รองปธ.สสส.เผยรบ.เตรียม 3 มาตรการสกัดหวัด2009
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกองทุน สสส. ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาวาระเร่งด่วน เรื่องการป้องกันการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
นพ.วิชัย โชควิวัฒน รองประธาน สสส. คนที่ 2 แถลงภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมได้พิจารณาวาระเร่งด่วนเรื่องการป้องกันการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เนื่องจากแนวโน้มสถานการณ์ผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และประชาชนยังขาดความเข้าใจในการป้องกัน และการรักษาโรค จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องวางมาตรการป้องกันไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ทั้งระบบอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ที่ประชุมมีมติเห็นชอบ 3 มาตรการสำคัญ คือ 1.การจัดระบบจัดการดูแลผู้ป่วย โดยจัดระบบให้คำแนะนำ บริการรองรับและส่งต่อผู้ป่วยที่ชัดเจน เพื่อสามารถคัดแยกผู้ป่วยแต่ละประเภทออกจากกัน เช่น ผู้เริ่มต้นป่วยมีอาการไข้หวัดควรปฏิบัติตัวอย่างไร ควรพบแพทย์เมื่อใด ลักษณะใดที่ต้องได้รับยาต้านไวรัส ซึ่งการวางระบบจัดการในลักษณะเครือข่ายจะทำให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น
2. การสร้างความเข้าใจแก่ประชาชน โดยจัดระบบสื่อสารทั้งหมดให้เป็นระบบและสอดคล้องกัน สิ่งที่ต้องทำเร่งด่วนคือโทรศัพท์สายด่วน เพื่อให้ประชาชนรับรู้แนวทางป้องกันและการขอรับคำปรึกษา รวมทั้งสื่อสารให้เกิดความเข้าใจ และมาตรการสุดท้ายคือ วางมาตรการควบคุมโรคอย่างเป็นระบบ และดำเนินการให้เป็นรูปธรรมที่รวดเร็ว เช่น มาตรการป้องกันในโรงเรียน ในสถานประกอบการ ในระบบขนส่งมวลชน และในสถานที่ที่มีคนจำนวนมาก เช่น โรงภาพยนตร์ สถานบันเทิง ห้างสรรพสินค้า รวมทั้งการเตรียมความพร้อมของวัคซีนป้องกันโรคให้เพียงพอ
นพ.วิชัย กล่าวด้วยว่า นายกรัฐมนตรียังสั่งการให้ สสส.รณรงค์สร้างความเข้าใจกับประชาชน โดยเฉพาะการจัดทำระบบโทรศัพท์สายด่วน พร้อมกันนี้ที่ประชุมยังมีมติให้ตั้งคณะอนุกรรมการสนับสนุนการป้องกันการแพร่ระบาดไข้หวัดใหญ่ 2009 ถือเป็นหน่วยเชิงรุกที่มีความเชี่ยวชาญทางวิชาการ ซึ่งมาจากหน่วยงานหลายภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ คณะกรรมการองค์การเภสัชกรรม โดยมี นพ.มงคล ณ สงขลา เป็นประธาน เพื่อเป็นฝ่ายกำหนดแนวทางในการสนับสนุนรัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการป้องกันการแพร่ระบาดของไข้หวัด เพื่อมีส่วนเข้าไปสนับสนุนการดำเนินงานของหน่วยงานต่างๆอย่างทันท่วงที
ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
Update:02-09-52
อัพเดทเนื้อหาโดย: ณัฏฐ์ ตุ้มภู่