มหาจุฬาฯ วิทยาเขตขอนแก่น สัมมนาสรุปแนวปฏิบัติศาสนกิจ
ที่มา : ข่าวสด
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
เมื่อเร็วๆ นี้ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น จ.ขอนแก่น จัดสัมมนานิสิตปฏิบัติศาสนกิจรุ่นที่ 63 ประจำภาคอีสาน เพื่อสรุปผลการปฏิบัติศาสนกิจออกปฏิบัติงาน 1 ปีในเพศบรรพชิต เพื่อสนองงานคณะสงฆ์ และช่วยพัฒนาชุมชนสังคม
พระมหาประยูร โชติวโร ผอ.กองกิจการนิสิต มหาจุฬาฯ กล่าวว่า ในปีการศึกษา 2560 มหาจุฬาฯ มีนิสิตออกปฏิบัติศาสนกิจทั่วประเทศจำนวน 2,000 กว่ารูปทั่วประเทศ ตามนโยบายของมหาวิทยาลัย หลังนิสิตสอบได้ตามหลักสูตรครบ 4 ปีแล้ว ในปีที่ 5 นิสิตต้องออกปฏิบัติศาสนกิจในเพศบรรพชิตเป็นเวลา 1 ปี (1 มิ.ย.60-30 มี.ค.61) เพื่อช่วยสนองงานในกิจการคณะสงฆ์ และช่วยพัฒนาชุมชนสังคม โดยในช่วงเดือนมีนาคมจะมีการจัดสัมมนาเพื่อสรุปผลการดำเนินงานทั่วประเทศเป็นรายภาค
สำหรับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีนิสิตปฏิบัติศาสนกิจ 635 รูป ตั้งแต่ปีการศึกษา 2559 รุ่นที่ 62 เป็นต้นมา มหาจุฬาฯ โดยคณะกรรมการปฏิบัติศาสนกิจ มีพระราชวรมุนี รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนิสิตเป็นประธานได้กำหนดให้นิสิตปฏิบัติศาสนกิจปฏิบัติงานในรูปแบบของโครงการการปฏิบัติศาสนกิจเพื่อสนองงานคณะสงฆ์ 6 ด้านคือ 1.งานปกครอง 2.งานเผยแผ่ 3.งานศาสนศึกษา 4.ศึกษาสงเคราะห์ 5.งานสาธารณูปการ 6.สาธารณสงเคราะห์ โดยที่โครงการจะต้องมีวัตถุประสงค์ วิธีการดำเนินการ การประเมินผลที่ชัดเจน เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น
พระโสภณพัฒนบัณฑิต รองอธิการบดีวิทยาเขตขอนแก่น และรองเจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น ประธานเปิดงานและบรรยายพิเศษ หัวข้อเรื่องการปฏิบัติศาสนกิจกับการปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนา กล่าวว่า "…เมื่อกล่าวถึงการปฏิบัติศาสนกิจ เหมือนกล่าวถึงการปฏิบัติธรรม ที่พูดถึงคราใดก็สุขใจและชื่นใจครานั้น วันนี้ยืนยันได้ว่าแนวทางการจัดการศึกษาของ มจร. โดยบูรพาจารย์นำพาทำมาก่อน วันนี้เป็นจุดเด่นและเป็นอัตลักษณ์เฉพาะที่หลายแห่งได้นำไปเป็นแนวทางในการจัดการศึกษาเพื่อผลิตบัณฑิต หลายท่านไปทำงานสนองงานคณะสงฆ์ได้อย่างน่าประทับใจ มีต้นแบบหลายโครงการ นิสิต มจร.ออกไปบริหารศรัทธา บริหารปัญญาได้ นี่คือต้นแบบศาสนบุคคล ศาสนทายาท คำถามที่อยากฝากทุกท่านว่า งานที่ท่านทำทั้ง 6 ด้านจะส่งไม้ต่อให้รุ่นน้องให้มีความยั่งยืนได้อย่างไร"
"ส่วนงานตามแผนปฏิรูป กล่าวเฉพาะโครงการที่เป็นตัวอย่างในแผนปฏิรูปฯ คณะสงฆ์มี 13 โครงการใหญ่ ในส่วนของทุกท่านอาจเชื่อมโยงทำกิจกรรมเป็นโครงการย่อยๆ เช่น วัดสร้างสุข, วัดบันดาลใจ, หมู่บ้านศีล 5, วัดปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานต้นแบบ, หนึ่งวัดหนึ่งมหาเปรียญ, 1 หมู่บ้าน 1 ศาสนทายาท, ยกระดับคุณภาพโรงเรียนพระปริยัติธรรม, ให้ทุน ให้ธรรม, สำนักปฏิบัติธรรมต้นแบบ, พระวิปัสสนาจารย์ต้นแบบ วัดพัฒนาต้นแบบ, เยี่ยมผู้ป่วยติดเตียง ..งานต่างๆ นี้มีส่วนงานต่างๆ มาช่วย เช่น สสส. สปสช. ให้ดำเนินงานตามแบบแผน…วันนี้บัณฑิต มหาจุฬาฯ ต้องเก่งคิด เก่งงาน เก่งประสาน เก่งคน จาริกไปที่ไหนทำประโยชน์ เป็นผู้นำจิตวิญญาณ เป็นต้นแบบทางจิตใจและปัญญา ทุกท่านต้องบริหารเวลา ตรงเวลาและรับผิดชอบ อยากเป็นอะไรไม่สำคัญ แต่เป็นแล้ว จะทำอะไร นำไปสู่การพัฒนาต่อยอดต่อไป"
บทสรุปของผลการสัมมนานิสิตปฏิบัติศาสนกิจรุ่นที่ 63 พบว่า บัณฑิตมหาจุฬาฯ ภาคอีสาน มีศรัทธาอุทิศเพื่อพระพุทธศาสนา พร้อมทำงานต่อยอดบูรณาการตามแผนปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนาอย่างยั่งยืน และบัณฑิต มหาจุฬาฯ มีจิตวิญญาณเพื่อพระพุทธศาสนาและสังคม
นิสิตปฏิบัติศาสนกิจ มหาจุฬาฯ ก้าวใหม่บนฐานกิจกรรมภายใต้โครงการที่เป็นความพยายามสี่ปี ตั้งแต่ 2557 เป็นต้นมา ตามแนวทางที่ผู้บริหารมหาวิทยาลัย ให้ไว้ ภายใต้การกำกับดูแลของพระราชวรมุนี รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนิสิต ทีมงานกิจการนิสิต เห็นผลเป็นรูปธรรมแล้วก้าวต่อไปก็มีความสำคัญไม่น้อย ภายใต้ทุกฝ่ายร่วมด้วยช่วยกัน