รู้จัก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มาตรการขั้นสุดคุมโควิด 19 COVID-19

ที่มา : มติชนออนไลน์


รู้จัก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มาตรการขั้นสุดคุมโควิด 19 COVID-19 thaihealth


แฟ้มภาพ


เปิด 6 ข้อห้ามในพรก.ในสถานการณ์ฉุกเฉินพ.ศ.2548  เพื่อยกระดับการป้องกันการระบาดโควิด-19


เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2563พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ขออำนาจคณะรัฐมนตรีออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 โดยจะมีการกำหนดรายละเอียดเรื่องพื้นที่และแนวปฏิบัติหลังจากมติ ครม.ออกมาในช่วงบ่ายวันนี้ เพื่อควบคุมการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19


ในกรณีที่มีความจำเป็นเพื่อแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินให้ยุติลงได้โดยเร็ว หรือป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงมากขึ้น ให้นายกรัฐมนตรีมีอำนาจออกข้อกำหนด


(1) ห้ามมิให้บุคคลใดออกนอกเคหสถานภายในระยะเวลาที่กำหนด เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือเป็นบุคคลซึ่งได้รับการยกเว้น


(2) ห้ามมิให้มีการชุมนุมหรือมั่วสุมกัน ณ ที่ใดๆ หรือกระทำการใดอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย


(3) ห้ามการเสนอข่าว การจำหน่าย หรือทำให้แพร่หลายซึ่งหนังสือ สิ่งพิมพ์ หรือสื่ออื่นใดที่มีข้อความอันอาจทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัวหรือเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารทำให้เกิดความเข้าใจผิดในสถานการณ์ฉุกเฉิน


(4) ห้ามการใช้เส้นทางคมนาคมหรือการใช้ยานพาหนะ หรือกำหนดเงื่อนไขการใช้เส้นทางคมนาคมหรือการใช้ยานพาหนะ


(5) ห้ามการใช้อาคาร หรือเข้าไปหรืออยู่ในสถานที่ใดๆ


(6) ให้อพยพประชาชนออกจากพื้นที่ที่กำหนดเพื่อความปลอดภัยของประชาชนดังกล่าว หรือห้ามผู้ใดเข้าไปในพื้นที่ที่กำหนด


พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกระแสข่าวเตรียมการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อแก้ปัญหาการระบาดของไวรัสโควิด-19 ว่าขึ้นอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม จะพิจารณา แต่ทราบว่าขณะนี้ได้เตรียมการใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 เพื่อเป็นเครื่องมือในการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสดังกล่าว แต่สิ่งสำคัญในการลดการแพร่ระบาดนั้น ทุกคนจะต้องร่วมมือกันปฏิบัติตามหลักการที่กระทรวงสาธารณสุขขอความร่วมมือ


พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า ส่วนเรื่องการปิดด่านชายแดนนั้น ได้ดำเนินการปิดด่านตามแนวชายแดนแล้ว ยกเว้นเพียงจุดที่มีคนไทยต้องเดินทางกลับเข้ามา ซึ่งมีทีมแพทย์ดูแลผู้ป่วย หากมีบุคคลต้องสงสัยทีมแพทย์ก็จะดูแลดำเนินการตามขั้นตอนในการคัดกรองและกักตัวเช่นกัน


“ขอแนะนำประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาว่า จะต้องปฏิบัติตัวตามที่กระทรวงสาธารณสุขแนะนำ เพื่อไม่ทำให้เกิดเชื้อแพร่กระจาย เพราะหากร่วมมือและดูแลตัวเองก็จะควบคุมสถานการณ์ได้ ผมเชื่อว่า ความร่วมมือถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะลดการแพร่ระบาดของโรคได้ สถานการณ์ก็จะสงบได้เช่นกัน แม้หากจะมีกฎหมายออกมา แต่ความร่วมมือของประชาชนถือว่าสำคัญที่สุด หากประชาชนทุกภาคส่วนร่วมมือกันก็จะเกิดประโยชน์ และแก้ปัญหาลดการแพร่ระบาดของโรคได้” พล.อ.อนุพงษ์กล่าว


 

Shares:
QR Code :
QR Code