‘รัก’ออนไลน์อย่างไรจึงเท่าทัน

มูลนิธิเพื่อนเยาวชนเพื่อการพัฒนา มูลนิธิสื่อเพื่อเยาวชน สถาบันสื่อเพื่อเด็กและเยาวชน มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ศูนย์ฝึก และอบรมเด็กและเยาวชน (ชาย) บ้านกาญจนาภิเษก สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า ร่วมกับเครือข่ายเยาวชนป้อง กันนักดื่มหน้าใหม่ สนับสนุนโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริม สุขภาพ จัดกิจกรรมรณรงค์ภายใต้แคมเปญ "รัก ออนไลน์ อย่างไรจึงเท่าทัน" โดยมีนักเรียนและนักศึกษาสนใจเข้าร่วมรับฟัง ที่ห้องเอบิน่าเฮาส์ โรงแรมเอบิน่าเฮาส์ วิภาวดีรังสิต กทม. เมื่อเร็วๆ นี้


'รัก'ออนไลน์อย่างไรจึงเท่าทัน thaihealth


น.ส.ปาลิณี ต่างสี แกนนำเครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ เผยว่าจากการสำรวจความคิดเห็นของเด็กและเยาวชน อายุ 13-30 ปี ที่ใช้สื่อสังคมออนไลน์เป็นประจำ 1,026 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 1-8 ก.พ.ที่ผ่านมา พบว่าร้อยละ 87.71 เคยมีประสบการณ์ทำให้รู้สึกดีหรือชอบและรักกับใครบางคนบนโลกออนไลน์ ทั้งอยากคุยด้วย อยากเจอ และอยากเป็นแฟน สำหรับช่องทางยอดฮิตที่ใช้พูดคุยบ่อยที่สุดคือเฟซบุ๊ก ร้อยละ 57.99 และผ่านไลน์ ร้อยละ 32.65


"ส่วนพฤติกรรมที่ส่อไปในทางล่อลวง เสี่ยง ไม่เหมาะสม หรืออาจถูกล่วงละเมิดทางเพศ ร้อยละ 26.31 ระบุว่ามีการพยายามนัดพบและนัดเจอในที่เสี่ยง ร้อยละ 25.24 โน้มน้าวจูงใจทำให้รักอย่างรวบรัด และร้อยละ 25.14 ชวนไปเที่ยวกลางคืน เช่น ผับ บาร์ และชวนดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยร้อยละ 52.53 ระบุว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นปัจจัยสำคัญที่อาจถูกล่อลวงให้มีเพศสัมพันธ์"


ด้าน นางศรีดา ตันทะอธิพานิช ผู้จัดการมูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทย กล่าวว่าอยากให้เยาวชนมีสติไตร่ตรองให้รอบคอบ ไม่ไว้ใจคนที่ไม่รู้จักหรือไม่เคยพบกัน ที่สำคัญพ่อแม่ควรเอาใจใส่และพูดคุยกับลูกให้มากขึ้น ส่วนภาครัฐต้องผลักดัน พ.ร.บ.กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เนื่องจากปัญหาเด็กไทยไม่เท่าทันสื่ออยู่ในขั้นวิกฤตแล้ว


นายจะเด็จ เชาวน์วิไล ผอ.มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล กล่าวว่าเราไม่ควรโทษเยาวชนที่รู้ไม่เท่าทัน เนื่องจากปัจจุบันมีกระแสการโฆษณาต่างๆ ที่ทำให้เยาวชนอยากมีคนรักในอุดมคติเป็นคนสวยและหล่อ จึงเกิดค่านิยมความรักแบบฉาบฉวยที่มองแต่ภายนอก ทำให้บางคนต้องสร้างตัวเองให้ดูดีในโลกออนไลน์


"ฝากเตือนสติวัยรุ่นว่าการ แช็ตออนไลน์ไม่ได้สวยงามอย่าง ที่คิด ควรมีสติระมัดระวังให้รอบด้าน อย่ารักรวดเร็วเกินไป อย่าไว้ใจใครง่ายๆ ควรตรวจสอบให้ถี่ถ้วน หากถูกล่อลวงขอให้รีบแจ้งความทันที เพื่อไม่ปล่อยให้หลักฐานเนิ่นนาน เพราะจะเอาผิดยาก"


นอกจากนี้ ที่วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม (สยามเทค) นางฉวีรัตน์ เกษตรสุนทร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม น.ส.นราทิพย์ พุ่มทรัพย์ กรรมการบริหารศูนย์คุณธรรม และ รศ.ดร.จอมพงศ์ มงคลวนิช ผอ.วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม ร่วมแถลงข่าวรณรงค์ให้เยาวชนใช้แฮชแท็ก #แค่กินข้าว ในสื่อออนไลน์ต่างๆ ในวันวาเลนไทน์ เพื่อปลูกฝังให้วัยรุ่นมีคุณธรรม จริยธรรม และสื่อความรักต่อกันด้วยความเคารพซึ่งกันและกัน ลดปัญหาการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร


นางฉวีรัตน์ กล่าวว่า จากการสำรวจของกระทรวงยุติธรรมเอง พบว่าเสียงสะท้อนจากเยาวชนต่อปัญหาการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยนั้น เกิดจากคนกลุ่มน้อยเท่านั้น เด็กๆ ร้อยละ 90 ยังนึกถึงพ่อแม่และครอบครัวในวันวาเลนไทน์ ซึ่งน่าดีใจ เด็กเหล่านี้ไม่อยากให้ผู้ใหญ่มองพวกเขาอย่างเหมารวม หรือมองในแง่ลบตามเด็กส่วนน้อยบางกลุ่ม จึงอยากให้เยาวชนรักอย่างมีสติ ใช้ชีวิตให้ถูก


ด้าน น.ส.นราทิพย์ กล่าวว่า การออกไปกินข้าวกับเพื่อน ครอบครัว หรือการบอกรักพ่อแม่ เป็นการแสดงออกถึงความรักอีกรูปแบบหนึ่ง ไม่จำเป็นต้องมีเพศสัมพันธ์ ปัจจุบันสื่อออนไลน์มีรูปแบบการบริการหลากหลาย ทั้งการหาคู่ หาเพื่อน บางครั้งมีเนื้อหาชักชวนให้มีเพศสัมพันธ์กันอย่างโจ่งแจ้ง หลายครั้งเกิดกรณีหลอกลวง กระทำชำเรา ข่มขืน อันเนื่องมาจากโปรแกรมแช็ตต่างๆ


"สื่อออนไลน์มีทั้งส่วนดีและไม่ดี เด็กอาจแยกแยะไม่ออก เป็นหน้าที่ครูหรือผู้ใหญ่ที่ต้องบอกเด็กว่าอะไรถูกผิด สร้างความเข้าใจให้เด็กรู้เท่าทัน"


 


 


ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด

Shares:
QR Code :
QR Code