มหาดไทย!!! ดึงทุกฝ่ายเร่งแก้ปัญหาสังคม เสริมมติชุมชน สร้างค่านิยมใหม่ “เงินเหลือบาน บุญเบิกบานเพราะจัดงานปลอดเหล้า”
มหาดไทยสั่งการผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด!!! ดึงทุกฝ่ายเร่งแก้ปัญหาสังคมเสริมมติชุมชน สร้างค่านิยมใหม่ “เงินเหลือบาน บุญเบิกบานเพราะจัดงานปลอดเหล้า” ชู 29 จังหวัดต้นแบบรณรงค์งดเหล้าในงานบุญและงานศพ ลดค่าใช้จ่ายมหาศาล… ด้านศรีษะเกษ ปลื้ม ออกนโยบายปลอดเหล้าทั้งจังหวัด ประหยัดค่าเหล้า 105 ล้านบาทต่อปี!!!
ที่โรงแรมริชมอน จ.นนทบุรี สำนักแผนและนโยบาย กระทรวงมหาดไทย ร่วมกับสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า(สคล.) โดยการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) จัดพิธีเชิดชูเกียรติจังหวัดต้นแบบการรณรงค์งานศพและงานบุญปลอดเหล้าและเวทีแลกเปลี่ยนนวัตกรรมงานศพงานบุญปลอดเหล้าประจำปี พ.ศ. 2555 ในโอกาสครบรอบ 1 ปี ของการออกนโยบายความร่วมมือและให้การสนับสนุนรณรงค์งานศพปลอดเหล้าและงานบุญประเพณีปลอดเหล้าถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด เพื่อสนองพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงและถวายเป็นพระราชกุศลฯ พร้อมค้นหาพื้นที่รูปธรรมระดับต่างๆ ในแต่ละจังหวัดที่มีกระบวนการรณรงค์งานศพและงานบุญปลอดเหล้า เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ภายในงาน โดยมีนายพระนาย สุวรรณรัฐ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานและปาฐกถาในหัวข้อ “งานบุญปลอดเหล้าเพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุขปวงประชา”
นายพระนาย สุวรรณรัฐ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงผลการดำเนินงานภายหลังครบรอบ 1 ปี ของการประกาศนโยบายความร่วมมือให้การสนับสนุนรณรงค์งานศพปลอดเหล้าและงานบุญประเพณีปลอดเหล้าว่า จากการลงนามถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศปีที่ผ่านมา มีการขับเคลื่อนในระดับจังหวัด อำเภอ ตำบลและครัวเรือน แต่ละจังหวัดมีกลไกขับเคลื่อนการรณรงค์ต่างกันไป บางจังหวัดผู้ว่าฯ มีการออกเป็นนโยบาย อาทิ จังหวัดศรีสะเกษ สามารถรณรงค์ให้เจ้าภาพจัดงานศพและงานบุญปลอดเหล้าได้ครอบคลุมทั้งจังหวัด ประหยัดค่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในการจัดงานได้ถึงปีละ 105 ล้านบาท นอกจากนี้ได้นำประกาศสั่งการของผู้ว่าฯ ไปยังกำนัน ผู้ใหญ่บ้านให้สนับสนุนการจัดประชาคมหมู่บ้านเพื่อร่วมกันออกมติชุมชน เช่น อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร อำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก บางจังหวัดมีการขับเคลื่อนโดยสำนักพัฒนาชุมชน โดยบรรจุเข้าไปในงานสวัสดิการชุมชน และยังมีการขับเคลื่อนผ่านองค์การบริหารส่วนตำบลเพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของคนในชุมชนแก้ไขปัญหาและสร้างค่านิยมให้ชุมชนและครัวเรือนจัดงานศพและงานบุญปลอดเหล้า
“การสนับสนุนให้มีการรณรงค์งานศพปลอดเหล้าและงานบุญประเพณีปลอดเหล้า จะส่งผลให้ประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตชนบท ที่มีรายได้จากอาชีพเกษตรกรรม เฉลี่ยต่อปีแล้วน้อยมากเมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายประจำเดือน หากต้องเสียไปกับค่าอาหารและค่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อีกจะส่งผลให้เกิดหนี้สินตามมา ซึ่งผลจากการรณรงค์ในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา ระหว่างเดือน ก.พ. – ก.ค. 2555 มีหมู่บ้านที่สมัครเข้าร่วมโครงการและเกิดประชามติหมู่บ้านงดเหล้าในงานศพแล้ว 549 หมู่บ้าน คิดเป็นร้อยละ 25 ของหมู่บ้านทั้งหมด การส่งเสริมให้มีการทำประชามติของชุมชนจะได้ผลมากกว่าการบังคับใช้กฎหมาย เพราะทุกคนมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็น และหากผู้ว่าฯ สามารถขับเคลื่อนการรณรงค์ดังกล่าวได้ทั่วประเทศจะส่งผลกระทบไปสู่ระดับครัวเรือนซึ่งเป็นรากฐานที่สำคัญของการพัฒนาประเทศ โดยมีความเข้มแข็งทั้งร่างกายและจิตใจ พร้อมที่จะสร้างค่านิยมใหม่ไม่จัดเลี้ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในงานศพและงานบุญ ดังจะเห็นได้จากจังหวัดต้นแบบทั้ง 29 จังหวัดที่มาในงานวันนี้” ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าว
ด้านศาสตราจารย์ นายแพทย์ อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม ประธานเครือข่ายงดเหล้า และที่ปรึกษา สสส. กล่าวถึงการรณรงค์ของเครือข่ายงดเหล้าว่า ไม่ได้เน้นในเรื่องงดเหล้าเพื่อผลทางสุขภาพที่ดีขึ้นแต่เพียงอย่างเดียว แต่ยังเน้นด้านเศรษฐกิจ การเลี้ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยเฉพาะในระดับครัวเรือน ส่งผลให้เจ้าภาพเกิดความทุกข์และหนี้สินจากการจัดงาน การใช้ข้อความ “เงินเหลือบาน บุญเบิกบานเพราะจัดงานปลอดเหล้า” ในการรณรงค์เพื่อสะท้อนว่า หากทุกคนร่วมกันขับเคลื่อนรณรงค์งานศพและงานบุญปลอดเหล้าได้สำเร็จ จะส่งผลให้ครอบครัวและชุมชนซึ่งเป็นฐานรากที่สำคัญของประเทศเข้มแข็ง เกิดบุญที่ส่งผลให้ผู้ปฏิบัติเป็นสุข สังคมเกิดความสงบตามมา
“การจัดงานในวันนี้ ได้มีผลสรุปจากเวทีห้องย่อย และเวทีสาธารณะ นวัตกรรมการรณรงค์งานศพและงานบุญปลอดเหล้า ประจำปี พ.ศ. 2555 พบว่า กลไกสำคัญในการขับเคลื่อน ตามคำสั่งของกระทรวงมหาดไทย ส่งผลต่อความเปลี่ยนแปลงค่านิยมของเจ้าภาพในระดับครัวเรือนและชุมชน ในการจัดงานศพและงานบุญปลอดเหล้า โดยมีการดำเนินการในระดับจังหวัดและอำเภอ เพื่อส่งผลไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เกิดการปฏิบัติ การผลักดันให้ชุมชนมีมติจัดงานศพและงานบุญปลอดเหล้า จะช่วยให้เจ้าภาพไม่มีข้อกังวลใจที่จะจัดงานศพและงานบุญปลอดเหล้าอันเนื่องมาจากความกลัวว่าจะโดนตำหนิหากไม่เลี้ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในงาน ทั้งนี้จากข้อมูลพบว่า งานศพเป็นงานที่เจ้าภาพทุกข์ที่สุด เป็นงานที่ไม่ได้เตรียมตัว มีการจ่ายค่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เฉลี่ยงานละ 20,000 ถึง 50,000 บาท ขึ้นอยู่กับสถานะทางสังคมและฐานะของเจ้าภาพ ส่วนงานบวชและงานแต่งงานเป็นงานที่เจ้าภาพมีการเตรียมตัวจัดเลี้ยงและเชิญแขก จึงทำให้มีค่าใช้จ่ายสูง มีค่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์งานละ 50,000 ถึง 100,000 บาทต่องาน ดังนั้นการรณรงค์ดังกล่าวนอกจากทำให้เจ้าภาพเกิดกุศลในการจัดงานแล้ว ยังทำให้ประหยัดค่าใช้จ่าย และมีเงินเหลืออีกด้วย” ประธานเครือข่ายงดเหล้า กล่าว
ที่มา : สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า