สสส. จับมือ เครือข่ายหยุดพนัน รณรงค์อุทาหรณ์ผีพนัน เผยคนไทยสูญเงินเล่นพนัน 4 แสนล้านต่อปี ชี้เป็นปัจจัยทำให้ติดเหล้า-บุหรี่-ยาเสพติด หวั่นอนาคตพนันผันตัวตามร้านสะดวกซื้อ ด้าน “เหยื่อพนัน” เปิดอกหมดตัวครอบครัวพัง หาเงินใช้หนี้ทั้งชีวิต ขณะที่ “คุณแม่นักสู้” สามีหนี ทิ้งหนี้พนันบอลนับ 2 ล้านไว้ต่างหน้า ชดใช้นานกว่า 5 ปี พร้อมฝากข้อคิดยึดลูกเป็นหลัก มีสติ พยุงครอบครัวฝ่าวิกฤตทุกข์พนัน
วันนี้ (5 พ.ย.2555) ที่สถานีรถไฟหัวลำโพง เมื่อเวลา 13.30 น. เครือข่ายรณรงค์หยุดพนัน ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.)จัดกิจกรรมรณรงค์หยุดพนันตอน ติดพนัน ดับฝัน หมดอนาคต โดยในงานมีการนำผู้ชาย 10 คนนุ่งห่มด้วยกระดาษลัง สะท้อนภาพการหมดตัวจากพนัน เดินแจกสื่อรณรงค์ พร้อมทั้งจัดเสวนา “ถอดรหัสอดีตผีพนัน…ดับฝัน หมดอนาคต” นำประสบการณ์ตรงที่เกิดขึ้นในชีวิตจริงของเหยื่อพนันมาเป็นอุทาหรณ์ และได้นำสปอตโทรทัศน์ รณรงค์หยุดพนัน ของ สสส.ชุดใหม่มาเปิดตัวในงานนี้ด้วย
นายธนากร คมกฤส ผู้ประสานงานเครือข่ายรณรงค์หยุดพนัน กล่าวว่า หากขีดวงให้เห็นพื้นที่การเล่นพนันในแผนที่ประเทศไทย พบว่า อยู่รายล้อมรอบแทบทุกอณูพื้นที่ มีบ่อนชายแดนอยู่ทุกภาค ทั้งเชียงราย สระแก้ว มุกดาหาร หาดใหญ่ ฯลฯ เรามีบ่อนปิดลับที่คนรู้จักกันทั่วสารพัดรูปแบบกลางบ้านกลางเมือง ทั้งบ่อนลอยฟ้า บ่อนดำดิน บ่อนเคลื่อนที่ บ่อนกลางตลาดนัด เป็นต้น เรามีแหล่งเรียนรู้การพนันสำหรับเด็กเยาวชนในชุมชน เช่น โต๊ะสนุ้ก ตู้ม้า ตู้สล็อต โต๊ะรับแทงบอลที่เด็กเข้าถึงง่าย และที่น่าวิตกมากคือ การพนันออนไลน์ที่เข้าถึงได้ทันทีตลอด 24 ชั่วโมง คาสิโนออนไลน์ พนันบอลออนไลน์ และในอนาคตกำลังจะมีหวยตู้ออนไลน์ที่รัฐบาลกำลังพยายามผลักดันอยู่ จำนวน 12,000 ตู้ทั่วประเทศ ซึ่งในอนาคตสามารถผันตัวมาอยู่ตามร้านสะดวกซื้อต่างๆได้ สิ่งเหล่านี้เป็นเหตุทำให้คนไทยเสียเงินกับการพนันถึงปีละร่วม 4 แสนล้านบาท

“ผลการศึกษาทางวิชาการล้วนยืนยันว่าการพนันมีผลต่อการยับยั้งการทำงานของสมอง โดยเฉพาะในเด็กที่ยังมีพัฒนาการทางสมองไม่เต็มที่ จะไปยับยั้งการทำงานของสมองส่วนควบคุม ที่เรียกว่า สมองส่วนคิด แล้วไปเพิ่มความแข็งแรงของสมองส่วนตอบสนอง ที่เรียกว่า สมองส่วนอยาก ทำให้เด็กที่โตมากับการเล่นพนันจะไม่สามารถควบคุมตนเองได้ เช่น ในหลายกรณีที่เป็นข่าว นอกจากนี้การพนันยังเป็นปัจจัยไปหนุนเสริมความรุนแรงในอีกหลายด้าน คือ การพนันทำให้คนสูบบุหรี่เพิ่มขึ้น 4 เท่า ทำให้ดื่มเหล้าเพิ่มขึ้น 5 เท่า ทำให้ใช้ยาเสพติดเพิ่มขึ้น 6 เท่า ทำให้ใช้ความรุนแรงเพิ่มขึ้น 6 เท่า ทำให้ตัดสินใจใช้อาวุธเพิ่มขึ้น 3 เท่า และทำให้เกิดอาการซึมเศร้าเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า ซึ่งอาจทำให้คิดฆ่าตัวตาย และอาจฆ่าคนในครอบครัวตายตามไปด้วยได้” นายธนากร กล่าว
นายสมชาย (นามสมมติ) อดีตผีพนันม้าจนหมดตัว กล่าวว่า ตนเข้าไปคลุกคลีกับวงการพนันม้าตั้งแต่ยังเรียนหนังสือ โดยไปเล่นม้าทุกวันอาทิตย์ จนทำงานมีเงินเดือน มีครอบครัวก็ยังเล่นการพนันอย่างนี้มาตลอด กระทั่งเล่นหมดตัวภายในวันเดียว 4 แสนบาท ซึ่งเงินนั้นก็เป็นเงินของบริษัทที่ทำงาน ไม่มีเงินไปคืนบริษัท จึงตัดสินใจพาลูกและภรรยาหนีไปอยู่กับญาติต่างจังหวัด สุดท้ายก็โดนติดตาม เลยตัดสินใจกลับบ้านบอกแม่ และเราต้องสู้ เลยกู้เงินมาใช้หนี้บริษัทและทำงานทั้งผัวเมียหามรุ่งหามค่ำเพื่อปลดหนี้พนัน
“โชคดีที่มีแม่ให้กำลังใจในการเริ่มต้นชีวิตใหม่ ทุกวันนี้เลิกเล่นการพนันม้าอย่างสิ้นเชิง เพราะนึกถึงเหตุการณ์ที่หอบลูกหอบเมียหนี มันลำบากแสนสาหัส สงสารลูกที่ไม่รู้เรื่องแต่ต้องมาลำบากเพราะฝีมือของเรา ไฟไหม้สิบครั้งไม่เท่าเสียการพนัน เพราะมันหมดเนื้อหมดตัวทุกอย่าง ขอฝากว่าอย่าไปลองเล่นการพนันทุกชนิด อย่ายุ่งเกี่ยวกับการพนัน ทุกวันนี้เด็กเยาวชนที่ต้องตกเป็นเหยื่อพนันออนไลน์ อย่างรายล่าสุดในชุมชน เด็กอายุเพียง 9 ขวบก็เริ่มเล่นพนันแล้ว ซึ่งต่อไปเรื่องนี้จะส่งผลกระทบกับเยาวชนไทยแน่นอน” นายสมชาย กล่าว
นางสมหญิง (นามสมมติ) อดีตภรรยานักพนันบอลที่ต้องหาเงินมาใช้หนี้สินสามีกว่า 2 ล้านบาท กล่าวว่า ในช่วงแรกๆ สามีไม่ได้เล่นการพนัน จนเข้าสู่ปีที่สามที่เริ่มเล่นอย่างจริงจังจากการถูกชักจูงของคนในชุมชน ซึ่งอาจเป็นเพราะนิสัยเดิมของสามีที่มีพฤติกรรมเล่นการพนันบอลอยู่แล้ว เราก็ไม่ระแคะระคายเพราะมัวแต่ทำงานหาเงิน เมื่อเล่นหนักขึ้น หลายครั้งที่ให้นำเงินไปจ่ายค่าจิปาถะ แต่ก็นำเงินทั้งหมดไปเล่นการพนัน จนรู้ความจริง เพราะเขาไปกู้เงินมาแทงบอล ดอกเบี้ยร้อยละ 5 ไปจนถึงร้อยละ 60 ก็มี พอทั้งต้นดอกไม่จ่ายก็สะสม แล้วก็มีคนมาทวงหนี้ที่บ้าน
“เราให้โอกาสในการกลับตัวกลับใจ สุดท้ายไม่เป็นผล เพราะกลับไปเล่นพนันกู้หนี้สินเหมือนเดิม จากนั้นเริ่มมีปากเสียงกันรุนแรง สุดท้ายเขาก็หายไป ทิ้งแต่หนี้การพนันก้อนโตไว้ให้ชดใช้ตามหลังไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท มีคนมาทวงที่บ้านทั้งเจ้าหนี้และมาเฟีย และเราต้องรับผิดชอบด้วยการใช้บัตรเครดิตในการชำระหนี้สินพนันบอลเหล่านั้น ร่วมกับการทำงานอย่างหนัก เพื่อเลี้ยงลูกสาวและแม่ตามลำพังซึ่งเราใช้เวลาทั้งหมดในการใช้หนี้กว่า 5 ปี อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้ผ่านพ้นวิกฤตช่วงลำบากมาได้ คือการมีสติ และพึ่งธรรมะ โดยการเข้าวัดปฎิบัติธรรม จึงอยากฝากว่า หากพบว่าคนในครอบครัวใดครอบครัวหนึ่งติดการพนัน ควรเปิดอกหันหน้าพูดคุยกัน หากคุยกันไม่ได้ก็ต้องหาตัวช่วย เช่น ญาติพี่น้องของอีกฝ่าย หรือชวนกันไปเข้าหาพระและวัด เพราะการมีสติจะสามารถเปลี่ยนความคิดได้ และสิ่งสำคัญคือต้องมีความอดทนอดกลั้นและยึดลูกเป็นหลัก”นางสมหญิง กล่าว
ที่มา : เครือข่ายรณรงค์หยุดพนัน