“ราม”จับมือเครือข่ายจัด”มหกรรมชุมชนรวมพลัง ร่วมใจต้านภัยยาเสพติด”
เน้นความร่วมมือจากชุมชน
ทุกกิจกรรมที่ มหาวิทยาลัยรามคำแหง (ม.ร.) จัดขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การรณรงค์เรื่องหอพักสีขาว การงด ละ เลิกการดื่มเหล้าในสถานศึกษา การเล่นพนันบอล และชุมชนสีขาว จะไม่ประสบความสำเร็จ หากไม่ได้รับความร่วมมือจากชุมชนบริเวณรอบมหาวิทยาลัยและเจ้าหน้าที่บ้านเมืองที่ช่วยกันสอดส่องดูแล เช่นเดียวกับ
กิจกรรมมหกรรมชุมชนรวมพลัง ร่วมใจต้านภัยยาเสพติด ในวันที่ 8 กรกฎาคม 2553 ตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น. ณ อาคารหอประชุมพ่อขุนรามคำแหงมหาราช และบริเวณลานหน้าอาคารหอประชุมพ่อขุนรามฯ อีกหนึ่งกิจกรรมที่ได้รับการตอบรับจากคนในชุมชนรามคำแหงกว่า 1.2 หมื่นคน
รศ.คิม ไชยแสนสุข อธิการบดี ม.ร. กล่าวว่า การจัดมหกรรมรณรงค์ยาเสพติดในครั้งนี้เป็นกิจกรรมสืบเนื่องจากโครงการชุมชนสีขาว และที่ผ่านมาประเทศชาติ ปัญหาที่เป็นบ่อนทำลายอนาคตของลูกหลานเรามากที่สุดคือเรื่องของยาเสพติด ม.ร.ในฐานะภาคส่วนหนึ่งของสังคม มีนักเรียนในเครือโรงเรียนสาธิตรามคำแหง ระดับประถม-มัธยมกว่า 1,000 คน มีนักศึกษาทั้งในส่วนของวิทยาเขตหัวหมากและบางนากว่า 5,000 คน จะรอให้ภาคส่วนอื่นมาช่วยเหลือ กลายเป็นพวกงอมืองอเท้าก็คงจะไม่ได้ มหาวิทยาลัยจึงขอความร่วมมือจากชุมชน เจ้าหน้าที่บ้านเมือง คนละไม้คนละมือในการแก้ไขปัญหายาเสพติด
“การรณรงค์ครั้งนี้ได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากเขตบางกะปิ เขตประเวศ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.อุดมสุข สน.ลาดพร้าว สน.วังทองหลาง และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กรุงเทพมหานคร สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และเครือข่ายชุมชนบริเวณรอบมหาวิทยาลัย ผู้แทนชุมชน เจ้าของหอพักทั้งหลาย ดังนั้นมหกรรมต้านยาเสพติดไม่ได้กระทำอย่างโดดเดี่ยว แต่เป็นความร่วมมือที่เข้มแข็ง โดยมีทุกคนเป็นเจ้าภาพร่วมและหมุนเวียนกันเป็นศูนย์กลางในการจัดงานต่อไป เพื่อให้เกิดพลังการเคลื่อนไหวไปทุกซอกทุกมุม และทำให้การรณรงค์ยาเสพติดเข้มเข็งขึ้น”
อย่างไรก็ตาม การรณรงค์ 5 รั้ว ได้แก่ รั้วประเทศ รั้วชุมชน รั้วสังคม รั้วโรงเรียน และรั้วครอบครัว โดยเฉพาะ 2 รั้วหลัง มีความสำคัญมาก เพราะเยาวชนอยู่ใกล้ชิดพ่อแม่และโรงเรียน ดังนั้นหากบ้านดูแล โรงเรียนดูแล สังเกตพฤติกรรมของเด็ก ช่วยแก้ตั้งแต่เริ่มต้น เป็นการป้องกันไม่ใช่ป้องปรามเมื่อเกิดปัญหาขึ้นแล้ว ย่อมกลายเป็นการต่อสู้ปัญหายาเสพติดอย่างแท้จริง
อธิการบดี ม.ร. กล่าวต่อว่า ตอนนี้การแก้ไขปัญหายาเสพติดโดยป้องปราบนั้นเป็นเรื่องปลายเหตุ เพราะการแก้ปัญหาที่เกิดผลต้องเริ่มตั้งแต่ต้นเหตุ และการป้องกันก็เป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ เพราะหากเด็กไม่เสพ แล้วคนขายจะขายใคร การร่วมมือในครั้งนี้เป็นมิติใหม่ในการแก้ปัญหายาเสพติดที่ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม ไม่ใช่เป็นการแก้ปัญหาแบบไฟไหม้ฟาง
การจัดกิจกรรมดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของหน้าที่ของมหาวิทยาลัยในการดูแลรับผิดชอบต่อสังคม น.ส.จันทร์เพ็ญ จิตร์วิวัฒน์ ผู้อำนวยการส่วนยุทธศาสตร์และอำนวยการ ป.ป.ส. กล่าวว่า สังคมไทยปัจจุบันจำเป็นต้องมีผู้ที่มาเป็นผู้แทนช่วยเหลือสังคม ซึ่งการที่ ม.ร.เป็นแกนนำในการขยาย สร้างเครือข่าย เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติด ปัญหาระดับชาติที่ไม่ใช่เป็นเพียงภาคส่วนใดภาคหนึ่งรับผิดชอบ แต่ทุกๆ ฝ่ายต้องเข้ามาร่วมกันแก้ไขปัญหา สำหรับโครงการครั้งนี้ ป.ป.ส.ร่วมดำเนินการ 2 กิจกรรมใหญ่ คือ ให้นิทรรศการความรู้ 6 ซุ้ม และจัดเสวนา สถานประกอบการรอบมหาวิทยาร่วมต้านภัยยาเสพติด และเรื่องเยาวชนแกนนำรามคำแหง ร่วมต้านภัยยาเสพติด
ขณะที่ นายประเสริฐ ทองนุ่น ผู้อำนวยการเขตบางกะปิ กล่าวว่า ปัญหายาเสพติดเป็นสิ่งที่ทำลายชาติ บั่นทอนชีวิตของผู้คนในสังคมมากที่สุด ภารกิจในครั้งนี้เขตจึงประสานกับเครือข่ายสถานศึกษาและหน่วยงานในพื้นที่ รวมถึงชุมชนต่างๆ เช่น เขตบึงกุ่ม เขตมีนบุรี เป็นต้น ประมาณ 1.2 หมื่นคน เพื่อให้เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรม เช่น การตรวจสุขภาพสายตา สุขภาพทั่วไป สินค้าโอท็อปจากชุมชนต่างๆ ในพื้นที่ กทม.กลุ่มตะวันออกกว่า 80 ผลิตภัณฑ์ และจัดกิจกรรมฝึกอบรมอาชีพ 19 อาชีพ เช่น ซ่อมโทรศัพท์มือถือ จัดดอกไม้ ร้อยลูกปัด เพื่อเป็นการสร้างรายได้ สร้างอาชีพ แก่คนในชุมชน
ทุกวันนี้การดูแลเด็ก พ่อแม่ทำคนเดียวไม่ได้ แต่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันช่วยดูแล ป้องกัน และจัดกิจกรรมดีๆ ให้เด็กได้มีส่วนร่วม กิจกรรมนิทรรศการความรู้ สันทนาการมากมายที่หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และสำนักงานร่วมกันจัดขึ้นในงานมหกรรม โดยมีนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ เป็นประธานในการประกาศเจตนารมณ์ร่วมต่อต้านยาเสพติดของทุกภาคส่วน และการรวมพลังของกลุ่มนักศึกษาประชาชนทั่วไปออกกำลังกายเต้นแอโรบิก
ตบท้ายด้วยคอนเสิร์ตสัญจรลูกทุ่งมหานคร เอฟเอ็ม 95 และศิลปินจากท็อปไลน์มิวสิค ทุกกิจกรรมร่วมสรรค์สร้างและแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือของทุกภาคส่วน สนใจติดต่อเข้าร่วมงานในวันที่ 8 กรกฎาคม 2553 โทร.0-2310-8045-7 หรือ www.ru.ac.th
ที่มา: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
update:30-06-53
อัพเดทเนื้อหาโดย : ณัฏฐ์ ตุ้มภู่