รายการแผ่นดินไท ในรูปแบบดีวีดี สื่อสาธารณะ

ปลุกความคิด เปลี่ยนความเชื่อ คืนสู่ความเป็นไท

รายการแผ่นดินไท ในรูปแบบดีวีดี สื่อสาธารณะ 

           าแล้ว ! รายการแผ่นดินไท ในรูปแบบของดีวีดี รายการสารคดีที่เกิดขึ้นเพื่อตั้งคำถามและสะกิดให้สังคมไทย หันมาค้นหาคำตอบและแสวงหาทางออกว่า เราจะอยู่บนโลกใบนี้อย่างมีความสุขอย่างยั่งยืนได้อย่างไร ในห้วงเวลาที่ประเทศชาติกำลังเผชิญหน้ากับภาวะวิกฤติในทุกด้าน จากกระแสโลกาภิวัฒน์และความผันผวนของโลกที่ถูกครอบงำด้วยระบบทุนนิยม

 

           แผ่นดินไท เพื่อไท เป็นไท ยืนหยัด อยู่ได้ อย่างยั่งยืน สารคดีที่จะปลุกความคิด เปลี่ยนความเชื่อ ให้ผู้คนกล้าที่จะก้าวออกจากระบบเก่าคืนสู่ความเป็นไท และอยู่บนลำแข้งของตนเอง ประกอบด้วยวีซีดี ชุดที่ 1-6  รวม 12 ตอน

 

รายการแผ่นดินไท ในรูปแบบดีวีดี สื่อสาธารณะ 

          โดยในชุดแรกจะแบ่งออกเป็น 4 ตอน คือ ตอนที่1 แผ่นดินวิกฤติ : เมื่อทุนนิยมเติบโตอย่างไร้ขอบเขต ความโลภครอบงำโลกไปทั่วทุกหัวระแหง มนุษย์ตักตวงเอาความรุมรวยจากโลกอย่างเกินพอดี จึงเกิดภาวะวิกฤติขึ้นทั่วแผ่นดินโลกรวมถึงแผ่นดินไทย มีหนทางใดที่จะแก้วิกฤติแผ่นดิน

 

          ตอนที่ 2 ชะตากรรมเกษตรเชิงเดี่ยว : เมื่อรากฐานกสิกรรมเปลี่ยนจากการทำเพื่อกิน เป็นการทำเพื่อขาย เกษตรกรไทยก็เริ่มเดินเข้าสู่กับดักของชะตากรรม หันไปพึ่งพาปัจจัยภายนอก พึ่งพิงตัวเองไม่ได้ถูกเลี้ยงไข้จนกลายเป็นทาสของระบบทุน

 

          ใน ตอนที่ 3 เคลื่อนพลคนพอเพียง : ทามกลางถนนสายใหญ่ ที่ดูดกลืนผู้คนเข้าสู่กระแสทุน คนจำนวนหนึ่งจากทั่วทุกภาคของแผ่นดิน ลุกขึ้นยืนหยัดเผชิญหน้ากับพายุแห่งทุน ด้วยศรัทธาต่อหนทางแห่งความพอเพียงและการพึ่งพาตนเอง

 

          และ ตอนที่ 4 ลุงนิล คนของความสุข : อดีตชายเจ้าของสวนทุเรียนเชิงเดี่ยว ผู้ค้นพบว่า เงิน ความร่ำรวย ความโลภ ไม่สามารถตอบโจทย์ความสุขที่แท้จริงได้ แต่ความสุขที่แท้ ชีวิตที่มีความหมาย ความมั่งคั่งที่แท้จริง ล้วนมาจากการให้และการแบ่งปัน

 รายการแผ่นดินไท ในรูปแบบดีวีดี สื่อสาธารณะ

          ชุดที่ 2 แบ่งเป็น 2 ตอน คือ ตอนที่ 1  ผักปลอดสารพิษ เพื่อชีวิตที่ยั่งยืน : ผัก คือหนึ่งในอาหารหลัก 5 หมู่ ที่ใครหลายคนนิยมรับประทาน เพราะคุณสมบัติของ ผักเต็มไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ อุดมไปด้วย วิตามิน แร่ธาตุ เส้นใยอาหาร แต่เมื่อ ผักติดอันดับ อาหารพิษ ที่ทำร้ายชีวิตมนุษย์ จากการโหมกระหน่ำใช้สารเคมีทางการเกษตร ซึ่งสารเคมีที่ตรวจพบในปริมาณมากคือสารเคมีที่มากับยาปราบศัตรูพืช สถานการณ์ความเจ็บป่วยจากสารพิษตกค้างของทั้งเกษตรกรและผู้บริโภค คือสัญญาณอันตรายยืนยันว่า ผัก สวยที่เราเลือกซื้อหาได้ง่ายทุกๆ วันในท้องตลาด อาจเป็นผักไม่ปลอดภัย!

 

          ทางเลือกและทางรอดของผู้บริโภค คือการคัดกรองผักเคมีที่จะเข้ามาสู่ท้องตลาด ด้วยการตรวจสอบปริมาณสารพิษตกค้างที่ต้นทาง เช่นที่ ตลาดค้าส่งผักหลายแห่งได้ปฏิบัติอย่างเคร่งครัดมาเป็นเวลาหลายปี และขั้นตอนการเฝ้าระวังของผู้โภค คือ กินผักตามฤดูกาลเพราะใช้สารเคมีในการเพาะปลูกน้อย การเลือกซื้อผักให้ปลอดภัย ด้วยวิธีสังเกตด้วยตาเปล่า หรือการเลือกซื้อผักจากแหล่งที่ไว้ใจได้ และการปลูกผัก กินเองที่บ้านโดยไม่ใช้สารเคมี อาจเป็นวิธีที่ทำให้คุณมั่นใจในความปลอดภัยของ ผัก ได้มากที่สุด

 

          และตอนที่ 2 เรื่อง สมุนไพร ตำรับยาสามัญประจำชาติ : ในขณะที่คนส่วนใหญ่พึ่งพิงยาแผนปัจจุบันเป็นหลัก ยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่พึ่งพาตนเองได้โดยไม่ต้อง เดินเข้าร้านขายยา เช่นที่หมู่บ้านโคกสวาย จ.สุรินทร์ ที่ใช้สมุนไพรในการบรรเทาอาการเจ็บป่วยในเบื้องต้น และยังมีหมอพื้นบ้านมากถึง 15 คน ซึ่งยังคงยึดมั่นในตำรับตำรายาแผนโบราณที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น

 

          ที่สำคัญในหมู่บ้านนี้ยังมีป่าทามที่เปรียบเหมือนคลังอาหารของหมู่บ้าน เพราะป่าที่นี่เป็นทั้งโรงอาหารให้ชาวบ้านได้เข้ามาหากิน และยังเป็นเหมือนตู้ยาสามัญประจำบ้านที่ชาวบ้านสามารถเดินเข้ามาหาพืชสมุนไพรกลับไปใช้ได้มากกว่า 200 ชนิด !!! และยังคงสืบสานการใช้สมุนไพร เพื่อรักษาโรค และสร้างสุขภาวะที่ยั่งยืนได้อย่างพอเพียงและเป็นจริง

รายการแผ่นดินไท ในรูปแบบดีวีดี สื่อสาธารณะ 

          ชุดที่ 3 คือเรื่อง ออกกำลังกาย ทางรอดเพื่อสุขภาพ : จากผลสำรวจของกระทรวงสาธารณสุขพบว่าการเสียชีวิตของผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาตัวตามสถานพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศ การเสียชีวิต อันดับ 1 มาจากกลุ่มโรคมะเร็ง โรคหัวใจ และโรคความดันโลหิตสูง และเมื่อมองถึงค่าเฉลี่ยการเสียชีวิตใน 1 ช.ม. มีผู้เสียชีวิตจากกลุ่มโรคดังกล่าวถึง 9 คน โดยใช้งบประมาณในการรักษาผู้ป่วยสูงถึง 31,000 ล้านบาทต่อปี และเมื่อย้อนกลับมาสำรวจถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดกลุ่มโรคเหล่านี้แล้วนั้น พบว่าผู้ป่วยเกือบทั้งหมดมีฐานปัจจัยสำคัญเดียวกัน นั่นคือ ภาวะขาดการออกกำลังกาย

 รายการแผ่นดินไท ในรูปแบบดีวีดี สื่อสาธารณะ

          ชุดที่ 4 เรื่อง วังตะกอ ชุมชนเป็นสุข : วังตะกอ เป็นชุมชนต้นแบบ ที่เอาอดีตและความล้มเหลวมาเป็นบทเรียน ความผิดพลาด และปัญหามากมายที่เกิดขึ้นจากการหลงไปกับค่านิยมภายนอก การเข้ามาของเกษตรแผนใหม่ และพืชเชิงเดี่ยว ทำให้คนวังตะกอหันกลับมาค้นหารากเหง้า และต้นทุนทางภูมิปัญญาที่สั่งสมมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ หวนกลับไปสู่มรรควิถีแห่งความพอเพียง โดยการนำของกำนันแหนบทองคำ ที่ชื่อ ประวิทย์ ภูมิระวิ ที่คนทั้งตำบลเรียกขานกันว่า กำนันเคว็ด

 รายการแผ่นดินไท ในรูปแบบดีวีดี สื่อสาธารณะ

          ชุดที่ 5 แบ่งเป็น 2 ตอน คือ ตอนที่ 1 เรื่อง นมแม่ มหัศจรรย์อาหารมื้อแรกแห่งชีวิต : เพราะไม่มีอาหารชนิดใดจะวิเศษสุดสำหรับชีวิตใหม่ที่เพิ่งถือกำเนิดขึ้นมา มากเกินไปกว่าเลือดในอกของแม่ ทุกหยาดหยดที่สัมผัสต้องลิ้น ไม่ใช่แค่ดับหิวกระหาย แต่นมแม่…เป็นทั้งอาหาร เป็นยา เป็นภูมิคุ้มกันภัย และเป็นสายใยที่มองไม่เห็น ทั้งอิ่ม ทั้งอุ่น และปลอดภัย แต่แล้วทำไม หนูจึง…ไม่ได้กินนมแม่ ไม่มีเหตุผลใดเป็นเงื่อนไขแห่งอุปสรรค์ ขอเพียงแต่…แค่แม่พร้อม

 

          และใน ตอนที่ 2 เรื่องโรงเรียนดีมีสุข : เมื่อหลักสูตรการศึกษาที่แยกวิชาความรู้ออกจากชีวิต ไม่อาจนำพามนุษย์ก้าวพ้นวิกฤติแห่งยุคสมัย การขับเคลื่อนโรงเรียนทางเลือกและหลักสูตรทางรอด จึงได้ถือกำเนิดขึ้น เพื่อมุ่งสร้างเด็กไทยให้มีความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ นวัตกรรมใหม่ทางการศึกษาที่บูรณาการความรู้ให้อยู่คู่กับชีวิต ด้วยหลักสูตรท้องถิ่น ที่ทำให้การเรียนรู้ยืนหยัดอยู่บนรากเหง้าของวัฒนธรรม วิชาจิตศึกษาและวิชาคุณค่าความเป็นมนุษย์ จึงถูกถ่ายทอดด้วยความรักความเมตตาและภาษาใจของครู ผู้เป็นต้นแบบแห่งความดีงาม

รายการแผ่นดินไท ในรูปแบบดีวีดี สื่อสาธารณะ 

          และ ชุดสุดท้ายซึ่งถือเป็นดีวีดีที่น่าติดตามอีกชุดหนึ่ง โดยแบ่งเป็น 2 ตอน คือ ตอนที่ 1 เรื่องธนาคารต้นไม้ : สังคมไทยกำลังป่วยหนักด้วยโรคความยากจน และวิกฤติปัญหาหนีสินลุกลามเหมือนแผลเน่าก่อความเจ็บปวดไปทั่วสังคมไทย ธนาคารต้นไม้ แนวคิดที่จะทะลุความตีบตัน ด้วยการเปลี่ยนแปลงกระบวนทัศน์การเพาะปลูก สร้างความพอเพียงมั่งคั่ง ยั่งยืน ปลดแอกหนี้สิน ทั้งหนี้ส่วนตัว และหนี้แผ่นดิน ด้วยการตีค่าต้นไม้ให้เป็นทรัพย์ เปลี่ยนทัศนคติและปฏิวัติยุคสมัย ด้วยการฝังต้นไม้ลงไปในผืนแผ่นดิน

 

          และ ตอนที่ 2 เรื่อง happy workplace สร้างสุขในองค์กร: เมื่อถามคนที่อยู่วัยทำงาน หรือกำลังเริ่มต้นมองหาสถานที่ทำงานให้กับตัวเองสักที่หนึ่ง ว่าต้องการสมัครเข้าทำงานในสถานประกอบการหรือบริษัทแบบไหน เชื่อว่าคำตอบก็คงจะคล้ายๆกันว่า เลือกงานและบริษัทที่ตรงกับความถนัดและความสามารถตนเอง ถ้าได้องค์กรใหญ่ มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่ยอมรับ มีความมั่นคง ให้ค่าตอบแทนที่คุ้มค่า มีสวัสดิการที่ดีก็ยิ่งถือว่าสมบูรณ์แบบ เชื่อว่าทั้งหมดนี้คงเป็นเหตุผลที่คนส่วนใหญ่ใช้เป็นหลักในการพิจารณาตัดสินใจเข้าไปสมัครงานใจตำแหน่งนั้น

 

          ถ้าสมมติว่าคุณสามารถสมัครเข้าทำงานในองค์กรที่มีคุณลักษณะครบถ้วนตามที่กล่าวมาแล้วได้จริง แต่มีเพียงคุณสมบัติข้อเดียวที่ขาดหายไป นั้นก็คือ ความสุขในที่ทำงาน เพราะต้องทนกับเจ้านายหรือเจ้าของกิจการไม่ให้ความขาดจริยธรรม มองเห็นพนักงานเป็นเพียงปัจจัยหนึ่งของทุน ที่ถูกประเมินด้วยผลกำไรขาดทุนเป็นหลัก ส่วนเพื่อนร่วมงานก็แก่งแย่ง ชิงดี ขาดไร้ซึ่งน้ำใจ ทั้งลูกจ้างและนายจ้างต่างฝ่ายต่างมองแต่ผลประโยชน์ตอบแทน โดยไม่คำนึงถึงหัวใจความเป็นมนุษย์ของกันและกัน เราจะสามารถทำงานในองค์นั้นอย่างมีความสุขได้หรือไม่ และอาจจะมีคำถามขึ้นมาว่า องค์กรแห่งความสุขนั้นเป็นอย่างไร สร้างได้หรือไม่ และเป็นหน้าที่ของใคร ระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง

 

          ดีวีดีแต่ละชุดจะมีความน่าสนใจ และแฝงไปด้วยสาระความรู้ที่แตกต่างกัน แต่สามารถนำมาปรับใช้ให้เข้ากับชีวิตประจำวันของเราได้อย่างลงตัว สำหรับดีวีดีชุดที่ 1-6 และชุดอื่นๆที่กำลังจะตามมาในเร็วๆ นี้ ไม่ได้ผลิตขึ้นเพื่อการค้าและหวังผลกำไรทางธุรกิจ แต่รายได้จากการจำหน่าย 1 แผ่น จะนำไปผลิตเพิ่ม 1 แผ่น เพื่อมอบให้เป็นสาธารณะประโยชน์แก่องค์กรและชุมชนที่สนใจ  สามารถดูราบละเอียดได้ที่  http://www.tvburabha.com

 

          หน่วยงานสาธารณะใดที่ต้องการนำไปเผยแพร่เป็นองค์ความรู้ สามารถติดต่อขอรับฟรีได้ที่  สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)    979 อาคาร เอส เอ็ม ทาวเวอร์ ชั้น  34  ถ.พหลโยธิน  แขวงสามเสนใน เขตพญาไท  กรุงเทพฯ 10400

โทรศัพท์  02-2980222-4 ต่อ 511

 

 

 

 

 

ที่มา : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สสส.

 

 

update 06-01-52

Shares:
QR Code :
QR Code