มอบความรัก สร้างความสามัคคี ผ่านกิจกรรม ‘เปิดเทอมสร้างสุข’

ในช่วงเปิดเทอม ถือเป็นช่วงที่บรรดาพ่อแม่ผู้ปกครองหลายคนต่างก็กังวลในหลายๆเรื่องเกี่ยวกับลูก โดยเฉพาะพ่อแม่ที่ยังมีลูกที่อยู่ในวัยเรียนอยู่ด้วย ก็อาจจะมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของภาระค่าใช้จ่ายตามมา ทั้งค่าเทอม ค่าชุดนักเรียนที่ต้องซื้อใหม่ ค่ารถ ค่าเรียนพิเศษ ค่าใช้จ่ายอื่นๆมากมาย ทำให้หลายคนอาจเกิดภาวะเครียด รวมถึงตัวลูกๆเองก็อาจจะเครียดตามไปด้วย เด็กบางคนอาจต้องเปลี่ยนที่เรียน ก็กังวลบ้างว่า เพื่อนใหม่จะเป็นอย่างไร ที่เรียนใหม่จะเป็นอย่างไร จะเรียนในโรงเรียนที่ฝันไว้หรือไม่จะเรียนตามเพื่อนทันไหม และเรามักจะได้ยินเสียงเด็กๆบ่นอิดออดว่า เพิ่งจะหยุดพักได้ไม่ทันไรก็เปิดเทอมอีกแล้ว

สำหรับกิจกรรมในช่วงเปิดเทอมที่มักจะปฏิบัติเหมือนกันในทุกโรงเรียนคือ “การปฐมนิเทศ”เพื่ออบรมกฎระเบียบต่างๆให้แก่นักเรียน ตลอดจนการประชุมผู้ปกครอง ซึ่งเราจะเห็นว่าหลายๆครั้งกิจกรรมดังกล่าวต่างก็ถูกละเลยและไม่ค่อยได้รับความร่วมมือหรือไม่เต็มที่มากนัก ผู้ปกครองติดงานหรือติดภารกิจไม่สามารถมาประชุมได้ แค่นำกลับมาบอกหรือนำเอกสารกลับมาที่บ้านเพื่อจะได้ไม่ต้องเสียเวลา เพราะที่ผ่านๆมา การประชุมหรือปฐมนิเทศส่วนใหญ่ก็มักเป็นเรื่องค่าใช้จ่าย และกฎระเบียบต่างๆของโรงเรียนเท่านั้น

แต่หากลองมองในอีกแง่มุมหนึ่งบ้าง การจัดปฐมนิเทศในช่วงเปิดเทอมก็นับว่าเป็นก้าวแรกที่มีความสำคัญต่อการสร้างสัมพันธภาพที่ดีระหว่างคนในสังคมอีกทางหนึ่งด้วยเช่นเดียวกัน ทั้งครูกับศิษย์ รุ่นพี่ กับรุ่นน้อง เพื่อนกับเพื่อน ผู้ปกครองกับครู ถ้ามีกระบวนมีส่วนร่วมของทุกๆ คนที่นำไปสู่ความรู้สึกอบอุ่น เอื้อเฟื้อ เมตตาซึ่งกันและกันแล้ว ก็จะทำให้ลดภาวะความเสี่ยงต่างๆทั้งในรั้วโรงเรียนและนอกรั้วโรงเรียนได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเรื่องปัญหาที่เกี่ยวกับสิ่งเสพติด รวมไปถึงเหล้าและบุหรี่ซึ่งยังคงเป็นปัญหาหลักที่ทำให้อนาคตเด็กไทยต้องเสื่อมถอยลง 

เราจะเห็นว่าทุกวันนี้เด็กเยาวชนได้กลายเป็นนักดื่มหน้าใหม่มากขึ้น แต่อายุของผู้ดื่มกลับลดลงเรื่อยๆ จนกลายเป็นปัญหาสังคมที่ควรต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร็วที่สุด เพราะปัญหาเหล่านี้เป็นปัญหาที่ยังเกิดขึ้นกับคนในสังคมส่วนใหญ่ และมีความเสี่ยงเกิดขึ้นอยู่ทุกขณะ โดยสิ่งแวดล้อมและคนรอบข้างก็เป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่พาไปในทางที่ดีหรือตรงกันข้ามได้

และเนื่องจากสาเหตุปัญหาซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบกับเยาวชนที่ขยายวงกว้างขึ้นไปเรื่อยๆ ประกอบกับความต้องการที่จะส่งเสริมให้มีการจัดการปัญหาต่างๆที่อาจเกิดขึ้นในช่วงเวลาเปิดเทอม จึงทำให้เกิดโครงการ เปิดเทอมสร้างสุข” ขึ้นมาเพื่อส่งเสริมให้ทุกคนมามอบความรัก ความเมตตา และความสุขให้กันอย่างจริงใจ เพราะที่ผ่านมานั้น การมาโรงเรียนจะเหมือนการมาทำหน้าที่ของแต่ละคน แต่ลืมใส่ใจความรู้สึกและมอบความหวังของคนรอบข้างได้เช่นกัน ที่ผ่านมานั้นเน้นไปที่การทำงานระยะยาวและต่อเนื่อง หรือทำกิจกรรมตลอดภาคการศึกษา เพื่อให้ส่งเสริมให้เกิดความสุขได้อย่างต่อเนื่อง และเกิดคุณค่า

ครูประนอม ดอนแก้ว โรงเรียนเวียงมอกวิทยา จ.ลำปาง ในฐานะครูแกนนำจากโครงการเปิดเทอมสร้างสุข เล่าถึงความสำคัญของการเข้ามาทำโครงการนี้ว่า ช่วงเวลาของการเปิดเทอม คนจะมุ่งถึงในเรื่องของวัตถุสิ่งของเงินทอง ซึ่งหลายๆครั้งแล้วก็เกิดความทุกข์ ทั้งเรื่องค่าเทอม ค่าใช้จ่ายในช่วงเปิดเทอมมากมาย แล้วเกิดความเครียดตามมา แต่บางทีเราก็ลืมมองมิติของความสุขว่าเกิดขึ้นได้เหมือนกัน ที่ผ่านมานั้นได้ดำเนินการมาเป็นระยะเวลา 2 ปีแล้ว ซึ่งมี 6 โรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ โดยพยายามที่จะเน้นให้นักเรียนมีบทบาทสำคัญในการเชื่อมความสัมพันธ์และฝึกฝนให้เกิดภาวะของความเป็นผู้นำ สามารถจัดกิจกรรมคุณธรรมต่อเพื่อนๆในโรงเรียนได้ จึงได้สร้างนักเรียนแกนนำขึ้นมาเพื่อช่วยกันสร้างสรรค์กิจกรรมที่เกิดประโยชน์ และได้เชิญชวนให้โรงเรียนต่างๆที่สนใจ สมัครเข้าร่วมเพื่อช่วยกันเสริมสร้างความรักให้แก่กัน ผ่านการอบรมสร้างเสริมความรู้และเทคนิคในการรณรงค์ ทุกวันนี้นักเรียนแกนนำสามารถเป็นผู้ริเริ่มกิจกรรมต่างๆโดยอาศัยคุณธรรมจริยธรรมเข้ามาเป็นตัวกลางในการเชื่อมประสานระหว่าง ครู โรงเรียน นักเรียน รวมถึงผู้ปกครอง ให้เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยแก้ไขและหนุนเสริมในส่วนที่ขาด ภายใต้การสร้างความเข้าใจในพื้นฐานชีวิตความเป็นอยู่ของแต่ละคน เน้นการป้องกันความเสี่ยงเกี่ยวกับอบายมุขที่อาจเกิดขึ้นภายในโรงเรียน บ้าน และชุมชน ซึ่งเป็นหนทางแห่งความเสื่อมในการใช้ชีวิต จึงคิดว่าทำอย่างไรการมาโรงเรียนจะเกิดความสุขทั้งกาย ใจ สำหรับทุกๆคน โดยไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่าย แต่ได้กลับไปอย่างคุ้มค่าและน่าจดจำ

 

สำหรับปีนี้ถือเป็นการเข้าสู่ปีที่ 3 ของโครงการเปิดเทอมสร้างสุข ที่ได้ดำเนินการและยังมี 14 โรงเรียนที่นำร่อง ได้แก่ โรงเรียนเวียงมอกวิทยา โรงเรียนพร้าววิทยาคม โรงเรียนมาบอำมฤตวิทยา โรงเรียนปางอ้า โรงเรียนนารีรัตน์ โรงเรียนท่าชีวิทยาคม โรงเรียนบ้านแม่จ้อง โรงเรียนโนนสำราญ โรงเรียนบ้านท่าเลื่อนสามัคคี โรงเรียนบ้านโนนอุดมนภดลอุปถัมภ์ โรงเรียนป่าแดงวิทยา โรงเรียนศรีคีรีมาศวิทยา โรงเรียนบ้านห้วยไคร้และโรงเรียนปากคะยาง และพร้อมจะขยายผลไปยังโรงเรียนอื่นๆ มากขึ้น

ครูประนอมได้เล่าถึงผลการจัดโครงการต่อในปีนี้ว่า โครงการเปิดเทอมสร้างสุข” ถือเป็นการทำงานในเชิงคุณภาพ แม้ที่ผ่านมาจะมีจำนวนโรงเรียนที่เข้าร่วมยังไม่มากนักเท่าไหร่ และก็อาจจะมีหลายระดับ คือ ทำมานานแล้ว ทำมาบ้าง เพิ่งเริ่มทำ แต่ยังคงพยายามที่จะขยายผลการดำเนินงานไปยังโรงเรียนต่างๆ โดยเฉพาะโรงเรียนใกล้เคียงเพื่อเป็นแบบอย่างในการทำงานเพื่อช่วยจัดการปัญหาสังคม และลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับตัวของนักเรียน รวมถึงผู้ปกครอง และขณะนี้ได้มีโรงเรียนกว่า 200 โรงเรียนที่สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการเปิดเทอมสร้างสุข โดยมาจากการรับสมัครโดยตรง อาทิ การรับสมัครในงานงานศิลปหัตถกรรมนักเรียนระดับชาติที่เมืองทองธานี รวมถึงส่งจดหมายเชิญโรงเรียนที่เคยทำกิจกรรมที่ร่วมกับสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า ซึ่งมีการจัดกิจกรรมรณรงค์และให้ความรู้แก่นักเรียนตามโครงการโพธิสัตว์น้อย ชวนพ่อแม่เลิกเหล้าที่ผ่านมา ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการประสานงานและสร้างการรับรู้และทำความเข้าใจ เพื่อจะได้นำไปปฏิบัติให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากที่สุด”

กิจกรรมที่เกิดขึ้นนั้น แต่ละโรงเรียนจะจัดแตกต่างกันไปตามความเหมาะสม ขึ้นอยู่กับการออกแบบกิจกรรม แต่ยังเป็นกิจกรรมที่เน้นการมีส่วนร่วมของทุกๆคนได้มากที่สุด ได้ประโยชน์ร่วมกัน สามารถแบ่งเวลามาทำกิจกรรมได้ร่วมกัน ที่สำคัญคือ ไม่เน้นหรือจำเป็นต้องใช้เงินทองมาเป็นตัวหลักในการจัดกิจกรรม แต่หวังให้ทุกคนมาด้วยหัวใจและความหวังดีต่อกันก็เพียงพอ

การดำเนินโครงการเปิดเทอมสร้างสุขนั้น ได้เริ่มจัดกิจกรรมตั้งแต่ช่วงปฐมนิเทศ ในช่วงเปิดภาคเรียน โดยจะมีกิจกรรมเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน แต่ละกิจกรรมได้พยายามสอดแทรกหลักธรรมข้อคิดมาเตือนสติ อาทิ การน้อมนำหลักธรรมดำรงชีวิตของในหลวงมาปรับใช้ในการเรียนและชีวิตประจำวัน การทำกิจกรรมพระในบ้าน โดยการแสดงความเคารพและกตัญญูพ่อแม่ผู้ปกครองที่ดูแลเรามา เพราะพ่อแม่คาดหวังเมื่อลูกได้เข้าโรงเรียน อยากให้ได้ศึกษาหาความรู้และเป็นคนดี กิจกรรมมอบตัวเป็นศิษย์ มีการผูกข้อมือ การโอบกอดเพื่อมอบความรักที่ดีให้แก่กัน อันจะเป็นภูมิคุ้มกันที่ดีอีกทางหนึ่ง นอกจากนี้ยังเน้นความเป็นกัลยาณมิตร ช่วยกันดูแลสอดส่องไม่ให้เกิดพฤติกรรมอันไม่เหมาะสม โดยมีครูที่ปรึกษาคอยให้คำแนะนำและให้กำลังใจซึ่งเป็นสิ่งสำคัญของนักเรียน

ทางด้าน น.ส.วิลาวัลย์ เชี่ยมปัญญา นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนเวียงมอกวิทยา หนึ่งในแกนนำนักเรียนที่เข้าร่วมโครงการเปิดเทอมสร้างสุข บอกถึงการเข้ามาเป็นอาสาเพื่อเชื่อมความสุขให้แก่เพื่อนๆในโรงเรียนว่า “ความสุขหาเราหาได้ง่ายถ้าเรารู้จักสร้างขึ้นมา การที่เด็กเข้าไปในโรงเรียนแล้ว ได้รับความเมตตาจากครู เจอรุ่นพี่ที่เอื้อเฟื้อคอยตักเตือนไม่ให้หลงผิด การสร้างความรู้สึกที่ดีให้แก่เพื่อนๆ ถือเป็นการมอบความสุขเล็กๆที่เราสร้างขึ้นได้จากภายในตัวของเรา และเผื่อแผ่ไปยังคนรอบข้าง เพื่อทำให้สังคมรอบตัวเราน่าอยู่ได้มากขึ้น  เพราะบางทีเงินก็ไม่สามารถซื้อได้ทุกอย่าง โดยเป็นกิจกรรมที่สร้างความคุ้นเคย และสร้างความสัมพันธ์ให้กับน้องๆชั้น ม.1 และ ม.4 สร้างความสัมพันธ์ความสามัคคี ความรัก ความคุ้นเคยกับโรงเรียน คณะครู และยังสอดแทรกความรู้ และเป็นการเสริมเกราะป้องกัน ลด นักดื่มหน้าใหม่ได้”

ในภาวะปัจจุบัน ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับเยาวชนในการใช้ชีวิตส่วนใหญ่มาจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากขึ้น เยาวชนต้องตกอยู่ในภาวะที่เสี่ยงในเรื่องการดำเนินชีวิต อีกทั้งยังเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักที่ธุรกิจเหล้า เบียร์ บุหรี่ ต้องการให้เป็นลูกค้ารายใหม่ โดยใช้วิธีการสร้างภาพลักษณ์ให้เห็นเป็นความเท่ ความสนุก ความเป็นเพื่อน การเข้าสังคม โดยผ่านการโฆษณา ประชาสัมพันธ์อย่างกว้างขวาง ซึ่งพฤติกรรมการดื่มเหล้า – เบียร์ สูบบุหรี่ ของผู้ปกครองหรือคนในครอบครัว นับว่ามีผลเป็นอย่างมากต่อการเริ่มดื่มของเยาวชน อีกทั้งกลุ่มเพื่อนก็มีผลต่อการดื่ม สูบเช่นกันโดยเฉพาะกลุ่มหลังนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นและส่งผลต่อเนื่อง ให้เกิดพฤติกรรมการเลียนแบบได้ค่อนข้างมาก ดังนั้นการที่มีโครงการเปิดเทอมสร้างสุข นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่จะป้องกันความเสี่ยงไม่ให้เกิดขึ้น หรือเกิดขึ้นน้อยที่สุด หากมีโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการแบบนี้มากขึ้น ใส่ใจคุณภาพชีวิต ให้ความสำคัญทั้งความรู้ สติปัญญา และอาศัยพื้นฐานของความรักความเข้าใจให้แก่กัน ก็จะทำให้เด็กเยาวชนไทยในสังคม เติบโตไปอย่างมีคุณค่า มีคุณภาพและมีคุณธรรมต่อไป

 

 

ที่มา : สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.)

 

 

 

Shares:
QR Code :
QR Code