รณรงค์ Road safety ที่คลองพระอุดม จ.ปทุมธานี
ที่มา : แนวหน้า
ภาพโดย สสส. และแฟ้มภาพ
"Thailand Big move Road Safety"เป็นโครงการรณรงค์ลดอุบัติเหตุสู่เส้นทางถนนปลอดภัย โดยมีภาคประชาชน เครือข่าย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพแห่งชาติ (สสส.) ร่วมเป็นกำลังในการช่วยสอดส่องดูแลให้ถนนปลอดภัยไร้อุบัติเหตุ กิจกรรมนี้ดำเนินการมาแล้วทุกภาคตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา
ขณะเดียวกันส่วนราชการต่าง ๆ ภาคเอกชนอื่น ๆ ก็ร่วมรณรงค์ความปลอดภัยบนท้องถนนด้วย ซึ่งมีเป้าหมายคือเพื่อความปลอดภัยบนท้องถนน
"Thailand Big move Road Safety" ล่าสุดก็ไปรณรงค์กันที่ บริเวณช่วงถนนราชพฤกษ์-กาญจนาภิเษก ตัดผ่านตำบลคลองพระอุดม อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี เพราะพื้นที่ดังกล่าวจากถนนเส้นเดียวที่เคยเป็นทางสัญจรของหมู่บ้าน กลับกลายเป็นแยกขนาดใหญ่ที่มีจุดตัดหรือจุดกลับรถสลับซับซ้อนมากมายในจุดเดียวกัน เกิดเป็นจุดเสี่ยงอุบัติเหตุบนท้องถนนที่จุดสำคัญที่ชาวบ้าน เรียกขานกันติดปากและขนานนามว่า "ห้าแยกวัดใจหน้าหมู่บ้านขจีนุช"
มะลิ สีมันตะ ประธาน อสม. ตำบลคลองพระอุดม เล่าว่า บริเวณนี้ไม่มีสัญญาณจราจรหรือป้ายบอกทาง รวมทั้ง ยังมีทางด่วนยกระดับสร้างขึ้นมาคร่อมอีก แต่กลับมีแสงสว่างน้อยทำให้มืดมาก ทั้งยังมีหลุมบ่อตรงกลางถนนอีก ในช่วงเร่งด่วนยิ่งมีปัญหา เช่น นักเรียนขับรถไป-กลับโรงเรียนในช่วงเช้าหรือค่ำ ๆ ก็เสี่ยงมาก
"อุบัติเหตุเกิดบ่อยมาก แต่ยังไม่ถึงตาย แค่บาดเจ็บ ล้ม คว่ำ เฉี่ยว หลบกันพ้นบ้างไม่พ้นบ้าง เราอยากได้ป้ายสัญญาณหรือไฟกะพริบเตือน ตอนนี้มันวัดใจกัน ทุกคนมองว่าตัวเองเป็นทางเอกหมด เราเป็นห่วงชีวิตและทรัพย์สินประชาชนรวมทั้งนักเรียน อยากให้ช่วยกัน ในบางเรื่องชาวบ้านแก้เองไม่ได้ ต้องรอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไข" มะลิ กล่าว
ขณะที่ ณัฐนิชาภรณ์ อินทอง ผอ.โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลคลองพระอุดม กล่าวว่า ปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนน นอกจากเป็นงานเฝ้าระวังของทางโรงพยาบาลเองแล้ว อีกส่วนหนึ่งมาจากแรงสะท้อนของคนในพื้นที่ ซึ่งการทำงานระดับชุมชนถือเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะคนในพื้นที่ก็เหมือนญาติพี่น้องและเด็ก ๆ ก็เหมือนลูกหลาน จึงไม่อยากให้มีการสูญเสียเกิดขึ้น ดังนั้น เมื่อพื้นที่รู้สึกว่าไม่อาจอยู่เฉย ๆ ได้ ก็เกิดเป็นแรงกระเพื่อมขึ้น เช่น ทาง อสม.ได้ลงพื้นที่สำรวจปัญหา มีการรณรงค์แจ้งเตือนต่าง ๆ แต่ศักยภาพของพื้นที่เองก็มีข้อจำกัด คือท้ายที่สุดอาจคุยได้แค่กับท้องถิ่นหรือเทศบาลให้มาช่วยแก้ไขซึ่งก็เป็นการแก้ปัญหาได้ส่วนหนึ่ง แต่ที่เกินศักยภาพ ชุมชนอย่างพื้นที่รับผิดชอบในระดับแขวงการทางหรือแขวงทางหลวงซึ่งเป็นหน่วยงานระดับประเทศ ก็อยู่นอกเหนือท้องถิ่นจะดำเนินการได้
ณัฐนิชาภรณ์ ยังได้กล่าวถึงอีกปัจจัยสำคัญที่มีส่วนในการสร้างความเปลี่ยนนั่นคือ การเข้ามาของโครงการ Thailand Big move Road Safety ทำให้ได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุเพิ่มมากขึ้น หลังจากที่ได้พาลงพื้นที่ดูจุดเสี่ยงต่าง ๆ ของตำบลคลองพระอุดม และนำมาประเมินพร้อมกับชุมชนแล้วเห็นร่วมกันว่าจุดเสี่ยงหน้าห้าแยกหมู่บ้านขจีนุชเป็นจุดที่เสี่ยงและเสียวที่สุดในตำบล หลังจากนั้นจึงมีการดำเนินการในพื้นที่ เพิ่มความเข้มขึ้น ในการเฝ้าระวังอุบัติเหตุช่วงสงกรานต์ และได้ประสานงานกับแขวงการทางเพื่อปิดจุดเสี่ยงต่าง ๆ เช่น ที่ปากคลองกำนันเยื้อนซึ่งแต่ก่อนเป็นหลุมลึกประมาณหัวเข่าก็แก้ไขแล้ว ส่วนที่จุดห้าแยกวัดใจ ได้มีการนำแบริเออร์และกรวยมากั้น หลังจากมีความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ จนถึงตอนนี้ ยังไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น เรื่องอุบัติเหตุแม้ว่าจะมีการทำกันมาอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ แต่เดิมมันไม่กระเพื่อมถึงข้างบน โครงการ Thailand Big move Road Safety นอกจากเชื่อมประสานหน่วยงานต่างๆ แล้วยังดึงสื่อเข้ามาด้วย ซึ่งการเป็นกระแสก็มีส่วนในความเปลี่ยนแปลง เนื่องจากหน่วยงานต่างๆ จะมีความตื่นตัวมากขึ้น
ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการ สสส. กล่าวว่า ที่ผ่านมา สสส. มีส่วนสำคัญให้เกิดนโยบายสาธารณะด้านความปลอดภัยบนท้องถนน ทั้งยังทำหน้าที่เป็นองค์กรเชื่อมประสานหน่วยงานและภาคเครือข่ายต่าง ๆ สนับสนุนองค์ความรู้ รวมทั้งจัดทำฐานข้อมูลสนับสนุนการทำงานเพื่อความปลอดภัยทางถนนในแต่ละจังหวัด โดยในปีนี้ได้วางเป้าหมายในการรุกเข้าไปทำงานเพื่อจัดการจุดเสี่ยงต่าง ๆ ให้มากขึ้น ซึ่งงานในลักษณะนี้พื้นที่จะเป็นผู้รู้ข้อมูลของตัวเองดีที่สุด ดังนั้น การทำขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาความปลอดภัยบนท้องถนนโดยเริ่มต้นจากชุมชนจึงเป็น เสมือนจิ๊กซอว์ที่สำคัญในการแก้ปัญหา ซึ่งโครงการ "Thailand Big Move : Road Safety" ได้เริ่มต้น นำร่อง 10 จังหวัด ผลสำเร็จที่เกิดขึ้นจึงถือเป็นโมเดลสำคัญ เพื่อขยายผลไปยังพื้นที่อื่นต่อไป