‘รุ่นใหญ่ไฟกระพริบ’ จุดไฟเติมพลังรุ่นใหญ่ 50+
ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด
ภาพประกอบจากเว็บไซต์แนวหน้า
สังคมสูงวัย..ไม่ใช่เรื่องไกลตัว ขณะที่ผู้สูงอายุในปัจจุบันก็มีอยู่หลากหลายพฤติกรรม ทั้งประเภทที่เปิดตัวออกสู่สังคม กลุ่มติดบ้าน กลุ่มเจ็บป่วยช่วยตัวเองไม่ได้ หากต้องการสร้างสังคมสูงวัยของไทยเข้มแข็ง จำเป็นต้องเตรียมความพร้อมรับมือตั้งแต่ก่อนสูงวัย ให้มีความตระหนักและเข้าใจ หันมาใส่ใจดูแลตนเองให้พร้อมทั้งกายและใจสู่การมีสุขภาวะที่ดี
เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับมูลนิธิฟอร์ดเวิร์ด (Forword Foundation) จัดเทศกาลงานผู้สูงอายุ "รุ่นใหญ่ไฟกระพริบ" ขึ้นที่ช่างชุ่ย ร้านอาเหนกป้าสง เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้แก่ผู้สูงวัย สร้างความเข้าใจให้รุ่นใหญ่ฟิตและมีไฟเสมอ โดย นางภรณี ภู่ประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะประชากร กลุ่มเฉพาะ สสส. กล่าวว่า ปัจจุบันผู้สูงอายุของประเทศไทยมีประมาณ 11.3 ล้านคน คิดเป็น 16.7% เพราะจากการเกิดของประชากรที่ลดลง ประชากรอายุยืนยาวขึ้น
ทั้งนี้ ในปี 2562 นับเป็นครั้งแรกที่โครงสร้างประชากรไทยจะมีจำนวนผู้สูงอายุมากกว่าวัยเด็ก และคาดว่าจำนวนผู้สูงอายุจะเพิ่มขึ้นทุกปี ปีละประมาณ 1 ล้านคน เท่ากับ 1 ใน 5 ประชากรเป็นผู้สูงอายุ ดังนั้น จึงต้องปรับตัวเพื่ออยู่ร่วมกันกับสังคมผู้สูงอายุ และต้องเตรียมพร้อมในหลายด้าน โดยเฉพาะสุขภาพ ผู้สูงอายุส่วนใหญ่จะป่วยโรคติดต่อไม่เรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิต ฯลฯ ซึ่งการดูแลไม่ให้เป็นโรคติดต่อไม่เรื้อรัง ทำได้ไม่ยาก มีตั้งแต่การออกกำลังกาย ซึ่งสำหรับผู้สูงอายุการเต้นอาจจะไม่เหมาะกับทุกคน อาจจะปรับมาใช้วิธีการเดิน ทำงานบ้าน ยังมีเรื่องการ รับประทานอาหาร ที่ต้องควบคุมให้มีสารอาหารให้ครบถ้วน การพักผ่อนให้เพียงพอ
"ที่สำคัญต้องส่งเสริมให้ผู้สูงอายุมีกิจกรรมทางสังคม ซึ่งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดจะมีชมรมผู้สูงอายุที่เปิดพื้นที่ให้ผู้สูงอายุออกจากบ้านมาร่วมกันทำกิจกรรม สำหรับเทศกาลงานผู้สูงอายุ "รุ่นใหญ่ไฟกระพริบ" ก็เป็นอีกกิจกรรมที่ต้องการสื่อสารให้ทุกคนเห็นพลังและคุณค่าในตัวผู้สูงอายุ สามารถทำกิจกรรมได้เช่นคนวัยอื่นๆ ได้แสดงศักยภาพใน ตัวเอง ขณะเดียวกัน สสส.ก็ให้ความสำคัญกับองค์กรที่เข้ามาช่วยขับเคลื่อนงาน โดยเฉพาะโครงการ For oldy ของคุณอรนุช เลิศดิลก ที่เข้าไปยังชุมชนนำกิจกรรมไปพัฒนาผู้สูงอายุ ทั้งการออม การสันทนาการ รวมถึงมูลนิธิฟอร์เวิร์ดมาร่วมสนับสนุน กระตุ้นให้เกิดการเตรียมพร้อมของคนวัยใกล้เคียงผู้สูงอายุ เพื่อเป็นผู้สูงอายุที่มีคุณภาพในอนาคต และพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุอย่างเหมาะสม"นางภรณี กล่าว
ไฮไลท์ของเทศกาลงานผู้สูงอายุ "รุ่นใหญ่ไฟ กระพริบ" ต้องยกให้กับการประกวดการเต้นหนุ่มสาววัย 50+ (พลัส) จำนวน 3 ทีมที่เป็นการรวมตัวของ 6 ชุม ได้แก่ "ทีมสาวเหลือน้อย" จากชุมชนพูนทรัพย์และวัดลุ่ม(เพิ่มสิน18), "ทีมโสดในเฟซ" จากชุมชนสิริศาสน์และตรอกต้นโพธิ์ (ศรีย่าน ซอย 3) และ "ทีม BNK68" จากชุมชนแฟลตเอื้ออาทรบ้านมั่นคง ที่แต่ละทีมจัดเต็มทั้งเสื้อผ้า หน้าผม แดนซ์กันสะบัด สนุกสนาน เรียกเสียงปรบมือ และรอยยิ้มแก่ผู้ร่วมกิจกรรม ตลอดจนเหล่าแฟนคลับที่มาเชียร์ จนหลายคนอดที่จะโยกย้ายตามไม่ได้
ที่สุดแล้ว..ผลการตัดสินโดยคณะกรรมการได้แก่ จิ๊ก เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์, ก้อย รัชวิน, ณัทธนพล ทินโรจน์ หรือ ฟิลลิปส์ The Face Man เทคะแนนให้ "ทีมโสดในเฟซ" ชนะเลิศการประกวดคว้ารางวัลเที่ยวและปฏิบัติธรรมที่ไร่เชิญตะวัน จ.เชียงราย เป็นเวลา 3 วัน 2 คืน ส่วนรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 และ 3 ตกเป็นของทีมสาวเหลือน้อย และทีม BNK68 ตามลำดับพร้อมรางวัลท่องเที่ยวและปฏิบัติธรรม ที่ จ.ปทุมธานี เป็นเวลา 1 วัน
ธัญวัลย์ ธิติเลิศภัสร์ วัย 62 ปี จากชุมชนสิริศาสน์และหัวหน้าทีมโสดในเฟซ กล่าวว่า ต้องขอบคุณทุกหน่วยงานที่จัดให้กิจกรรมนี้ ทำให้ผู้สูงอายุได้แสดงออก ได้มีความสุขเพราะเป็นกิจกรรมที่หลายคนไม่เคยได้ทำมาก่อนถือเป็นครั้งแรก แม้ทุกคนไม่เคยมีพื้นฐานการเต้นมาก่อน มีน้องๆ มาช่วยฝึกซ้อมให้ตามโจทย์เพลงที่ได้รับมอบ ทั้งนี้ กิจกรรมดังกล่าวไม่ใช่แค่ให้ความสุข ความสนุกยังเป็นการให้เราได้ออกกำลังกาย ที่สำคัญเป็นการดึงให้ผู้สูงอายุในชุมชนออกมาพบปะพูดคุยกัน เป็นสิ่งที่ดีมากๆ ทำให้ผู้สูงอายุได้รู้ว่าการออกจากบ้านมาพบคนอื่นๆ มันดีอย่างไร ต้องไม่มัวอ้างว่าเลี้ยงหลาน เพราะทุกอย่างเราจัดการเวลาได้ เราต้องหาความสุขเพื่อตัวเองด้วย อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาชุมชนจึงพยายามจัดกิจกรรมให้ทุกคนทุกวัยได้ร่วมกันทำ เช่น สงกรานต์ วันเข้าพรรษา ก็มาร่วมกันทำบุญ เป็นต้น
"อยากให้คนรุ่นใหม่หันมาใส่ใจผู้สูงอายุ จะทำกิจกรรมแบบนี้ก็ได้หรือถ้ามีอะไรดีๆ ก็เอามาแนะนำมาสอนผู้สูงอายุได้ การได้พูดคุยก็ช่วยให้เขามีความสุข สดชื่น อย่างทุกวันนี้ก็มีแพทย์ พยาบาลเข้าไปช่วยดูแลผู้สูงอายุป่วยติดเตียง" ธัญวัลย์ กล่าว
เช่นเดียวกับหนุ่มหล่อหนึ่งเดียวของทีมโสดในเฟซ วิมล ชูกลิ่น วัย 78 ปี กล่าวว่า ชอบกิจกรรมนี้มากทำให้ผู้สูงอายุได้ทั้งความสนุกและได้ออกกำลังกายไปพร้อมกัน และได้ทำสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน ซึ่งกิจกรรมลักษณะนี้ไม่ค่อยมีเกิดขึ้นก็อยากให้จัดขึ้นบ่อยๆ