลให้กินยาครบ ผู้อาศัยร่วมบ้านกับผู้ป่วยวัณโรคควรตรวจร่างกาย โดยการเอกซเรย์ปอดอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง หากมีอาการผิดปกติ น่าสงสัยว่าจะเป็นโรคควรรีบไปพบแพทย์และตรวจเสมหะ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค1422