รวมพลัง’มหาวิทยาลัยแห่งสุขภาวะ’

          มหาวิทยาลัยเป็นพื้นที่แห่งความรู้ เป็นสถาบันการศึกษาที่เยาวชนมากมายจากทั่วสารทิศหลั่งไหลมาใช้ชีวิตตลอด 4 ปี และมหาวิทยาลัยหลายๆ แห่งในบ้านเราก็จัดระบบการวางผังพื้นที่ ไม่ต่างจากเมืองแห่งเล็กๆ มีการให้บริการสาธารณะต่างๆ ทั้งการขนส่ง สาธารณูปโภค และแหล่งซื้อขายสินค้าที่จำเป็นอยู่ภายใน


รวมพลัง'มหาวิทยาลัยแห่งสุขภาวะ' thaihealth


          แม้พื้นที่ในมหาวิทยาลัยจะถูกจัดระเบียบเอาไว้ค่อนข้างลงตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งมหาวิทยาลัยตามชานเมือง หรือตามต่างจังหวัดที่มีพื้นที่สำหรับบริหารจัดการที่กว้างขวางเพียงพอ แต่พื้นที่นอกรั้ว มหาวิทยาลัยเป็นเขตที่หลายฝ่ายยอมรับว่าควบคุมได้ยาก ในแง่ของการประกอบการและประเภทของธุรกิจที่มักจะเป็นธุรกิจการค้าขายที่มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นนิสิต นักศึกษา และที่แย่ไปกว่านั้นคือ ในพื้นที่ รอบมหาวิทยาลัยหลายๆ แห่งในบ้านเรา มักจะเปิดเป็นร้านขายเหล้า หรือ สถานบันเทิง


          "กลุ่มวัยรุ่น นิสิต นักศึกษา ถือเป็นกลุ่มเสี่ยง เพราะมีสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อสุขภาวะที่ไม่ดี อาทิ มีสถานที่เที่ยว สถานบันเทิงและสิ่งยั่วยุต่างๆ รอบสถานศึกษา ทั้งยังมีช่วงเวลาที่ไม่เอื้อต่อ การออกกำลังกายมากนัก ทำให้ความเคยชินกลายเป็นพฤติกรรมสะสมไปจนถึงวัยทำงาน และในที่สุดก็เกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ตามมา เช่น โรคเบาหวาน ซึ่งปัจจุบันพบในคนที่อายุน้อยลง" ทพ.กฤษดา เรืองอารีรัชต์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าว


       รวมพลัง'มหาวิทยาลัยแห่งสุขภาวะ' thaihealth   ดร. อาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต เป็นหนึ่งในคณะกรรมการลงนามความร่วมมือ เป็นเครือข่ายสถาบันอุดมศึกษาเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพ ระหว่างสมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย (สสอท.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริม สุขภาพ (สสส.) และเครือข่ายสถาบันอุดมศึกษากว่า 70 แห่ง กล่าวว่า ทางมหาวิทยาลัยรังสิตได้ริเริ่มโครงการพัฒนามหาวิทยาลัยรังสิตสู่การเป็นมหาวิทยาลัยสร้างเสริมสุขภาพและมหาวิทยาลัยนวัตกรรมการเรียนรู้สู่สุขภาพที่ยั่งยืน (RSU Healthy Campus) ภายใต้ การสนับสนุนจาก สสส. โดยเน้นประเด็นสำคัญ 7 ด้าน ได้แก่ การลด ละ เลิกบุหรี่ สุรา และสิ่งเสพติด อาหารและโภชนาการปลอดภัย การป้องกันอุบัติเหตุจากจราจร การพัฒนาจิต การแก้ไขปัญหาทางจิตใจและการปรับตัวทางสังคม การออกกำลังกายและการเล่นกีฬาเพื่อสร้างเสริมสุขภาพ ความรักและเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย รวมไปถึงการพัฒนาสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการสร้างเสริมสุขภาพทั้งภายในมหาวิทยาลัยและชุมชน


          นอกจากนั้น ดร. อาทิตย์ ยังบอกอีกว่า มหาวิทยาลัยรังสิต ได้พัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอน งานวิจัย และนวัตกรรมต่างๆ ในด้านการสร้างเสริมสุขภาพโดยมีเป้าหมายในการยกระดับมาตรฐานทางสุขภาพแบบองค์รวมให้กับบุคคลากรทุกฝ่ายโดยได้เชิญเครือข่าย มหาวิทยาลัยเอกชนร่วมเดินหน้าไปด้วยกันเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้และขยายผลทั้งในระดับชาติและนานาชาติออกไปในอนาคต ในการลงนามความร่วมมือครั้งนี้จึงเป็นการสร้างเครือข่ายมหาวิทยาลัยสุขภาวะให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น ซึ่ง ทพ.กฤษดา ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวถึงวัตถุประสงค์และบอกอีกว่าสถาบันการศึกษา นับว่าเป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของวัยรุ่นได้เป็นอย่างดี รวมพลัง'มหาวิทยาลัยแห่งสุขภาวะ' thaihealthดังนั้นการตัดสินใจและเดินหน้าร่วมกันในการสร้างเสริมสุขภาพครั้งนี้นับว่าเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่


          ดร.พรชัย มงคลวนิช  อธิการบดีมหาวิทยาลัยสยาม และนายกสมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย (สสอท.) ได้ให้ข้อคิดที่น่าสนใจ โดยอาจารย์กล่าวว่า มหาวิทยาลัยจะต้อง ไม่มีรั้ว ในแง่ของความคิด นั่นหมายถึง มหาวิทยาลัย และชุมชน จะต้องเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และประสานการทำงานร่วมกันเพื่อให้เกิดการพัฒนาเยาวชนของชาติในแนวทางที่ยั่งยืน การผสานพลังของกลุ่มมหาวิทยาลัยทั่วประเทศในครั้งนี้จะเป็นเสมือนก้าวแรกเริ่มของการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่จะดียิ่งขึ้นไปของเยาวชนคนรุ่นใหม่ของชาติ และจะเป็นการจัดระเบียบให้พื้นที่รอบมหาวิทยาลัยส่งเสริมการเรียนรู้ในมิติที่ดีให้กับนิสิต นักศึกษา และอาจสามารถช่วยลดปัญหาอาชญากรรมได้อีกด้วยเช่นกัน


 


 


          ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ

Shares:
QR Code :
QR Code