ระยอง เมืองนำร่องความปลอดภัยทางถนนของคนรุ่นใหม่

เรื่องโดย ปัญจวรา บุญสร้างสม Team Content www.thaihealth.or.th


ข้อมูลบางส่วนจาก พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การขับเคลื่อนนักศึกษาอาชีวศึกษาจังหวัดระยองเพื่อสร้างความรอบรู้ทางสุขภาพและการขับเคลื่อนเรื่องความปลอดภัยทางถนนสำหรับนักศึกษาอาชีวศึกษา


ภาพโดย ชยวี ลิ้มถาวรรักษ์ Team Content www.thaihealth.or.th สสส. และแฟ้มภาพ


ระยอง เมืองนำร่องความปลอดภัยทางถนนของคนรุ่นใหม่ thaihealth


รู้หรือไม่ ? ค่าเฉลี่ยตัวเลขผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนในจังหวัดระยองนั้นสูงเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศ และส่วนใหญ่อุบัติเหตุเหล่านั้น เกิดขึ้นกับกลุ่มเยาวชน ซึ่งนอกจากจะสร้างความสูญเสียให้กับตัวผู้ได้รับอุบัติเหตุและครอบครัวแล้ว  ยังถือเป็นการสูญเสียกำลังสำคัญที่จะเป็นอนาคตของประเทศอีกด้วย


ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้เกิดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การขับเคลื่อนนักศึกษาอาชีวศึกษาจังหวัดระยองเพื่อสร้างความรอบรู้ทางสุขภาพและการขับเคลื่อนเรื่องความปลอดภัยทางถนนสำหรับนักศึกษาอาชีวศึกษา ซึ่งจัดโดย สถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย (ยท.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับสถาบันการอาชีวศึกษานำร่อง 5 แห่ง ได้แก่ วิทยาลัยเทคนิคระยอง วิทยาลัยเทคนิคบ้านค่าย  วิทยาลัยเทคนิคมาบตาพุด วิทยาลัยสารพัดช่างระยอง และวิทยาลัยการอาชีพแกลง


ระยอง เมืองนำร่องความปลอดภัยทางถนนของคนรุ่นใหม่ thaihealth


ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะรองประธานกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ คนที่ 1 กล่าวว่า ข้อมูลการเกิดอุบัติเหตุ โดยกองป้องกันการบาดเจ็บ กรมควบคุมโรค ระบุว่า ปี 2562 จ.ระยองมีผู้ป่วยนอก (OPD) จากอุบัติเหตุทางถนน จำนวน 20,793 คน ในจำนวนนี้เป็นกลุ่มเด็กและเยาวชนอายุระหว่าง 10-19 ปี จำนวน 4,424 คน คิดเป็นร้อยละ 21.27% ขณะที่เป็นผู้ป่วยในที่ต้องรักษาพยาบาล (IPD) จำนวน 5,096 คน เป็นกลุ่มเด็กและเยาวชนอายุระหว่าง 10-19 ปี สูงถึง 811 คน และมีเด็กเยาวชนเสียชีวิต 63 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 14.35 จากผู้เสียชีวิตทั้งหมด ซึ่งการเกิดอุบัติเหตุ ในกลุ่มเด็กและเยาวชนสร้างผลกระทบเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะผลกระทบทางด้านจิตใจ การสูญเสียโอกาสในชีวิต การสูญเสียกำลังสำคัญของครอบครัวในการประกอบอาชีพ และร้ายแรงที่สุดคือการสูญเสียกำลังคนในการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ


“ขอขอบคุณสถาบันยุวทัศน์ฯ และ สสส. รวมไปถึงวิทยาลัยอาชีวศึกษาใน จ.ระยอง ที่ร่วมผลักดันให้เกิดกิจกรรมและความร่วมมือในครั้งนี้ โดยคัดเลือกให้ จ.ระยอง เป็นพื้นที่นำร่องสำหรับการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนน โดยเฉพาะในกลุ่มนักศึกษาอาชีวศึกษา ซึ่งมีการใช้รถจักรยานยนต์เป็นจำนวนมาก นับเป็นกลไกสำคัญของการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ ที่เริ่มต้นตั้งแต่ระดับนโยบาย ระดับท้องถิ่น ระดับสถานศึกษา รวมไปถึงแกนนำนักศึกษาที่เข้ามามีบทบาท การทำงานจะเกิดประสิทธิภาพสูงสุด หากทุกหน่วยงานร่วมมุ่งมั่นตั้งใจ เรียนรู้ปัญหา และหาแนวทางการป้องกันแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง เพื่อประโยชน์ในด้านสุขภาวะที่ดีของคนรุ่นใหม่และประชาชน จ.ระยองต่อไป” ดร.สาธิต กล่าว


ระยอง เมืองนำร่องความปลอดภัยทางถนนของคนรุ่นใหม่ thaihealth


นางสาวรุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสังคม สสส. กล่าวว่า การทำให้เยาวชนเกิดความเข้าใจ และมีความรอบรู้ทางสุขภาพ ถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยประกอบการตัดสินใจของเยาวชน เพื่อให้พวกเขาเป็นคนเลือกวิถีชีวิตที่ปลอดภัยด้วยตนเอง แทนที่จะบังคับหรือออกกฎระเบียบให้พวกเขาทำ ซึ่งจะก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ยั่งยืนในระยะยาวมากกว่า


นางสาวรุ่งอรุณ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ การทำให้พฤติกรรมความปลอดภัยบนท้องถนน กลายเป็นวัฒนธรรม รวมทั้งการดูแลจัดการสิ่งแวดล้อมไม่ให้มีความเสี่ยง เพื่อหนุนให้เกิดการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย และเกิดประโยชน์โดยรวมต่อชุมชนและสังคมก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เกิดสุขภาวะ และลดปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนนได้


พฤติกรรมเสี่ยงสำคัญ ที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน คือ การดื่มแล้วขับ ขับรถเร็ว และไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย โดยเฉพาะการใช้หมวกกันน็อกสำหรับรถจักรยานยนต์ ซึ่งเยาวชนนั้นเป็นกลุ่มที่ใช้รถจักรยานยนต์ในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเดินทางไปเรียน หรือท่องเที่ยว โจทย์สำคัญ ก็คือ ทำอย่างไรให้พวกเขาใช้หมวกกันน็อกในชีวิตประจำวัน เพื่อปกป้องชีวิตของตัวเอง เหมือนกับการที่พวกเขาใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะคู่ใจได้ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่คนทำงานสร้างเสริมสุขภาวะต้องทำความเข้าใจ เพื่อตอบโจทย์และแก้ไขปัญหานี้ให้ได้” นางสาวรุ่งอรุณกล่าว


ระยอง เมืองนำร่องความปลอดภัยทางถนนของคนรุ่นใหม่ thaihealth


แนวทางการขับเคลื่อนความปลอดภัยทางถนน สสส. และภาคีเครือข่าย มีเป้าหมายสำคัญ คือ


1.ลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน ไม่เกิน 12 คนต่อแสนประชากร ภายในปี  2570


2.ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุในกลุ่ม “ผู้ใช้รถจักรยานยนต์”


3.ลดพฤติกรรมเสี่ยงต่ออุบัติเหตุ


4.เน้นแก้ไขในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง และในกลุ่มเสี่ยงสำคัญ โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น ที่พบจำนวนผู้เสียชีวิตสูงกว่า


   กลุ่มอื่นๆ


ระยอง เมืองนำร่องความปลอดภัยทางถนนของคนรุ่นใหม่ thaihealth


ดร.ธวัชชัย อุ่ยพานิช ผู้ชำนาญการสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาด้านผลิตและพัฒนากำลังคนเศรษฐกิจภาคตะวันออก กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา จ.ระยอง  ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนน เนื่องจากสถิติการเกิดอุบัติเหตุในจังหวัดระยองนั้นสูงเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย หลังจากทำ MOU ในวันนี้ ต่อไปก็จะต้องกำหนดแนวทาง และเป้าหมายในการทำงานทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ เพื่อให้ความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นนั้นลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยการสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับเด็กและเยาวชน ไม่ว่าจะเป็นการสวมหมวกนิรภัย การปฏิบัติตามกฎจราจร การตรวจเช็กสภาพรถให้มีความพร้อมในการขับขี่ รวมทั้งผู้บริหารสถานศึกษา และคณะครูทุกคนจะต้องปฏิบัติเป็นแบบอย่างให้กับเด็ก ๆ ด้วย


“หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเด็กและเยาวชนอาชีวศึกษาจะมีความตระหนักในเรื่องของความปลอดภัย และอยากให้สิ่งเหล่านี้ติดตัวเด็ก ๆ ไป เพราะเด็ก ๆ เหล่านี้จะต้องเติบโตขึ้นไปเป็นกำลังสำคัญของประเทศ นอกจากนี้ ในอนาคตจะมีการขยายความร่วมมือนี้ไปยังสถาบันการอาชีวศึกษาของภาคเอกชนอีกด้วย เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดในจังหวัดระยอง ให้จังหวัดระยองได้เป็นโมเดล ก่อนขยายผลไปสู่จังหวัดอื่น ๆ ต่อไป” ดร.ธวัชชัยกล่าว


ระยอง เมืองนำร่องความปลอดภัยทางถนนของคนรุ่นใหม่ thaihealth


นายคุณภัทร บัวดก หรือน้องปลื้ม ตัวแทนนักเรียน นักศึกษาผู้เข้าร่วมกิจกรรมจากวิทยาลัยเทคนิคระยอง กล่าวว่า ตนรู้สึกยินดีที่มีโอกาสได้เข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ เพราะนอกจากจะได้รับความรู้ใหม่ ๆ เกี่ยวกับการใช้รถ ใช้ถนน แล้ว ยังช่วยให้ตระหนักถึงความสำคัญของความปลอดภัยบนท้องถนนมากขึ้นด้วย และตนคาดหวังว่าหลังจากการทำ MOU ในครั้งนี้ กลุ่มนักเรียนนักศึกษารวมถึงประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะผู้ที่ใช้รถจักรยานยนต์จะมีความปลอดภัยในการใช้รถ ใช้ถนนมากขึ้น นอกจากนี้ ตนอยากฝากย้ำเตือนกลุ่มเพื่อน ๆ ที่ใช้รถใช้ถนนว่า อย่าลืมสวมหมวกกันน็อกทุกครั้ง เมื่อต้องใช้รถจักรยานยนต์ด้วย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและเพื่อนร่วมทาง


“อุบัติเหตุป้องกันได้ ถ้าไม่ประมาท” ความปลอดภัยบนท้องถนนเป็นเรื่องที่ สสส. และภาคีเครือข่ายเน้นย้ำและทำงานรณรงค์มาอย่างต่อเนื่อง ด้วยความหวังที่จะลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุให้เหลือน้อยที่สุด โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชนที่จะต้องเติบโตไปเป็นกำลังสำคัญของประเทศในอนาคต การทำให้พวกเขาได้รู้ และตระหนักด้วยตนเองถึงความสูญเสียที่เกิดจากอุบัติเหตุ รู้วิธีที่จะปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของตน นอกจากจะช่วยลดความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นแล้ว ยังถือเป็นการสร้างพวกเขาให้เป็นต้นแบบที่จะไปส่งต่อค่านิยมเหล่านี้ เพื่อสร้างสังคมปลอดอุบัติเหตุให้เกิดขึ้นอย่างยั่งยืนต่อไป  

Shares:
QR Code :
QR Code