มอบรางวัลดีเด่น นักรณรงค์เลิกเหล้า

ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า


ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ


มอบรางวัลนายอำเภอดีเด่น นักรณรงค์เลิกเหล้า thaihealth


ในสมัยก่อนทุกครั้งที่ได้ดูภาพยนตร์เกี่ยวกับ วีรกรรมของนายอำเภอ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์จากต่างประเทศ หรือ ภาพยนตร์ไทย บอกตรงๆ ว่า รู้สึกอยากเข้าไปเป็นคนที่อยู่ในอ้อมกอดของนายอำเภอพระเอกในภาพยนตร์เรื่องนั้นๆ เหลือเกิน เพราะนั่นคือวีรบุรุษขวัญใจของคนในชุมชน


จวบจนกระทั่งเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ โดยการสนับสนุนของ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สสส. ได้จัดพิธีมอบรางวัลเชิดชูเกียรติให้กับนายอำเภอดีเด่น เลยทำให้สะดุดใจถึงวีรกรรมของนายอำเภอขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง


การจัดพิธีมอบรางวัลเพื่อเชิดชูเกียรตินายอำเภอดีเด่นเกิดขึ้นมาเนื่องจาก มีผลสำรวจขององค์การอนามัยโลก พบว่า ประเทศไทยมีผู้ดื่มแอลกอฮอล์มากเป็นอันดับ 40 ของโลก และสุราเป็นต้นเหตุของการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจรถึง 90% สสส. ได้ เล็งเห็นโอกาสในช่วงเข้าพรรษา เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการรณรงค์งดเหล้า โดยในปีนี้ได้เน้นให้เห็นคุณค่าของการงดเหล้าที่จะช่วยฟื้นฟูตับ เพื่อสุขภาพที่ดีของประชาชน โดยพุ่งเป้าหมายไปที่ ความร่วมแรงร่วมใจของผู้นำมอบรางวัลนายอำเภอดีเด่น นักรณรงค์เลิกเหล้า thaihealthชุมชน คือ นายอำเภอ ค้นหา นายอำเภอดีเด่นที่เป็นต้นแบบให้สังคมลดละเลิกเหล้าในชุมชนของตนเอง


โดยกระทรวงมหาดไทย ร่วมกับ สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้จัดพิธีมอบโล่เชิดชูเกียรติให้แก่นายอำเภอ และผู้บริหารท้องถิ่นงดเหล้า ลดปัจจัยเสี่ยง ประจำปี 2558-2559 จำนวน 148 คน จากทั่วประเทศ ซึ่งเป็นผู้ที่มีผลงาน สนับสนุนการรณรงค์งดเหล้า ลดปัจจัยเสี่ยงอย่างโดดเด่น และดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง


นพ.คำนวณ อึ้งชูศักดิ์ กรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ กล่าวว่า สสส. มีพันธกิจสำคัญในการส่งเสริมให้คนไทยมีสุขภาวะที่ยั่งยืน ครอบคลุมทั้ง 4 มิติ คือ กาย จิตใจ ปัญญา และสังคม ซึ่งการรณรงค์งดเหล้าถือเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์สำคัญของการขับเคลื่อนสุขภาวะที่ยั่งยืนของไทย โดยจากการจัดโครงการรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษา ตั้งแต่ปี 2546-ปัจจุบัน พบว่า ปัจจุบันมีผู้ที่ตั้งใจงดดื่มเหล้าตลอด 3 เดือน ถึง 33% สะท้อนให้เห็นว่าโอกาสงานบุญ เทศกาลสำคัญต่างๆ จะเป็นจุดเริ่มต้นที่จะ ทำให้คนไทยกลับเข้ามาสู่ครรลองที่ถูกต้อง และจากการถอดบทเรียน การดำเนินงานที่ผ่านมา พบว่านโยบายต่างๆ ของกระทรวงมหาดไทย ที่มุ่งบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้ประชาชน เป็นนโยบายที่เกื้อกูลต่อระบบปฏิบัติงานต่างๆ และเข้าถึงชุมชนได้มากที่สุด ซึ่งสอดคล้องกับพันธกิจของ สสส. ในการส่งเสริมให้คนไทย มีสุขภาวะที่ยั่งยืน


เภสัชกรสงกรานต์ ภาคโชคดี กรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ และผู้อำนวยการสำนักงาน เครือข่ายองค์กรงดเหล้า กล่าวว่า เครือข่ายองค์กรงดเหล้าโดยการสนับสนุนของ สสส. ขอชื่นชมและแสดงความยินดีกับนายอำเภอและผู้บริหารท้องถิ่นทุกท่าน ที่ได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติในครั้งนี้ คนไทยเสียชีวิตจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ปีละ 26,000 คน ในทุก 20 นาที ขณะที่องค์การอนามัยโลกยังได้ระบุว่า แอลกอฮอล์ เป็นสาเหตุของ 200 โรค อีกทั้งงานวิจัยล่าสุดยังบอกอีกว่า แม้ดื่มแอลกอฮอล์เพียงเล็กน้อย เป็นการเพิ่มโอกาสการเป็นมะเร็ง 7 อวัยวะ ตั้งแต่ปากไปจนถึงมอบรางวัลนายอำเภอดีเด่น นักรณรงค์เลิกเหล้า thaihealthลำไส้ นอกจากนี้ แอลกอฮอล์ยังเป็นตัวทำลายเศรษฐกิจชาติปีละไม่ต่ำกว่า 350,000 ล้าน โดยสรุปแล้วแอลกอฮอล์ทำลายทุกมิติในสังคม


"งานในวันนี้มีวัตถุประสงค์ที่จะเชิดชูเกียรติท่านนายอำเภอ และผู้บริหารท้องถิ่นนักรณรงค์งดเหล้า ที่ให้การสนับสนุนลดปัจจัยเสี่ยงงดเหล้า ร่วมกับประชาคมงดเหล้าและองค์กรต่างๆ โดยใช้โอกาสช่วงวันเข้าพรรษา รณรงค์ในงานศพ งานบุญปลอดเหล้า และมีการบังคับใช้กฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ทำให้การเข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทำได้ยากขึ้น และยังเป็นการป้องกันไม่ให้เยาวชนเข้าไปสู่วงจรการเป็นนักดื่ม อีกด้วย" เภสัชกรสงกรานต์ กล่าวด้วยเสียงหนักแน่น


เช่นเดียวกับ นายอำเภอณรงค์ จันทร์ทอง จาก อ.จอมพระ จ.สุรินทร์ เล่าให้ฟังว่า ที่สามารถสร้างชุมชนปลอดเหล้าได้สำเร็จ เนื่องจาก ตนได้นำปัญหาการบาดเจ็บและเสียชีวิตที่มีต้นเหตุ จากการดื่มแอลกอฮอล์ของคนในชุมชนมาเป็นโจทย์ จากนั้น เริ่มต้นให้ผู้นำชุมชนไม่ยุ่งเกี่ยวกับสุราและนำความรู้เข้าสู่ชุมชน เพื่อหาแนวร่วมในการตระหนักถึงโทษของสุรา โดยเริ่มจากกฎ 3 ข้อ คือ 1.เยาวชนห้ามลอง ห้ามใกล้ 2.ต้องขายสุราเป็นเวลา 3.ลด ละ เลิก อบายมุขได้ มีรางวัล หลังจากนั้นมีการตรวจประเมินผลทุกเดือน นอกจากนี้ยังได้นำนักดื่มที่สามารถเลิกได้ มาเป็นผู้ให้ความรู้เรื่องโทษของสุรา และช่วยกันสอดส่องดูแลพัฒนาชุมชนให้ปลอดเหล้าอย่างถาวร


งานในครั้งนี้ ถือเป็นกำลังใจสำคัญให้กับนักปกครองและผู้นำชุมชนทุกท่าน ที่ทำหน้าที่เป็นฟันเฟืองร่วมมือกับ ภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาชน ในการรณรงค์ปลอดเหล้า และสร้างรูปธรรมให้เกิดค่านิยมใหม่ในสังคมไทย ให้ครอบคลุม ทั่วทั้งประเทศได้มากขึ้น

Shares:
QR Code :
QR Code

ใส่ความเห็น

ระบุข้อความ