รมว.สธ.เปิดงานมหกรรมสมุนไพร

รมว.สธ.เปิดงานมหกรรมสมุนไพร

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดงานมหกรรมสุขภาพแห่งชาติ ระดมหมอพื้นบ้านทั่วประเทศร่วมแสดงพลังภูมิปัญญาไทย พร้อมยกระดับสู่การแข่งขันระดับโลก

นายวิทยา บุรณศิริ นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ และการประชุมวิชาการการแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้าน และการแพทย์ทางเลือกแห่งชาติ ครั้งที่ 9 ที่กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกร่วมกับ 118 องค์กรเครือข่ายจัดขึ้น ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 9 ก.ย.นี้ ที่อิมแพคเมืองทองธานี

โดยนายวิทยา กล่าวว่า เพื่อเป็นการเปิดรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน รัฐบาลจึงมีนโยบายพัฒนาสินค้าประเภทสมุนไพรไทยให้เป็นที่ยอมรับมากขึ้น จากที่ผ่านมาในปี 2554 สินค้าสมุนไพรไทยมีมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท แต่ในปี 2558 ที่เปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนเชื่อว่าอุตสาหกรรมแปรรูปสมุนไพรไทยจะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 30,000 ล้านบาท ซึ่งตั้งแต่ปี 2556 กระทรวงสาธารณสุขจะเดินหน้าเต็มที่ในการพัฒนาด้านการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรไทย ใน 4 เรื่อง คือ เร่งผลิตแพทย์แผนไทยและส่งไปประจำในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบาล (รพ.สต.)ให้ได้ 400 แห่ง พัฒนาโรงพยาบาลตรวจรักษาด้วยแพทย์แผนไทยต้นแบบ นำร่อง 14 แห่ง จัดทำราคากลางอ้างอิงยาสมุนไพรในสถานพยาบาลเพื่อให้บริหารการจัดซื้อยาสุมนไพรเป็นมาตรฐานเดียว จากเดิมราคากลางมีเฉพาะในยาแผนปัจจุบันเท่านั้น และจะเพิ่มยาสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติให้ได้ 100 รายการ จากปัจจุบันมีอยู่แล้ว 71 รายการ เพื่อยกระดับการแพทย์แผนไทยให้เป็นที่รู้จัดและยอมรับในมาตรฐานของไทย หลังการนวดไทย ท่าฤาษีดัดตนของวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์) ได้รับการขึ้นทะเบียนจากยูเนสโก ให้เป็นมรดกความทรงจำแห่งโลก

รมว.สธ.เปิดงานมหกรรมสมุนไพร

ซึ่งในงานนอกจากจะรวบรวมหมอพื้นบ้านของไทยจากทั่วประเทศ มาร่วมแสดงภูมิปัญญาที่หาดูได้ยากมาแสดงแล้ว ยังมีตัวแทนจากแพทย์พื้นบ้านลุ่มน้ำโขงจาก 6 ประเทศ คือ กัมพูชา จีน ลาว พม่า เวียดนาม และไทย มาประชุมร่วมกัน เพื่อจัดตั้งเครือข่ายความร่วมมือแพทย์พื้นบ้านลุ่มน้ำโขง วางแผนพัฒนาและอนุรักษ์การแพทย์พื้นบ้านลุ่มน้ำโขงด้วย

ทั้งนี้ นายวิทยา ยังได้มอบรางวัลหมอไทยดีเด่นแห่งชาติ คนที่ 2 ของประเทศไทยให้หมอสง่า พันธุ์สาย หมอพื้นบ้านเหยียบเหล็กแดง ชาว จ.พระนครศรีอยุธยา ด้วยประสบการณ์รักษากว่า 50 ปี ทำให้ได้รับเลือกจากผู้ถูกเสนอชื่อทั้งหมด 50 คน ให้รับรางวัลในปีนี้

ที่มา: สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์

Shares:
QR Code :
QR Code