ยูเนสโกหนุนจัดการขยะพลาสติกแก้ไขปัญหามลพิษ

ที่มา : แนวหน้า


ยูเนสโกหนุนจัดการขยะพลาสติกแก้ไขปัญหามลพิษ thaihealth


แฟ้มภาพ


องค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่ง สหประชาชาติ (ยูเนสโก) ร่วมกับ กระทรวงวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และ สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (เอไอที) จัดงาน World Science Day for Peace and Development 2018 หรืองาน "วันวิทยาศาสตร์โลกเพื่อสันติภาพและการพัฒนา ประจำปี 2561" ซึ่งเป็นงานที่ ยูเนสโกจัดขึ้นประจำทุกปี


เพื่อให้เห็นถึงการใช้วิทยาศาสตร์เพื่อประโยชน์ของสังคม ชูประเด็น เรื่องปัญหาขยะพลาสติก (Plastic Waste) ซึ่งเป็นปัญหาที่มี ความท้าทายต่อสถานการณ์ สิ่งแวดล้อมโลกเป็นอย่างมาก โดยมีผู้ร่วมงานทั้งจากหน่วยงานภาครัฐ นักวิชาการ และเอกชนกว่า 90 คน พร้อมฟังบรรยายจากวิทยากรนานาชาติ ในเรื่องปัญหาขยะพลาสติกในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก และแนวทางจัดการขยะพลาสติกที่ประสบความสำเร็จในเยอรมนีและรวันดา ซึ่งจัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ ณ สำนักงานยูเนสโก กรุงเทพฯ


ดร.กัญญวิมว์ กีรติกร ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี กล่าวว่า ขยะพลาสติก เป็นหนึ่งในปัญหาที่มีความท้าทายต่อสถานการณ์สิ่งแวดล้อมโลกเป็นอย่างมากและรุนแรงขึ้นในปัจจุบัน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนับว่า มีบทบาทสำคัญในการแก้ปัญหา ดังกล่าว รวมถึงต้องร่วมมือกันในทุกระดับทั้งในส่วนองค์กรระดับประเทศ ระดับโลกหรือระดับปัจเจกบุคคลเพื่อพัฒนานโยบายและแนวทางจัดการขยะพลาสติกให้ดีขึ้น


"ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา ประเทศไทยได้ร่วมมือกับหน่วยงาน ระหว่างประเทศในการพัฒนาที่ยั่งยืนให้สมดุลระหว่างการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างคุ้มค่า เช่น การประเมินวัฏจักรชีวิตและการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการการพัฒนาและส่งเสริมผลิตภัณฑ์พลาสติกที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ และผลิตภัณฑ์ชีวภาพการจัดซื้อ จัดจ้างสำหรับผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งโครงการดังกล่าว ได้รับความร่วมมือจากภาครัฐ นักวิชาการและเอกชนเป็นอย่างดี โดยงานวันนี้จะมีส่วนช่วยให้ประชาชน ตระหนักถึงความสำคัญของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและ การทำงานร่วมกันในระดับนานาชาติที่จะส่งผลดีต่อสังคมในแง่เศรษฐกิจสีเขียวสภาพแวดล้อมที่ดีต่อสุขภาพและการเติบโตอย่างยั่งยืน"


 ด้าน นายชิเกรุ โอยากิ ผู้อำนวยการ สำนักงานยูเนสโก กรุงเทพฯ กล่าวว่า วันวิทยาศาสตร์โลก เพื่อสันติภาพและการพัฒนา เป็นงาน ที่ยูเนสโกจัดขึ้นทุกปีเพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปได้ตระหนักถึง ความสำคัญของวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน โดยปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด "วิทยาศาสตร์สิทธิมนุษยชน (Science-a human right)" โดยปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนประกาศโดยสมัชชา แห่งสหประชาชาติในกรุงปารีส เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2491 ในมาตรา 27 ที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ ระบุว่า ทุกคนมีสิทธิ…เพื่อมีส่วนร่วมในความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ และผลประโยชน์ของตน ซึ่งยูเนสโก หวังว่างานในวันนี้จะเป็นโอกาส ในการริเริ่มเกี่ยวกับโครงการพลาสติกและจะทดสอบแนวทางใหม่ๆ ในการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก


ทั้งนี้ "วันวิทยาศาสตร์โลก เพื่อสันติภาพและการพัฒนา ประจำปี 2561" ได้รับเกียรติจากวิทยากรนานาชาติ อาทิ จากประเทศจีน เยอรมนี อินเดีย และ รวันดา ในการนำเสนอผลงาน 4 เรื่อง ครอบคลุมประเด็น ปัญหามลพิษทางพลาสติกรวมทั้งแนวทางแก้ไขที่อาจเกิดขึ้น มีผู้เข้าร่วมงาน ประกอบด้วย นักศึกษา เอกอัครราชทูต ผู้แทนจาก อุตสาหกรรมสหประชาชาติ หน่วยงาน ภาครัฐของไทย และสถาบันการศึกษา และเอกชนกว่า 90 คน ภายหลังการบรรยายเป็นการนำเสนอ ผลงานโปสเตอร์


นางฤทัย จงสฤษดิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายวิชาการ และกิจกรรมพัฒนาเยาวชนวิทยาศาสตร์ สวทช. เปิดเผยว่า สวทช. กระทรวงวิทย์ ให้ความร่วมมือ กับยูเนสโก ในการนำกิจกรรมวิทยาศาสตร์ด้านสิ่งแวดล้อมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่เป็นการจัดการขยะพลาสติก จำนวน 3 เรื่อง เพื่อ เรียนรู้วิธีการลด (reduce) ใช้ซ้ำ (reuse) และนำพลาสติกกลับมา ใช้ใหม่ (recycle) ซึ่งกิจกรรมดังกล่าว จะช่วยสร้างความตระหนักถึง อันตรายของโลกในการใช้พลาสติกที่มากเกินไปและเรียนรู้เกี่ยวกับ วิธีการและทางเลือกที่เป็นไปได้ หากปฏิบัติตามอย่างมีนัยสำคัญจะช่วยลดการบริโภคลงได้ ประกอบด้วย กิจกรรมที่ 1 ลดการใช้พลาสติกโดยการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีรูปแบบกิจกรรมที่ชี้ให้เห็นถึงการกลับคืนสู่ธรรมชาติและใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นของประเทศไทย กิจกรรมที่ 2 นำขวดพลาสติกมาใช้ซ้ำ โดยได้แนวคิดและแรงบันดาลใจ จากเหตุอุทกภัยครั้งใหญ่ในปี 2554 ที่มีขยะกระติกน้ำขวดพลาสติกลอยกระจายไปทั่ว จึงได้พยายามที่จะช่วยนำขวดพลาสติกเหล่านี้มาใช้ใหม่ และกิจกรรมที่ 3 รีไซเคิลพลาสติก เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ด้วยการสร้างผลิตภัณฑ์พลาสติกรีไซเคิลมาทำเป็นถุงขวดและกล่องของที่ระลึก เช่นพวงกุญแจ เป็นต้น

Shares:
QR Code :
QR Code