‘ฟ้าห่วน’ หมู่บ้านต้นแบบเศรษฐกิจพอเพียง
ที่มา: หนังสือพิมพ์บ้านเมือง
อัพเดทเนื้อหาโดย: อารยา สิงห์สวัสดิ์
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
บ้านฟ้าห่วน ตำบลไร่ขี อำเภอลืออำนาจ จังหวัดอำนาจเจริญ เป็นชุมชนเกษตรที่ประกอบอาชีพหลัก คือ การทำนาตามฤดูกาล เลี้ยงสัตว์ และทำประมง แต่จากการเปลี่ยนแปลงของสภาพเศรษฐกิจและสังคมได้ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ของชาวบ้าน โดยพบว่าประชากรส่วนใหญ่มีรายได้ลดลงและมีภาระหนี้สินจำนวนมาก หลายคนต้องทิ้งถิ่นฐานไปทำงานต่างจังหวัด ครอบครัวขาดความอบอุ่น สิ่งแวดล้อมถูกทำลายจากการใช้สารเคมีในภาคการเกษตร ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาสังคมด้านต่างๆตามมาอย่างมากมาย
จากการวิเคราะห์สาเหตุพบว่าชุมชนบ้านฟ้าห่วนมี 5 ปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไขประกอบไปด้วย 1) สมาชิกภายในหมู่บ้านขาดความเสียสละ เห็นแก่ตัว ต่างคนต่างอยู่ 2) สมาชิกในหมู่บ้านไม่สามารถพึ่งตนเองได้ 3) ครอบครัวแตกแยกสมาชิกในครอบครัวขาดความอบอุ่น 4) คนในชุมชนร่างกายไม่แข็งแรงเจ็บป่วยบ่อย และ 5) สมาชิกในชุมชนมีความเสี่ยงต่อยาเสพติดและอบายมุข ซึ่งปัญหาต่างๆ เหล่านี้ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต และนำไปสู่การไม่มี "สุขภาวะ" ในชุมชน
ชมรมสร้างสุขภาพบ้านฟ้าห่วน จึงได้ร่วมกับสถานีอนามัยบ้านฟ้าห่วน จัดทำโครงการ "หมู่บ้านสร้างเสริมสุขภาพตามแนวพระราชดำรัสเศรษฐกิจพอเพียงบ้านฟ้าห่วน จังหวัดอำนาจเจริญ" ขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาด้านต่างๆ ที่เกิดขึ้นโดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างสังคมที่มีความสุขบนพื้นฐานการดำเนินชีวิตภายใต้แนวคิด "หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง" โดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
นางยุพิน พุฒผา หัวหน้าสถานีอนามัยฟ้าห่วนและที่ปรึกษาโครงการฯ เปิดเผยว่า เป้าหมายสูงสุดของโครงการฯ ก็คือการพัฒนาให้หมู่บ้านฟ้าห่วนเป็นหมู่บ้านสุขภาวะที่มีความอยู่เย็นเป็นสุขบนพื้นฐานความพอเพียง พออยู่ พอกินตามศักยภาพของตนเองและชุมชนลดการพึ่งพาปัจจัยจากภายนอกให้ได้มากที่สุด โดยมีจุดเด่นคือกิจกรรมที่กระจายลงไปสู่ทุกกลุ่มเป้าหมายถึง 13 กิจกรรมเพื่อให้เกิดประโยชน์ครอบคลุมและแก้ปัญหาทั้ง 5 ด้านที่เกิดขึ้นกับชุมชนให้มากที่สุด อาทิ การสร้างกระบวนการเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงในโรงเรียน, การปลูกพืชผักปลอดสารเคมี, การจัดตั้งกลุ่มเพาะเห็ด, ชมรมแพทย์แผนไทย, ประชาคมหมู่บ้านต้านยาเสพติด
ซึ่งกิจกรรมที่ดำเนินงานจะครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายในหมู่บ้านทั้งกลุ่มอาชีพและกลุ่มอายุ จากนั้นจะนำสู่การพัฒนาแกนนำของแต่ละกลุ่มกิจกรรมให้เป็นครูภูมิปัญญาเพื่อถ่ายทอดความรู้สู่คนรุ่นหลังเพื่อสร้างความยั่งยืนของกิจกรรมต่างๆ ให้เกิดขึ้นในหมู่บ้านฟ้าห่วนต่อไป
นางประยูร กาญจนาวนารี ประธานศูนย์ฝึกอบรมเครือข่ายกสิกรรมธรรมชาติบ้านฟ้าห่วน เล่าว่า ที่ผ่านมาชาวนาเป็นหนี้สินจากการทำการเกษตรเพราะต้องพึ่งพาปุ๋ย ยา และสารเคมีจำนวนมาก โดยมีค่าใช้จ่ายในการทำนาต่อไร่ไม่น้อยกว่า 3,700-4,000 บาท
"ต้นทุนขนาดนี้ไม่มีทางอยู่ได้ถ้าไม่หันมาพึ่งพาตนเองและหาทางลดค่าใช้จ่ายโดยไม่ใช้ปุ๋ยเคมี ถ้าเราทำเอง ดูแลเอง ใช้ปุ๋ยที่หมักเอง จะมีต้นทุนต่อไร่ไม่เกิน 900 บาท ตอนนี้ก็เริ่มรณรงค์ให้กลับมาใช้วีถีการทำนาแบบดั้งเดิม มีการช่วยกันลงแขกเกี่ยวข้าวเพื่อลดค่าใช้จ่าย" คุณป้าประยูร กล่าว
นางงามจิตต์ จันทรสาธิต ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนโครงการเปิดรับทั่วไป สสส. ระบุว่าหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เป็นการคิดอย่างมีเหตุผลมีความพอประมาณ และใช้สติปัญญาในการดำรงชีวิตเป็นสิ่งที่สามารถนำมาปรับใช้กับวิถีชีวิตประจำวันได้โดยเฉพาะเรื่องของสุขภาพและการประกอบอาชีพเกษตรกรรมที่สามารถอธิบายในเรื่องของความพอเพียงได้เป็นอย่างดี
"เกษตรที่ใช้ปุ๋ยหมักในการทำเกษตรอินทรีย์จะช่วยทั้งเรื่องของสุขภาพของชาวบ้านให้ห่างไกลจากสารเคมี ผลผลิตก็ปลอดสารพิษ คนก็ปลอดภัย หรือในเรื่องของความพอเพียงความประหยัดก็จะมีการทำบัญชีครัวเรือนเพื่อที่จะลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไปซึ่งแนวคิดของหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงยังตอบโจทย์ในเรื่องของการสร้างสุขภาวะให้กับชุมชน โดยถ้าเราสามารถดำรงชีวิตบนพื้นฐานของความพอเพียงก็จะทำให้สังคม ชุมชน หรือหมู่บ้านนั้นๆ สามารถดำรงตนได้อย่างมีความสุขและมีสุขภาวะมากขึ้น"