มูลนิธิพระมหาไถ่ฯ – บริษัทเซ็นทรัล” ร่วมพัฒนาศักยภาพผู้พิการ

“ก.แรงงงาน” ชี้ 3 สาเหตุทำผู้พิการว่างงานกว่า 80,000 คน เร่งดันการบังคับใช้กฎหมายกับนายจ้าง ขณะที่ “สกส. – มูลนิธิพระมหาไถ่ฯ – บริษัทเซ็นทรัล” ร่วมพัฒนาศักยภาพผู้พิการ หวังสร้างอาชีพในธุรกิจใหม่แทนการขายสลากกินแบ่ง


มูลนิธิพระมหาไถ่ฯ - บริษัทเซ็นทรัล” ร่วมพัฒนาศักยภาพผู้พิการ


เมื่อวันที่ 18 ส.ค. ที่มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ นายสุเมธ มโหสถ รองอธิบดีกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือ “การขับเคลื่อนงานสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคมด้านคุณภาพชีวิตคนพิการ” ระหว่างมูลนิธิพระมหาไถ่ฯ บริษัทเซ็นทรัล รีเทล คอร์เปอร์เรชั่นจำกัด และสำนักงานสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคมแห่งชาติ (สกส.)


โดย นายสุเมธ กล่าวว่า ผู้พิการจำนวนมากสามารถประกอบอาชีพ เป็นกำลังสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศได้ แต่จากการสำรวจของกระทรวงแรงงาน พบว่าผู้พิการทั่วประเทศกว่า 90,000 คน มีเพียง 10,000 คนเท่านั้นที่พร้อมทำงาน เพราะติดปัญหาหลัก 3 เรื่อง ได้แก่ 1.การเดินทางไปทำงาน 2.ผู้ปกครองไม่ต้องการให้ผู้พิการทำงาน และ 3.ผู้ประกอบการบางส่วนมองผู้พิการเป็นภาระ ซึ่งกระทรวงแรงงานพยายามกระตุ้นการจ้างงานผู้พิการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้พิการมีศักดิ์ศรีในการดำรงชีวิต โดยเร่งขับเคลื่อนการมีงานทำของผู้พิการ ตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2550 ใน 3 มาตรา คือ มาตรา 33 ส่งเสริมให้นายจ้างจ้างคนพิการเข้าทำงาน ในสัดส่วนลูกจ้างทั่วไป 100 คน ต่อผู้พิการ 1 คน มาตรา 34 ติดตามการส่งเงินเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ หากไม่สามารถจ้างผู้พิการเข้าทำงานได้ และมาตรา 35 จัดพื้นที่ให้ผู้พิการได้ประกอบอาชีพ ฝึกอาชีพ หรือการช่วยเหลืออื่นๆ ที่สามารถสร้างรายได้ให้กับคนพิการได้


“ระหว่างวันที่ 13 – 19 ส.ค. กระทรวงแรงงาน ร่วมกับห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส จัดนัดพบแรงงานให้กับคนพิการโดยเฉพาะ 15 จุดทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งได้รับความสนใจพอสมควร และหลังจากนี้จะร่วมกับสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ในการจัดนัดพบแรงงานให้กับผู้พิการทั่วประเทศ รวมทั้งเร่งรัดการออกระเบียบในการปฏิบัติตามมาตรา 35 ซึ่งคาดว่า นายสมเกียรติ ฉายะศรีวงศ์  ปลัดกระทรวงแรงงานจะลงนามในระเบียบดังกล่าวในเร็วๆ นี้ ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้อัตราการมีงานทำ มีรายได้ของผู้พิการเพิ่มสูงขึ้น” นายสุเมธ กล่าว


ด้าน บาทหลวง ดร.พิชาญ ใจเสรี ประธานมูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ กล่าวว่า มูลนิธิพระมหาไถ่ฯ ร่วมกับ สำนักสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคมแห่งชาติ (สกส.) ดำเนิน “โครงการขับเคลื่อนงานสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคมด้านคุณภาพชีวิตคนพิการ” เพื่อเปิดรับผู้พิการทั่วประเทศ เข้ารับการการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้มีความพร้อมในการทำงาน อาทิ การฝึกให้ผู้พิการเป็นคอลเซ็นเตอร์, การทำธุรกิจร้านกาแฟ ในโครงการ Friend Café, การทำธนาคารขยะ, การอบรมด้านการโรงแรม, การทำเบเกอรี่, การจำหน่ายสินค้า และศูนย์ไอที เป็นต้น เพื่อส่งเสริมให้ผู้พิการมีงานทำ สามารถประกอบธุรกิจอื่นๆ นอกเหนือจากการขายสลากกินแบ่งรัฐบาล ถือเป็นโครงการนำร่องที่จะนำไปสร้างอาชีพให้ผู้พิการให้ครอบคลุมมากขึ้นต่อไปด้วย


นายมงคล เกษมสันต์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคมแห่งชาติ (สกส.) กล่าวถึงโครงการนี้ ว่าในฐานะหน่วยงานภาครัฐที่มีภารกิจในการสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคม หรือ Social Enterprise คาดว่าความร่วมมือกับมูลนิธิพระมหาไถ่ฯ ครั้งนี้จะก่อให้เกิดต้นแบบกิจการเพื่อสังคมด้านคุณภาพชีวิตคนพิการ เพื่อที่จะเป็นองค์กรหลักในการขับเคลื่อนร่วมกับภาคีเครือข่ายต่างๆ ของสังคม ผลักดันให้เกิดกิจการเพื่อสังคมของคนพิการมากขึ้น อันจะเป็นการช่วยพัฒนา และยกระดับคุณภาพชีวิตคนพิการให้มีโอกาส และความเท่าเทียมที่ดีขึ้นในสังคม


นายเรืองเวช วิทวัสการเวช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายบริหารทรัพยากรบุคคล บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์เปอร์ชั่น จำกัด กล่าวว่า ภายใต้โครงการนี้ บริษัทฯ สนับสนุนเรื่องการฝึกอาชีพ เช่น สร้างศูนย์ซ่อมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ การฝึกประดิษฐ์วัสดุเหลือใช้ ฯลฯ ซึ่งที่ผ่านมา บริษัทฯ เปิดโอกาสให้คนพิการเข้าทำงานได้ทุกตำแหน่ง อาทิ เจ้าหน้าที่ธุรการ พนักงานฝ่ายบุคคล เจ้าหน้าที่ Call Center ขึ้นอยู่กับความพร้อมของผู้พิการ แต่ยังไม่สามารถหาคนพิการเข้าทำงานได้ตามสัดส่วนตาม พ.ร.บ. ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการฯ ซึ่งบริษัทต้องจ้างผู้พิการประมาณ 300 คน แต่เชื่อว่าความร่วมมือครั้งนี้ จะส่งผลให้ผู้พิการมีความพร้อมที่จะเข้าปฏิบัติงานเพิ่มมากขึ้น


 


 


 


ที่มา : สำนักข่าว สสส.

Shares:
QR Code :
QR Code