ระวังน้ำฝนแรก อาจมีสิ่งปนเปื้อน
ที่มา : สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.
แฟ้มภาพ
อธิบดีกรมอนามัย เผยขอประชาชนระวังน้ำฝน ในช่วงหน้าฝนอาจมีสิ่งปนเปื้อน อาจนำไปสู่โรคติดต่อได้
นายแพทย์วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยถึงการนำน้ำฝนมาใช้ในการอุปโภค บริโภคอย่างปลอดภัย ว่า ช่วงเวลา ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ฤดูฝน ทำให้ประชาชนในบางพื้นที่ที่ขาดแคลนน้ำดื่มน้ำใช้ที่สะอาด ในช่วงหน้าร้อนที่ผ่านมา จำเป็นต้องมีการเก็บน้ำฝนไว้ใช้ในการอุปโภคบริโภคตลอดทั้งปี เพราะน้ำฝนจัดว่าเป็นน้ำที่สะอาด แต่ก็สามารถเกิดสิ่งสกปรกได้ง่ายเช่นเดียวกัน ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมของสถานที่ตั้งบ้านเรือน หลังคา และภาชนะเก็บกักน้ำฝน โดยเฉพาะพื้นที่ที่อยู่ใกล้กับโรงงานอุตสาหกรรม การจราจรหนาแน่น หรือมีมลพิษทางอากาศ ล้วนมีความเสี่ยงจากฝุ่นละออง ไอจากท่อไอเสีย ควันจากโรงงาน เพราะอาจทำให้เสี่ยงปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียและสารเคมีต่าง ๆ โดยเฉพาะก๊าซที่เกิดจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล คือ ซัลเฟอร์ไดออกไซด์และออกไซด์ของไนโตรเจนที่จะปนเปื้อนกับน้ำฝนที่ตกลงมา เกิดเป็นภาวะฝนกรดคือมีค่าพีเอชต่ำกว่า 5.6 ที่เกิดผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมและสิ่งก่อสร้างอย่างมาก ซึ่งข้อมูลการเก็บคุณภาพน้ำฝนของกรมอนามัย พบว่า น้ำฝนที่เก็บจากภาชนะเก็บน้ำฝนในครัวเรือนทั่วประเทศในปี 2551 – 2558 คุณภาพน้ำฝนผ่านเกณฑ์คิดเป็น ร้อยละ 7.4 – 28.5 เฉลี่ยร้อยละ 16.4 ตัวชี้วัดที่ไม่ผ่านเกณฑ์ได้แก่ สี ความขุ่น ความเป็นกรด – ด่าง และแบคทีเรีย
นายแพทย์วชิระ กล่าวต่อไปว่า การเก็บอย่างปลอดภัยจึงไม่ควรรองรับน้ำฝนที่ตกในช่วงแรก ๆ ควรปล่อยให้ฝนตกสักระยะหนึ่งก่อนเพื่อชะล้างสิ่งสกปรกในอากาศและหลังคาให้สะอาด ดังนั้น ก่อนการเก็บน้ำฝนไว้ใช้ ควรเริ่มจากการทำความสะอาดหลังคา รางรับน้ำฝน และภาชนะเก็บน้ำให้พร้อมใช้งาน ส่วนภาชนะใช้รองรับน้ำฝนก็ต้องล้างให้สะอาด ปิดด้วยมุ้งพลาสติก และปิดภาชนะให้มิดชิด เพื่อให้มั่นใจก่อนนำน้ำฝนมาดื่มควรนำไปฆ่าเชื้อโรคด้วยการต้มในน้ำเดือดอย่างน้อยประมาณ 5 นาที เป็นการลดอัตราเสี่ยงจากการเจ็บป่วยเนื่องจากน้ำเป็นสื่อ อาทิ โรคระบบทางเดินอาหาร อุจจาระร่วง เป็นต้น