ที่มา: เดลินิวส์

แฟ้มภาพ

          อธิบดีกรมควบ คุมโรคยันวัคซีนป้องกันหมาบ้าไม่ขาด แคลน-แค่ขาดมือ เผยมีกระจายในรพ.ทั่วประเทศกว่า 1.6 แสนโดส กำชับ สสจ.ทุกจังหวัดบริหารจัดการให้ดีอย่าให้ขาดมือ ระบุสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมมีโอกาสติดเชื้อพิษสุนัขบ้าทั้งสิ้น ขณะที่ปศุสัตว์จังหวัดนครราชสีมาลงพื้นที่เยี่ยมครอบครัว "หมูบ้า" วอนประชาชนอย่าได้ตื่นตระหนก หมูในตลาดสามารถซื้อบริโภคได้อย่างปลอดภัย

          จากกรณีที่สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดนครราชสีมา ตรวจพบเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าระบาดในสัตว์ชนิดอื่น โดยเฉพาะที่หมู่บ้านบึงตะโก หมู่ 7 ต.พลกรัง อ.เมือง จ.นครราชสีมา พบเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าในหมู 1 ตัว ภายหลังจากที่ถูกสุนัขจรจัดกัดแล้วมีอาการป่วยชักดิ้นตายในเวลาต่อมา ซึ่งทางปศุสัตว์ได้ส่งตัวอย่างหัวหมูไปตรวจที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการสัตวแพทย์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง จ.สุรินทร์ แล้วผลออกมาว่าพบเชื้อพิษสุนัขบ้านั้น

          นาย พศวีร์ สมใจ ปศุสัตว์จังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย ร.ท.สำรวจ เกียนประโคน หัวหน้าชุดปฏิบัติการกองร้อยรักษาความสงบ มทบ.21 และเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์จังหวัดนครราชสีมา ได้ลงพื้นที่บ้านเลขที่ 176 หมู่บ้านบึงตะโก หมู่ 7 ต.พลกรัง พบกับนางพิน นูพลกรัง อายุ 75 ปี เจ้าของหมูที่ตายจากโรคพิษสุนัขบ้า เพื่อเยี่ยมครอบครัว หลังจากที่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้กับคนในครอบครัวแล้วทั้ง 19 คน พร้อมกันนี้ยังได้ชี้แจงทำความเข้าใจกับชาวบ้าน เพื่อไม่ให้แตกตื่นกับข่าวนี้

          นายพศวีร์ กล่าวว่า หลังจากที่ทางปศุสัตว์จังหวัดนครราชสีมาได้ตรวจพบว่าหมูตัวนี้ติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า จึงได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้กับคนในครอบครัวที่สัมผัสกับหมูตัวนี้ทั้ง 19 ราย นอกจากนี้ยังได้ฉีดวัคซีนให้กับสุนัขและแมวในหมู่บ้านบึงตะโกทั้งหมู่บ้าน 100 เปอร์เซ็นต์ รวมทั้งหมดกว่า 200 ตัว ส่วนสุนัขจรจัดที่มากัดหมูนั้น ขณะนี้ยังไม่พบซาก คาดว่าจะหนีไปตายในป่าแห่งใดแห่งหนึ่งในบริเวณใกล้เคียง

          ส่วนสถานการณ์โรคพิษสุนัขบ้าในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ขณะนี้ตรวจพบสุนัขและแมวป่วยเป็นโรคพิษสุนัขบ้า จำนวน 49 ตัว ใน 14 อำเภอ จากสุนัขและแมวทั้งหมดในพื้นที่ 32 อำเภอ จำนวน 470,000 ตัว เฉลี่ยใน 10,000 ตัว มีสุนัขและแมวป่วยพิษสุนัขบ้า 1 ตัว และยืนยันว่าเนื้อหมูที่จำหน่ายในตลาดที่ จ.นครราชสีมา สามารถซื้อไปบริโภคได้อย่างปลอดภัย เพราะหมูเหล่านั้นมาจากฟาร์มที่เลี้ยงได้อย่างมาตรฐาน ขอให้ประชาชนอย่าได้ตื่นตระหนก

          ทางด้าน นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าในคนมีไม่เพียงพอว่า ขอย้ำว่าวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าในคนไม่ได้ขาดแคลนอย่างที่เข้าใจ แต่เป็นเรื่องของการขาดมือ จากการตรวจสอบจากสถานพยาบาลทั่วประเทศพบว่ายังมีอยู่ตามสถานพยาบาล ต่าง ๆ 1.6 แสนโดส ซึ่งได้กำชับให้ทางนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด เป็นผู้สั่งการและติดตามว่า รพ.แต่ละแห่งของจังหวัดตนเองมีวัคซีนจำนวนเท่าไร และอยู่ในพื้นที่ระบาดหรือไม่ หากไม่อยู่ในพื้นที่ระบาดสัตว์และมีวัคซีนเพียงพอ ก็ให้รพ.ที่มีไม่พอมาหยิบยืมไปก่อน ซึ่งเรื่องนี้อยู่ที่การบริหารจัดการ

          อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวต่อว่า ส่วนข้อเสนอองค์การอนามัยโลกให้ปรับลดการฉีดวัคซีนลงจาก 28 วัน เหลือ 7 วัน หรือตัดเข็มสุดท้ายออกนั้น ต้องรอพิจารณาอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ ซึ่งเบื้องต้นทางกรมฯ ได้ออกแนวทางเวชปฏิบัติการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ส่งให้แก่ผู้ตรวจราชการกระทรวงทั้ง 12 เขตพื้นที่ เพื่อสื่อสารไปยัง รพ.ทั้งหมด โดยการฉีดในคนล่วงหน้าก่อนสัมผัสโรคนั้น เน้นให้เฉพาะประชากรกลุ่มเสี่ยง ส่วนการลดจำนวนการฉีดวัคซีนนั้นขอแนะนำให้พิจารณาตามพื้นที่ เพราะหากพื้นที่ไม่มีการระบาดในสัตว์ก็อาจปรับลดตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลกได้ สำหรับกรณีที่พบว่ามีหมูติดเชื้อพิษสุนัขบ้าตายนั้นไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมมีโอกาส ติดเชื้อพิษสุนัขบ้าได้ทั้งสิ้น แต่โดยหลักการ แล้วสัตว์ทุกประเภทหากป่วยตายไม่ควรนำมา รับประทาน แม้ว่าจะปรุงสุกก่อนก็ตาม เพราะมีโอกาสได้รับเชื้อโรคต่าง ๆ ในช่วงที่ชำแหละ