มหาสารคามเดินหน้า แก้ปัญหาเยาวชนท้องไม่พร้อม
มรภ.มหาสารคามจับมือ สสค. และเทศบาลเมืองมหาสารคามขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาเด็กเยาวชนตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ หลังพบเด็กและเยาวชนถึงกว่าร้อยละ 39.6 ที่ยอมรับการมีเพศสัมพันธ์และอยู่ก่อนแต่ง
ดร. สมบัติ ฤทธิเดช หัวหน้าศูนย์เบิ่งแญงลูกหลานชาวอีสาน คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคามกล่าวว่า ทาง มรภ.มหาสารคามได้ร่วมกับสถาบันรามจิตติ และเทศบาลเมืองมหาสารคาม, สำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.) ร่วมกันถกปัญหาโดยการวิเคราะห์เชิงประเด็น และงานขับเคลื่อนเพื่อนำเสนอข้อมูลสภาวการณ์เด็กและเยาวชนในพื้นที่ภาคอีสาน เพื่อนำเสนอการทำงานเชิงประเด็นและการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ด้านเด็กและเยาวชน รับฟังข้อเสนอแนะการนำเสนอประเด็นการวิจัยและใช้ประโยชน์จากข้อมูลการวิจัยและนำไปแก้ไขปัญหาเยาวชนในรอบรั้วการศึกษา
ดร.อมรวิชช์ นาครทรรพ สถาบันรามจิตติ สสค. กล่าวว่า จากการวิจัยโครงการพัฒนาเครือข่ายการจัดการเชิงพื้นที่เพื่อการวิเคราะห์สภาวการณ์และการขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กและเยาวชนในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง จากความแข็งแรงและการบริโภคความเครียดและสุขภาพจิต ครอบครัวเพศ อบายมุข คุณธรรมจริยธรรม และความรุนแรง ด้วยกลุ่มตัวอย่าง 2,800 คน ครอบคลุมทั้ง 5 ช่วงวัย คือ ประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น มัธยมศึกษาตอนปลาย อาชีวศึกษา และอุดมศึกษา พบว่า เด็กและเยาวชนร้อยละ 69.2 อาศัยอยู่กับพ่อแม่ อีกส่วนอาศัยอยู่กับพ่อเลี้ยงแม่เลี้ยง และเพื่อนๆ และพบว่าเยาวชนส่วนใหญ่มีผลการเรียนอยู่ในระหว่าง 2.51 – 3 รายได้ของเด็กต่อเดือน 2,003.88 บาท รายจ่ายเฉลี่ยของเด็กต่อเดือน 2,033.56 บาท
ด้าน นพ.กิตติศักดิ์ คณาสวัสดิ์ นายกเทศมนตรีเมืองมหาสารคาม เปิดเผยว่า จังหวัดมหาสารคามเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นสภาวะทางเศรษฐกิจและสังคม เนื่องจากมีสถานศึกษาอยู่หลายแห่ง จึงมีนิสิตนักศึกษาอาศัยอยู่จำนวนมาก ดังนั้นจึงเกรงว่าอาจจะเกิดปัญหาต่างๆ เช่น ปัญหาสภาวการณ์ด้านชีวิตทางเพศ เพราะจากการสำรวจพบว่า เด็กและเยาวชนถึงกว่าร้อยละ 39.6 ยอมรับการมีเพศสัมพันธ์และการอยู่ก่อนแต่ง
“ขณะเดียวกันพบว่าเด็กในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างมีความรู้เรื่องเพศศึกษาในระดับดีมาก โดยเด็กที่ระบุว่ามีความรู้เรื่องอุปกรณ์คุมกำเนิดถึงร้อยละ 56.6 พอใจกับการสอนเพศศึกษาในโรงเรียนร้อยละ 71.8 เห็นด้วยกับการที่วัยรุ่นปัจจุบันพกถุงยางอนามัยติดตัวร้อยละ 66.8 มีความรู้เรื่องกามโรคและโรคที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในระดับปานกลางถึงมากที่สุดร้อยละ 60.5 พูดคุยปรึกษาเรื่องเพศกับพ่อแม่และครู (ร้อยละ 52.2 และ 41.0) ยอมรับการมีเพื่อนสนิทที่เป็น ตุ๊ด เกย์ ทอม หรือ ดี้ ในระดับปานกลางถึงมากที่สุดร้อยละ 67.2” นายแพทย์กิตติศักดิ์กล่าว
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์