ลอยกระทงปลอดเหล้า สุขใจ ไร้น้ำเมา

ประเพณีงามที่ไม่ควรเอาเหล้ามาเอี่ยว

 

ลอยกระทงปลอดเหล้า สุขใจ ไร้น้ำเมา            อีกไม่กี่วันข้างหน้าในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน ก็จะมีงานประเพณีลอยกระทงเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของไทย อันเป็นงานประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์ ควรค่าแก่การอนุรักษ์และฟื้นฟูให้คงอยู่คู่กับประเทศชาติและท้องถิ่น อย่างไรก็ตาม มีงานวิจัยที่ชี้ว่าเครื่องดื่มที่ครองแชมป์ในเทศกาลลอยกระทงยังคงเป็นเหล้าและเบียร์ ทั้งวัฒนธรรมการลอยกระทงของคนไทยที่หัวใจสำคัญ คือ การขอขมาพระแม่คงคา ลอยทุกข์โศก เปลี่ยนมาสู่วัฒนธรรมใหม่ๆ กิน ดื่ม สนุกสนาน จนหลายฝ่ายในสังคมวิตกกังวล ที่เทศกาลลอยกระทงมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้ามาพัวพัน สถานที่หลายแห่งกลายเป็นแหล่งมั่วสุม มอมเมาเยาวชนไทย ถึงขั้นมีผลวิจัยระบุชัดว่า เด็กสาวเสียตัวจำนวนมากในคืนวันลอยกระทง ซึ่งแอลกอฮอล์เป็นตัวเร่งให้เยาวชนขาดสติ จนเกิดพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ยังไม่เอ่ยถึงอุบัติเหตุ การทะเลาะวิวาทในคืนวันลอยกระทง ผลพวงจากการดื่มน้ำเมา

 

            หลายปีที่ผ่านมามีการรณรงค์สืบสานงานบุญประเพณีลอยกระทงแบบไร้แอลกอฮอล์ เพราะเป็นที่รู้กันดีว่าปัจจัยหนึ่งในการทำลายวัฒนธรรมประเพณี คือ การปล่อยให้น้ำเมาครอบงำวัฒนธรรม ไม่ช่วยกันดูแลรักษา หลายพื้นที่ตอบรับการจัดงานบุญโดยมีนโยบายชัดเจน “ปลอดเหล้า” ซึ่งช่วยลดปัญหาสังคมต่างๆ ลงได้ ผู้คนตลอดจนครอบครัวที่พาบุตรหลานมาเที่ยวงานก็รู้สึกปลอดภัย เช่นเดียวกับปีนี้ที่ทางสำนักงานกองทุนสนับสนุนสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ผนึกกำลังกับสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) สานต่องานบุญประเพณีสำคัญนี้จัดโครงการเทศกาลลอยกระทงปลอดเหล้า ปี 2552 ภายใต้แนวคิดเก๋ไก๋ “ลอยกระทงปลอดเหล้า บุญจะส่งให้เราสุขใจ” โดยเชิญชวนพื้นที่ท่องเที่ยวทั่วไทยที่มีงานประเพณีลอยกระทงโดดเด่นร่วมบังคับใช้ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่เน้นห้ามจำหน่ายและดื่มในสถานที่สำคัญทางศาสนา สถานที่ราชการและในสวนสาธารณะ

 

            ลอยกระทงปีนี้ชวนไปเที่ยวแบบไร้แอลกอฮอล์ในพื้นที่ต่างๆ เริ่มจากงานลอยกระทงเผาเทียนเล่นไฟ  ปลอดเหล้า ณ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย จ.สุโขทัย วันที่ 31 ตุลาคม – 2 พฤศจิกายน 2552, งานม่วนอ๊กม่วนใจ๋ แอ่วยี่เป็งเจียงใหม่ ไร้แอลกอฮอล์ จ.เชียงใหม่ ในวันที่ 1-3 พฤศจิกายนนี้, ลอยกระทงสายไหลประทีป 1000 ดวง ของชาวเมืองตาก ก็ตระหนักถึงคุณค่าของประเพณีที่เกิดจากภูมิปัญญาท้องถิ่น ใช้กะลามะพร้าวทำกระทง ปล่อยลอยเป็นสายตามลำน้ำ ขอร่วมรณรงค์ปลอดเหล้าเพื่อไปสู่งานลอยกระทงปลอดเหล้าให้ได้ในที่สุด ที่เมืองพิษณุโลกก็ขอชูธงนำจัดงานประเพณีปลอดเหล้า ในมหกรรมอาหารงานประเพณีลอยกระทงปลอดเหล้า-เบียร์ จังหวัดพิษณุโลก วันที่ 28 ตุลาคม – 3 พฤศจิกายนนี้ แล้วยังมีงานลอยกระทงในมหกรรมสภาวัฒนธรรมภาคตะวันออก จังหวัดนครนายก

 

            ส่วนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พบกันได้ที่งานประเพณีลอยกระทงวิถีแห่งสายน้ำ วัฒนธรรมบางลำพู ณ สวนสันติชัยปราการ บางลำพู ในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2552 อีกแห่งเป็นงานลอยประทีปวัดอรุณฯ รำลึกคุณเจ้าพระยา ไม่พึ่งพาน้ำเมา วันที่ 2 พฤศจิกายน ข้ามมาทางฝั่งธนกันบ้าง มีเทศกาลอาหาร…อร่อยได้ไร้แอลกอฮอล์ในงานลอยกระทงฝั่งธนฯ มกธ. เขตทวีวัฒนา ระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม – 2 พฤศจิกายนนี้

 

            “งานประเพณีเดือนยี่เป็งของชาวเชียงใหม่ ไม่ต้องการให้ขี้เมามาอาละวาดหรือก่อความไม่สงบภายในงานบุญของเรา ในพื้นที่จะบังคับใช้ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อย่างเข้มงวด ห้ามจำหน่ายสุราในถนนสายหลักของเมือง ถ้าฝ่าฝืนกฎหมายจะถูกจำคุกหรือปรับตามที่กฎหมายกำหนด ขอเน้นว่าเมาแล้วอยู่ที่บ้าน ไม่ต้องมาร่วมงาน เพราะเราต้องการให้คนไปเที่ยวสนุก ปลอดภัย ไร้กังวล สมกับชื่องาน “ม่วนอ๊กม่วนใจ๋ แอ่วยี่เป็งเจียงใหม่ ไร้แอลกอฮอล์” ดร.เคน สันติธรรม ปลัดเทศบาล ปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ซึ่งควบคุมหน่วยงานที่จัดงานประเพณีเดือนยี่เป็ง หนึ่งในพื้นที่ที่ชูธงนำจัดงานบุญประเพณีลอยกระทงปลอดเหล้ากล่าว

 

            ด้าน ศุภชัย เหลืองแสงทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย กล่าวว่า อยากเชิญชวนทุกคนมาร่วมสืบสานประเพณีลอยกระทง เผาเทียนเล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย ซึ่งกิจกรรมต่างๆ ตลอดจนการแสดงแสงเสียงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์กรุงสุโขทัย ตำนานขบวนเรือท้าวศรีจุฬาลักษณ์ จะจัดภายในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก สิ่งสำคัญประการหนึ่งที่เราไม่เคยละลายเวลาจัดงานใหญ่ มาตรการป้องกันอุบัติเหตุจากดอกไม้ไฟ พลุ ตะไล ไฟพะเนียง และการเกิดอัคคีภัย ตลอดจนการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ห้ามขายและดื่มในสถานที่จัดงานประเพณี เพื่อรักษาประเพณีอันดีงาม และเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวงาน มั่นใจว่าทุกคนจะได้รับความสนุกสนานและความเป็นมงคลเมื่อมาร่วมงานประเพณีที่เมืองมรดกโลก

 

            ต้องบอกว่าทุกพื้นที่ล้วนมีเจตนารมณ์เดียวกันจัดงานบุญประเพณีต่างให้สนุกสนาน และแฝงด้วยคติธรรมที่เป็นประโยชน์ ในแบบอย่างแห่งการเสริมสร้างงานบุญประเพณีและวัฒนธรรมปลอดเหล้า ทั้งยังส่งเสริมให้คนไทยมีสุขภาพแข็งแรง ที่สำคัญปลูกฝังค่านิยมให้คนไทย โดยเฉพาะเยาวชนคนรุ่นใหม่ตระหนักถึงการสืบสานอนุรักษ์ประเพณีของไทยไว้ และสนุกสนานในเทศกาลสำคัญโดยไร้แอลกอฮอล์

 

 

 

 

 

 

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์

 

 

Update 11-12-52

 

อัพเดทเนื้อหาโดย : อารยา สิงห์สวัสดิ์

Shares:
QR Code :
QR Code