รัฐสภาจัด “บิ๊กคลีน” กันไข้หวัด 2009
ยกระดับเป็นต้นแบบหน่วยงานตัวอย่าง
รัฐสภาระดมจนท.ทำความสะอาดฆ่าเชื้อก่อนเปิดสมัยประชุม นายพิทูร พุ่มหิรัญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เปิดแถลงข่าวการจัดกิจกรรม บิ๊ก คลีน(Big Cleanning) ภายในบริเวณรัฐสภาเนื่องจากในวันที่ 1 สิงหาคม เป็นวันเปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งจะมีส.ส. ส.ว. เจ้าหน้าที่ และประชาชนเข้ามาติดต่อสภาจำนวนมาก จึงได้ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดกิจกรรมทำความสะอาดครั้งใหญ่เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเปิดสมัยประชุมสภา โดยได้กำหนดเวลา 12.30 น.ให้เจ้าหน้าที่และข้าราชการร่วมกันทำความสะอาด เพื่อให้ทุกคนตระหนักและรับผิดชอบร่วมกัน โดยจะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า สถานที่รัฐสภาเป็นจุดปลอดเชื้อ
เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า การดำเนินมาตรการป้องกันโรคไข้หวัดในสถานที่ราชการ เพื่อยกระดับให้รัฐสภา เป็นสถานที่ราชการต้นแบบ ผ่าน 5 มาตรการที่สำคัญ คือ 1.การให้ความรู้เพื่อร่วมกันป้องกันไข้หวัด 2.การทำความสะอาด 3.รณรงค์เรื่องการล้างมือและสวมหน้ากากเมื่อไอ จาม 4. การสร้างสุขอนามัยในการรับประทานอาหาร และ 5.หยุดอยู่กับบ้านเมื่อเป็นไข้ สามารถลาพักได้ โดยได้นำมติคณะรัฐมนตรีเรื่องการหยุดงานเวียนให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ทุกคนได้รับทราบแล้ว คนที่หยุดต้องส่งใบลาภายหลังเพื่อไม่เสียวินัยทางราชการ
นพ.กำจร ตติยกวี อนุกรรมการสนับสนุนการป้องกันการแพร่ระบาดไข้หวัดใหญ่ 2009 กล่าวว่า เชื้อของไข้หวัด 2009 เมื่อออกจากร่างกายแล้ว จะสามารถอยู่ได้นาน 2-6 ชั่วโมง เมื่อผู้ป่วยเอามือสัมผัสกับสิ่งต่างๆ จะกลายเป็นแหล่งแพร่เชื้อ โดยพบว่ามีอยู่ 7 แหล่งที่สำคัญคือ ลูกปิดประตูและมือจับ โทรศัพท์ แป้นคอมพิวเตอร์ ราวบันได โต๊ะ ปุ่มกดลิฟท์ และห้องน้ำ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องทำความสะอาดด้วยแอลกอฮอล์อย่างต่อเนื่อง
สำหรับผู้ที่สงสัยว่าป่วยเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ คือ เป็นไข้ร่วมกับไอ หรือเจ็บคอ ให้อยู่กับบ้านเพื่อลดการแพร่เชื้อ เพราะผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรง สามารถดูแลตัวเองที่บ้านได้ด้วยการพักผ่อน แต่ผู้ป่วยที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงคือ อายุน้อยกว่า 2 ปี หรือมากกว่า 65 ปี มีภาวะเสี่ยงด้านสุขภาพ เช่น หญิงตั้งครรภ์ โรคอ้วน หอบหืด หัวใจ เบาหวาน เมื่อเป็นไข้สูงถึง 38 องศาขึ้นไป ร่วมกับไอจาม ควรรีบพบแพทย์ทันที
“คณะอนุกรรมการสนับสนุนการป้องกันการแพร่ระบาดไข้หวัดใหญ่ 2009 สสส. ที่นายกฯตั้งขึ้น ได้จับมือร่วมกับสภา เพราะเป็นหน่วยราชการที่เป็นศูนย์กลางที่หลายหน่วยราชการได้มาติดด่อ โดยเฉพาะการเข้าชี้แจงงบประมาณ หากยกระดับให้เป็นต้นแบบที่มีมาตรการรับมือโรคหวัด 2009 อย่างเป็นระบบ จะถือเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับหน่วยงานอื่นๆต่อไป” นพ.กำจร กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการแถลงข่าวเลขาธิการรัฐสภาได้ปล่อยแถวพนักงานทำความสะอาดเพื่อเข้าทำความสะอาดภายในห้องประชุมรัฐสภา ห้องสื่อมวลชน และแจกจ่ายแอลกอฮอล์ให้กับเจ้าหน้าที่รัฐสภานำไปทำความสะอาดสถานที่ทำงานของตนเอง
ที่มา: หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์
Update: 02-09-52
อัพเดทเนื้อหาโดย: ณัฏฐ์ ตุ้มภู่