รถเมล์ไทยปลอดภัย รวมพลังสู้หวัด 2009
ระวัง! ไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009 กำลังจะกลับมา ระบาด!!!
แม้กระแสการระบาดของเจ้าไวรัสตัวร้ายอย่างเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009 จะสร่างซาไปจากหน้าหนังสือพิมพ์บ้างแล้วก็ตาม แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า เจ้าเชื้อร้ายจะหยุดรุกรานชีวิตของมนุษย์ เพราะจากการคาดการณ์ของกระทรวงสาธารณสุข พบว่า ในช่วง 2 เดือนต่อจากนี้ คือ กันยายน และตุลาคม จะเป็นช่วงที่มีการระบาดของโรคไข้หวัดสูงเป็นปกติทุกปี!
เกี่ยวกับเรื่องนี้คณะอนุกรรมการสนับสนุนป้องกัน ควบคุม และการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009 สสส. จึงร่วมกับ กระทรวงคมนาคม องค์การเภสัชกรรม จัดงานแถลงข่าว “รถเมล์ไทยปลอดภัย รวมพลังสู้หวัด 2009” หรือเรียกกันแบบเก๋ ๆ ว่า “Hygiene Bus” ที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัย เพื่อป้องกันผู้ใช้บริการรถเมล์ไทยกว่า 1 ล้าน 6 แสนคน ให้รอดพ้นจากพิษภัยของไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009
นพ.มงคล ณ สงขลา ประธานอนุคณะกรรมสนับสนุนป้องกัน ควบคุม และการแก้ปัญหาการแพร่ระบาด ของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 สสส. เล่าให้ฟังว่า ขณะนี้มาตรการขั้นพื้นฐานในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ทั้งการให้ความรู้การดูแลสุขภาพและป้องกันตนเองจากเชื้อไวรัส การล้างมือ การใส่หน้ากากอนามัยซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการป้องกันและแพร่กระจายเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 ไปยังผู้อื่น รวมถึงพยายามหลีกเลี่ยงการอยู่ในชุมนุมชนที่แออัดผับ บาร์ ทำได้ดีอยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม การรณรงค์ป้องกันการแพร่ระบาดนั้น ยังคงต้องดำเนินต่อไปอย่างเข้มข้น เพราะการแพร่ระบาดยังสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเวลา โดยเฉพาะในพื้นที่สาธารณะ หรือสถานที่ที่ใช้บริการร่วมกันของคนจำนวนมาก
“รถโดยสารสาธารณะที่เป็นรถร้อนแม้จะเปิดหน้าต่างโปร่ง ความร้อนส่องถึงอาจฆ่าเชื้อโรคได้บางส่วนก็จริง แต่ก็ไม่สามารถฆ่าเชื้อโรคให้ตายทั้งหมดได้ ดังนั้น แม้จะอยู่ในที่ที่แสงแดดส่องถึงก็ไม่ควรวางใจและละเลยในการดูแลสุขลักษณะของตนเอง แต่เมื่อเปรียบเทียบกับรถแอร์แล้ว รถร้อนมีโอกาสเสี่ยงติดเชื้อโรคน้อยกว่ารถแอร์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของแต่ละคนด้วยว่า จับราวบันได โหนรถแล้ว เอามือมาจับตา จับจมูกหรือไม่และหมั่นล้างมือหรือไม่ด้วย และในกรณีที่รถเมล์แน่นก็ควรใส่หน้ากากอนามัยเพื่อความปลอดภัย และไม่ควรตั้งข้อรังเกียจ คนที่ใส่หน้ากาก เพราะเป็นคนที่รู้จักป้องกันตัวและช่วยลดการแพร่กระจายของเชื้อโรค” นพ.มงคล เล่า
นอกจากนี้ นพ.มงคล บอกอีกว่า อีก 2 เดือนต่อจากนี้คือ ก.ย.และ ต.ค. จะเป็นช่วงที่มีการระบาดของโรคไข้หวัดสูงเป็นปกติทุกปี ประชาชนจึงไม่ควรประมาท
“ที่น่าเป็นห่วง คือ คนไทยมักจะลืมง่าย ขี้ลืม ทั้งๆ ที่ในช่วง 2 เดือนข้างหน้าต่อจากนี้ยังเป็นช่วงที่อันตรายเพราะเป็นช่วงรอยต่อระหว่างฤดูฝนกับฤดูหนาวที่เชื้อไวรัสชนิดต่างๆ จะเริ่มเข้ามา หากเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 กับไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล มาเจอกัน อาจเกิดการกลายพันธุ์ได้ ดังนั้น อย่าประมาท เพราะเห็นว่า สถานการณ์ของโรคดีขึ้น มีผู้เสียชีวิตและติดเชื้อลดลง โดยจะต้องหนักแน่นในแนวทางการปฏิบัติตนให้เป็นนิสัยและเคร่งครัดให้มีร่างกายแข็งแรง” นพ.มงคล เล่าอย่างเป็นห่วง
ไม่เพียงเท่านี้…คณะอนุกรรมการหวัด 2009 สสส. ยังร่วมสนับสนุนองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ใน 3 มาตรการ เริ่มจากติดตั้งจุดบริการแอลกอฮอล์เจล สำหรับล้างมือบนรถโดยสาร ทั้ง 3,514 คัน และประสานความร่วมมือกับ องค์การเภสัชกรรม มอบแอลกอฮอล์เจลสำหรับล้างมือจำนวน 10,000 ขวด ขนาด 500 ซีซี มูลค่า 990,000 บาท ให้กับ ขสมก.
จากนั้นส่งเสริมให้มีการจัดกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพของพนักงาน ขสมก. จำนวน 16,676 คน และสุดท้าย มอบสื่อรณรงค์ จำนวน 15,000 ชิ้น อาทิ โปสเตอร์ สติกเกอร์ เพื่อนำไปติดตั้งในรถโดยสาร รวมถึงข้อมูลการป้องกันโรค ที่จะวางอยู่ในท่ารถทุกแห่ง และจัดกิจกรรมให้ประชาชนร่วมลงคะแนนว่ารถเมล์สายใด คันไหน สะอาดปลอดภัย ผ่านคลื่น 103 เอฟเอ็ม โดยจะมอบรางวัลให้กับรถที่ได้รับคะแนนสูงสุดทุกสัปดาห์ และประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อหนังสือพิมพ์รายวันอีกด้วย
ด้าน นายธวัชชัย ทัศนะแทน รองผู้อำนวยการ ขสมก. ได้ออกมาบอกว่า การป้องกันให้ผู้โดยสารปลอดภัยจากไข้หวัด 2009 นั้น ทาง ขสมก.จะมีการตรวจวัดอุณหภูมิของผู้ให้บริการ พนักงานขับรถ พนักงานเก็บค่าโดยสาร ก่อนออกปฏิบัติหน้าที่ทุกครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าบุคลากรมีสุขภาพแข็งแรงพร้อมให้บริการ นอกจากนี้ ขสมก. ยังได้กำหนดมาตรการ 5 ข้อเพื่อช่วยลดการระบาดของโรคไข้หวัด 2009 ได้แก่ 1.พนักงานขับรถและเจ้าหน้าที่เก็บค่าโดยสารจะต้องสวมหน้ากากอนามัยขณะปฏิบัติหน้าที่ 2.ติดตั้งแอลกอฮอล์ล้างมือในรถทุกคัน 3.จะต้องทำความสะอาดทุกครั้งเมื่อรถเข้าสู่ท่า 4.ในกรณีรถปรับอากาศจะต้องเปิดพัดลมระบายอากาศทุก ๆ 10 นาที และ 5.จะต้องนำผ้าม่านมาทำความสะอาดสม่ำเสมอ
“เมื่อรถหมดเวลาให้บริการในแต่ละวัน จะทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคทั้งคัน ซึ่งรถโดยสารทุกคัน จะสะอาดทั้งภายนอกและภายใน และมีพนักงานที่มีความรู้ในเรื่องการป้องกันเชื้อไข้หวัด 2009 โดยเจ้าหน้าที่เก็บค่าโดยสารจะถือกระบอกเก็บค่าโดยสารแล้ว จะทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงประชาสัมพันธ์ให้ผู้โดยสารป้องกันตนเองจากไข้หวัด 2009 อีกด้วย” นายธวัชชัย กล่าว
น่าชื่นใจจริง ๆ ที่หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ต่างออกมาช่วยกันรณรงค์และร่วมกันป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009…ถึงเวลาแล้วที่ “เรา” จะต้องร่วมมือ ร่วมใจกันหยุดยั้งการแพร่กระจายของเชื้อร้ายด้วยการไม่เอื้อเฟื้อเชื้อหวัดแก่ผู้อื่น…
ที่มา : อารยา สิงห์สวัสดิ์ Team content www.thaihealth.or.th
ภาพโดย : นพรัตน์ นริสรานนท์ Team content www.thaihealth.or.th
Update 18-08-52
อัพเดทเนื้อหาโดย : อารยา สิงห์สวัสดิ์