ยืน-เดินนาน เสี่ยง”โรคเอ็นฝ่าเท้าอักเสบ”
ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน
แฟ้มภาพ
รู้หรือไม่ ยืนนาน เดินนาน น้ำหนักตัวมากมีความเสี่ยงเป็น "โรคเอ็นฝ่าเท้าอักเสบ"
เรื่องนี้ นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ให้ข้อมูลว่า ปัจจุบันโรคเอ็นฝ่าเท้าอักเสบหรือโรครองช้ำ เป็นโรคที่พบได้บ่อย โดยจะพบมากในวัยทำงานที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป หรือผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก ผู้ที่ยืนนาน เดินนาน ผู้ที่ต้องยืนตลอดกะการทำงานทั้ง 8 ชั่วโมง หรือนานกว่านั้น เช่น พนักงานขายของในห้างสรรพสินค้า พนักงานโรงงาน พยาบาลห้องผ่าตัด เป็นต้น ผู้ที่สวมใส่รองเท้าที่ไม่เหมาะสมเป็นประจำ เช่น รองเท้าที่ไม่มีพื้นบุรองส้นเท้า และผู้ที่มีอุ้งเท้าแบนหรือโก่งเกินไป
โรคเอ็นฝ่าเท้าอักเสบจะมีอาการปวดและกดเจ็บบริเวณส้นเท้า ในระยะแรกอาจเกิดอาการภายหลังการออกกำลังกาย เดิน หรือยืนนานๆ แต่ถ้าอาการมากขึ้น ผู้ป่วยจะรู้สึกปวดส้นเท้าอยู่ตลอดเวลา ลักษณะเฉพาะของโรคนี้คือ เมื่อลุกขึ้นเดิน 2-3 ก้าวแรกหลังจากตื่นนอนในตอนเช้า หรือหลังจากนั่งพักขาเป็นเวลานาน จะรู้สึกเจ็บบริเวณส้นเท้า เนื่องจากเกิดการกระชากของเอ็นฝ่าเท้าที่อักเสบอย่างทันทีทันใด แต่เมื่อเดินไประยะหนึ่ง เอ็นฝ่าเท้าจะค่อยๆ ยืดหยุ่นขึ้น อาการเจ็บส้นเท้าจึงค่อยๆ ทุเลาลง
โรคนี้ไม่ได้เป็นโรคร้ายแรง หากเป็นแล้วจะส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน ซึ่งต้องใช้เวลาในการรักษาเป็นระยะเวลานาน หากปล่อยทิ้งไว้ไม่ได้รับการรักษาจนลุกลาม อาจทำให้เกิดการอักเสบของกล้ามเนื้อ ข้อต่อของสะโพกและบั้นเอวด้วยจากลักษณะการเดินที่ผิดไปจากอาการเจ็บส้นเท้า เพื่อป้องกันโรคดังกล่าว ควรเลือกใช้รองเท้าที่ถูกลักษณะ มีตัวรองส้นที่นุ่ม พื้นไม่บางหรือแข็งเกินไป พร้อมลดปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เช่น ลดน้ำหนัก ไม่ยืนหรือเดินมากเกินไป
หากมีอาการปวดส้นเท้าผิดปกติควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและการรักษาอย่างเหมาะสมต่อไป