‘รังนกสีแดง’ พบสารไนไตรท์เกินมาตรฐาน
เตือน ‘รังนกสีแดง’ พบสารไนไตรท์เกินมาตรฐาน ส่งผลให้ริมฝีปากและผิวหนังเป็นสีฟ้าหรือสีม่วง คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ท้องร่วง อุจจาระเป็นสีเลือด ปวดศีรษะ และไตวายในที่สุด
นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) เปิดเผยว่า จากการที่ผู้ประกอบการรังนกไทยได้รับผลกระทบจากกรณีที่ทางการประเทศจีนสั่งห้ามนำเข้ารังนก เนื่องจากตรวจพบสารปนเปื้อนไนไตรท์ในรังนกสีแดงจากประเทศมาเลเซีย เกินค่ามาตรฐานที่จีนกำหนด จึงห้ามการนำเข้ารังนกจากประเทศคู่ค้าทั้งหมด เพราะการบริโภครังนกสีแดงที่ปนเปื้อนสารไนไตรท์จะทำให้เกิดภาวะขาดออกซิเจน ส่งผลให้ริมฝีปากและผิวหนังเป็นสีฟ้าหรือสีม่วง คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ท้องร่วง อุจจาระเป็นสีเลือด ปวดศีรษะ และไตวายในที่สุด
ซึ่งองค์การอนามัยโลก (who) ไม่ให้เด็กทารกตั้งแต่แรกเกิดถึง 3 เดือนบริโภครังนก ส่งผลให้ราคารังนกสีแดงลดลงจากเดิมกิโลกรัมละ 60,000-90,000 บาท เหลือเพียงกิโลกรัมละ 10,000-20,000 บาท จึงมอบหมายให้กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) นำนักวิทยาศาสตร์ลงพื้นที่ภาคใต้เพื่อชี้แจง และนำองค์ความรู้ไปปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพสินค้ารังนก
ด้านนางสุมาลี ทั่งพิทยกุล รองอธิบดี วศ. กล่าวว่า จากการสุ่มเก็บตัวอย่างรังนกและผลิตภัณฑ์รังนกในพื้นที่ภาคใต้มาทดสอบปริมาณสารไนไตรท์ จำนวน 27 ตัวอย่าง พบว่า ส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ยกเว้นรังนกสีแดงที่ไม่ได้ทำความสะอาด มีปริมาณไนไตรท์อยู่ที่ 42.3-1,574 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม เกินกำหนดมาตรฐานของจีนที่กำหนดไว้ที่ 30 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม จึงจัดประชุมทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการรังนกในภาคใต้ทั้งหมดแล้วเพื่อปรับปรุงพัฒนารังนกไทย
ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ