รพ.สต.ห้วยโป่ง ‘ขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพตำบล’

ที่มา : หนังสือพิมพ์สยามรัฐ


ภาพประกอบจากเว็บไซต์เชียงใหม่นิวส์


รพ.สต.ห้วยโป่ง 'ขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพตำบล' thaihealth


"ชุมชนเข้มแข็ง ร่วมใจห่างไกลบุหรี่ ด้วยธรรมนูญสุขภาวะ" เกิดขึ้นที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลห้วยโป่ง จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อรณรงค์และสร้างความตระหนักให้ชาวบ้านรู้ถึงพิษภัยของบุหรี่


"หนูไม่อยากให้พ่อกับแม่สูบบุหรี่ ไม่อยากให้พ่อกับแม่ตาย" คำพูดที่สะเทือนใจของเด็กน้อยไร้เดียงสาคนหนึ่งที่พอจะรู้ถึงพิษภัยของบุหรี่ที่ได้รับรู้มาจากโรงเรียน พยายามสื่อไปยังพ่อกับแม่


คำพูดนั้นกลับไม่ได้ทำให้ ปวีณา สุขแก้ววัย 38 ปี และ จำรูญ รัตนชัยธิติกุล วัย 43 ปีแม่กับพ่อรู้สึกยี่หระ ทั้งคู่ยังสูบบุหรี่เรื่อยมานานหลายปี อย่างน้อยวันละ 2-5 มวน ต่อเนื่องมามากกว่า 20 ปี ไม่ว่าลูกจะแอบเอากล่องบุหรี่ยาเส้นไปทิ้งหลายครั้งก็ไม่เป็นผล ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดก็ไม่สามารถยุดยั้งทั้งสองคนให้เลิกบุหรี่ได้


แต่แล้ววันหนึ่ง ปวีณาเริ่มมีอาการปวดหัวอย่างหนัก รักษาอย่างไรก็ไม่หาย หมอให้คำแนะนำว่าควรเลิกสูบบุหรี่ ทำให้เธอเริ่มฉุกคิด ใจหนึ่งก็ยังอยากสูบบุหรี่ที่คุ้นเคย แต่ใจหนึ่งก็เพื่อสุขภาพ และที่สำคัญเธอเริ่มสงสารลูก และคิดว่าหากเธอกับสามีเป็นอะไรไปลูกจะอยู่กับใคร


ช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลห้วยโป่ง (รพ.สต.ห้วยโป่ง) อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ได้รณรงค์การเลิกสูบบุหรี่ในชุมชน ปวีณา และ จำรูญ จึงตั้งใจอย่างแน่วแน่ และใช้โอกาสนี้ตัดสินใจเดินเข้าไปยังคลินิกเลิกบุหรี่ รพ.สต.ห้วยโป่ง เพื่อขอคำปรึกษาในการเลิกบุหรี่อย่างถาวร


รพ.สต.ห้วยโป่ง 'ขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพตำบล' thaihealth


นอกจากสองสามีภรรยาคู่นี้ ยังมีผู้สมัครใจเลิกบุหรี่แล้วจำนวน 95 ราย อันเป็นผลมาจากการทำงานเชิงรุกของ รพ.สต.ห้วยโป่ง ในโครงการ "ชุมชนเข้มแข็ง ร่วมใจห่างไกลบุหรี่ด้วยธรรมนูญสุขภาวะ" ภายใต้โครงการควบคุมยาสูบโดยใช้ชุมชนเป็นฐาน โดยได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงสาธารณสุข และ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เพื่อให้ชาวบ้านตระหนักถึงพิษภัยของบุหรี่ นำไปสู่ตำบลปลอดบุหรี่ต่อไป


นายอดิศร ปันเซ ผู้อำนวยการ รพ.สต.ห้วยโป่ง กล่าวว่า พื้นที่ตำบลห้วยโป่ง มี 15 หมู่บ้าน จากการสำรวจมีผู้สูบบุหรี่จำนวน 702 คน และในรอบ 3 ปีย้อนหลังมีผู้ป่วยจากมะเร็งปอดมากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากโรคความดันโลหิตสูง และมีผู้เสียชีวิต 6-7 รายต่อปี ซึ่งสาเหตุมาจากการสูบบุหรี่ เพราะอาการเริ่มป่วยก่อนเป็นมะเร็ง จะเป็นโรคหอบต่อด้วยถุงลมโป่งพอง เมื่อรักษาต่อเนื่องจะมีอาการแทรกซ้อนตามมา คือ ปอดติดเชื้อและมีก้อนมะเร็ง


"ต้องยอมรับว่าการสูบบุหรี่เป็นวิถีชีวิตและเกี่ยวเนื่องกับอาชีพของชาวบ้าน เพราะคนสมัยก่อนจะสูบบุหรี่มวนเอง ซึ่งทำจากยาเส้น คิโย ใบตอง ก็เพื่อให้ควันของบุหรี่ช่วยไล่ยุงไล่แมลงต่างๆ เวลาเลี้ยงวัว ควาย เข้าไร่นา หรือเข้าป่า สูบทุกวันโดยที่ไม่รู้ว่าเขาติดและควันบุหรี่อันตรายมากเพียงใด และไม่คิดว่าจะเป็นอันตรายเพราะวัตถุดิบบุหรี่เขาปลูกเอง ทำเองทั้งนั้น นอกจากนี้แล้ววัฒนธรรมของชาวกะเหรี่ยงซึ่งอาศัยอยู่ในพื้นที่เป็นส่วนใหญ่เวลามีงานบุญ งานประเพณี มักจะนำเอาบุหรี่มวนมาเลี้ยงรับแขกให้ได้สูดกิน ดังนั้นบุหรี่จึงเป็นวัฒนธรรมและวิถีชีวิตที่แยกกันไม่ออกเพราะเขาไม่คิดถึงผลกระทบเรื่องสุขภาพ"


รพ.สต.ห้วยโป่ง 'ขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพตำบล' thaihealth


นายอดิศรกล่าวต่อว่า ดังนั้น รพ.สต.ห้วยโป่ง จึงได้จัดทำโครงการ "ชุมชนเข้มแข็ง ร่วมใจห่างไกลบุหรี่ ด้วยธรรมนูญสุขภาวะ" เพื่อรณรงค์และสร้างความตระหนักให้ชาวบ้านรู้ถึงพิษภัยของบุหรี่ โดยเริ่มจากคณะกรรมการขับเคลื่อนตำบลปลอดบุหรี่ จากนั้นจึงจัดเวทีรับฟังความเห็นของชุมชนเพื่อให้ทุกคนมีส่วนร่วม ก่อนคัดเลือกแกนนำหมู่บ้านละ 3 คนเพื่อเป็นกระบอกเสียงประชาสัมพันธ์และขับเคลื่อนในพื้นที่ ประชุมร้านค้า หาบเร่ แผงลอย เข้มงวดจำหน่ายบุหรี่ตามกฎหมาย จัดคลินิกเลิกบุหรี่ใน รพ.สต.ห้วยโป่ง เพื่อให้ชาวบ้านที่สนใจเลิกบุหรี่เข้ามาขอคำแนะนำในการเลิกบุหรี่ ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ประจำอยู่ทุกวัน


"นอกจากนี้ยังจัดให้มีค่ายเลิกบุหรี่สัญจรคัดกรองผู้สูบบุหรี่เพื่อให้เข้าถึงทุกชุมชนด้วยเครื่องวัดค่าคาร์บอนมอนอกไซด์ในปอด สอนการใช้สมุนไพรและการนวดกดจุดเลิกบุหรี่จัดกิจกรรมเดินรณรงค์ในวันสำคัญต่างๆ ปรับปรุงสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการเลิกบุหรี่ ติดป้ายห้ามสูบบุหรี่ตามสถานที่ราชการ การออกเสียงตามสายให้ความรู้เรื่องบุหรี่ทุกวันเสาร์จัดเวทีป้องกันนักสูบหน้าใหม่ สร้างข้อตกลงชุมชนร่วมกันและติดป้ายตามจุดสำคัญของชุมชน ขอความร่วมมือเจ้าภาพงดเลี้ยงแขกด้วยบุหรี่และยาเส้นในงานต่างๆ จัดประกวดเรียงความ และคัดเลือกบุคคลต้นแบบ มอบใบประกาศร้านค้าที่เลิกขายบุหรี่จำนวน 3 ร้าน เป็นต้น"


ผอ.รพ.สต.ห้วยโป่ง กล่าวถึงอุปสรรคการทำงานว่า การสื่อสารและคมนาคมคืออุปสรรคสำคัญในการทำงาน เพราะชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นชาวไทยใหญ่ กะเหรี่ยง และม้ง จึงต้องมีการแปลสารจากภาษาไทยไปเป็นภาษาของชุมชนนั้นๆ ทั้งภาษาพูด เขียน และการใช้ภาษาภาพ ขณะที่ช่วงฤดูฝนการเข้าพื้นที่ไม่สามารถทำได้ เพราะเส้นทางรถถูกตัดขาด เราจึงต้องทำในพื้นที่ราบไปก่อน พื้นที่สูงจึงทำได้เพียงให้แกนนำที่เราจัดตั้งขึ้นนำสารไปประชาสัมพันธ์ก่อน จากนั้นเมื่อหมดฝนจึงจะขึ้นดอยลุยกันต่อ


โครงการ "ชุมชนเข้มแข็ง ร่วมใจห่างไกลบุหรี่ ด้วยธรรมนูญสุขภาวะ" ถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนและภารกิจขับเคลื่อนสุขภาพด้วยพลังของทุกภาคส่วนที่ร่วมด้วยช่วยกันเพื่อผลลัพธ์ คือการผลักดันให้เกิด "ธรรมนูญสุขภาพตำบลห้วยโป่ง" อันส่งผลให้ชาวห้วยโป่งสุขภาวะดีทุกมิติครอบคลุมทั้งตำบลอย่างยั่งยืนต่อไป

Shares:
QR Code :
QR Code

ใส่ความเห็น

ระบุข้อความ