“ภูมิคุ้มใจ” สร้างได้ เเม้กายห่างกัน

เรื่องโดย  ปัญจวรา บุญสร้างสม Team content www.thaihealth.or.th


ข้อมูลบางส่วนจาก เพจ We Oneness


ภาพโดย  ชยวี ลิ้มถาวรรักษ์  Team Content www.thaihealth.or.th   เพจ We Oneness  และแฟ้มภาพ



 “ในวันที่เราต้อง ”กาย” ห่าง ในวันที่เธอนั้นอ้างว้าง อยากให้รู้ว่ารักไม่เคยห่าง ใจฉันอยู่ข้างๆ เธอ” ช่วงเวลาแบบ นี้ ที่ทุกคนต้องรักษาระยะห่างทางสังคม หรือ Social Distancing ลดโอกาสการแพร่เชื้อ เพื่อความปลอดภัยนั้น เชื่อว่าหลายคนคงมีอาการ ซึมเศร้า เหงาหงอยกันบ้าง แต่มองอีกมุมการเว้นระยะห่างเช่นนี้จะทำให้เราได้มีเวลากลับมาอยู่กับตัวเอง ทบทวนเรื่องราว หลายๆอย่างที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ทำความเข้าใจว่าจริงๆแล้วสิ่งใดที่มีความสำคัญและมีความหมายกับเราอย่างแท้จริง  


ถึงแม้ว่าร่างกายจะต้องห่างไกลกัน แต่เชื่อว่าความรัก ความผูกพันนั้น ยังคงมีให้กันเสมอ ช่วงเวลาแบบนี้จะทำให้เราคิดถึงกันมากขึ้น และทำให้การพบกันในครั้งต่อไปนั้นมีความหมายมากกว่าที่เคยเป็นมา


ท่ามกลางสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 นอกจากจะต้องดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงแล้ว สุขภาพจิตใจก็เป็นสิ่งที่ละเลยไม่ได้เช่นกัน พวกเราชาวสสส. จึงอยากชวนทุกท่านมาสำรวจตัวเองกันว่า "วันนี้ เราอยู่ “โซนไหน” ในสถานการณ์โควิด-19"



1. Fear Zone – โซนความกลัว


– ค้นหาและแชร์ทุกอย่างในโลกโซเชียลที่เกี่ยวกับโควิด-19


– ถูกรบกวนจิตใจได้ง่ายมาก


– รีบซื้อของด้วยความตื่นตระหนก


– รู้สึกตกเป็นเหยื่อ มองหาคนที่จะกล่าวโทษได้


– กักตุนกระดาษชำระ อาหารและยาโดยไม่จำเป็น


2. Learning Zone – โซนเรียนรู้


– เริ่มปล่อยวางต่อสิ่งที่เหนือการควบคุม


– หยุดเสพข่าวที่ส่งผลร้าย ใส่ใจในการทานอาหาร


– เริ่มออกแบบแผนชีวิต ใช้เวลาให้เกิดประโยชน์


– ยอมรับว่าทุกคนกำลังทำดีที่สุดแล้วในสถานการณ์ที่ซับซ้อนอย่างที่สุดนี้


– มองและแสวงหาโอกาสใหม่ๆ


3. Growth Zone – โซนเติบโต


– คิดถึงผู้อื่น พร้อมทั้งนึกต่อว่าจะสามารถช่วยอย่างไรได้บ้าง


– อยู่กับปัจจุบัน และเห็นภาพชัดเจนถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป


– ไม่ได้แค่อยู่เฉย ปล่อยให้ชีวิตไหลผ่านในความจำกัด 


– ถามและตอบตัวเองได้ว่า ต้องการให้ชีวิตเป็นอย่างไรในช่วงเวลานี้ 


– มองเห็นคุณค่าและสำนึกขอบคุณ


สสส. ได้ร่วมมือกับ 6 ภาคีเครือข่ายสุขภาวะทางปัญญา ประกอบด้วย ธนาคารจิตอาสา ศูนย์จิตตปัญญาศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล มูลนิธิเครือข่ายพุทธิกา โครงการผู้นำแห่งอนาคต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กลุ่ม WeOneness และเครือข่าย Creative Citizen จัดทำชุดความรู้ “เมนูสร้างภูมิคุ้มใจ 14 วันฉันทำได้” เพื่อเป็นแนวทางในการใช้เวลาอยู่บ้าน  อย่างสร้างสรรค์ สร้างความผ่อนคลาย ฝึกสติ เรียนรู้ด้านสุขภาวะทางปัญญา เป็นส่วนหนึ่งในการรณรงค์ชวนคนอยู่บ้าน เพื่อช่วยชาติลดการระบาดของโรค


  


ดร.จิรัฐกาล พงศ์ภคเธียร รองผู้อำนวยการศูนย์จิตตปัญญาศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ในช่วงเวลาที่ทุกคนมีเวลาหยุดอยู่บ้านเป็นเวลานาน ๆ นั้น เป็นโอกาสที่ดี ที่จะได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเองและครอบครัว และหันกลับมาดูแลตัวเอง กิจกรรม “เมนูสร้างภูมิคุ้มกันใจ 14 วันฉันทำได้” เป็นแนวทางปฏิบัติง่าย ๆ โดยมีเกณฑ์หลัก 4 ข้อ คือ   


1.กิจวัตรประจำวันที่สร้างความรู้เนื้อรู้ตัวหรือมีสติ (Readjust) เช่น อาบน้ำ รับประทานอาหาร ล้างมือ ล้างจาน 


2.การหันกลับมาสะท้อนความรู้สึกนึกคิดของตัวเองและใคร่ครวญชีวิตที่ผ่านมา (Reflect)


3.การดูแลความสัมพันธ์ของเรากับคนรอบข้าง (Relate)  


4.การทำกิจกรรมที่ได้เรียนรู้และพัฒนาตัวเอง (Retreat) เช่น งานศิลปะ กีฬา การเจริญภาวนา   


ซึ่งกิจกรรมในแต่ละเมนูจะช่วยให้เกิดความผ่อนคลายจิตใจ เป็นเครื่องมือในการช่วยเยียวยา พัฒนาคุณภาพ  จิตใจให้เกิดสติ เกิดความหวังพลังใจ เข้าถึงภาวะความสงบ ความสุขในภาวะตึงเครียดของสถานการณ์ได้ ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจรายละเอียดของกิจกรรม สามารถติดตามได้ทางเว็บไซต์ www.happinessisthailand.com และเฟซบุ๊กแฟนเพจ ความสุขประเทศไทย  



ในช่วงเวลายากลำบากเช่นนี้ เชื่อว่าทุกคนต่างได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้าไม่มากก็น้อย สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้ คือการสร้างบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมเชิงบวกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทัศนคติ และมุมมองที่เรามีต่อปัญหาจะเป็น  เครื่องมือในการพาเราก้าวข้ามผ่านปัญหาไปได้ เราจึงจำเป็นต้องสร้างภูมิคุ้มใจที่ดีให้กับตัวเอง และเป็นภูมิคุ้มใจที่ดีให้กับผู้อื่น


สสส.จะทำหน้าที่ในการสื่อสาร สร้างองค์ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องแก่สังคม และจะคอยสนับสนุนการทำงานของกระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานต่างๆ  ที่เป็นด่านหน้าในการต่อสู้และยับยั้งเชื้อไวรัสโควิด-19 ร่วมกับคนไทยทุกคน เราจะผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปให้ได้ และจะรอคอยวันที่รอยยิ้มจะกลับมาเปื้อนบนใบหน้า และร่างกายของพวกเราจะได้กลับมาใกล้ชิดกันอีกครั้ง  ขอให้ทุกคนสัญญาว่าจะอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ และเพื่อเราทุกคน  


 

Shares:
QR Code :
QR Code