พ่อจ๋า แม่จ๋า เลิกเหล้าเถอะนะ
พ่อจ๋า…….เลิกดื่มเหล้าเถอะนะ!!!! เสียงเรียกร้องจากเด็กน้อยตาดำๆ ที่เฝ้าอ้อนวอนให้ผู้เป็นพ่อเลิกลุ่มหลงในรสของน้ำเมา แต่จะมีสักกี่คนที่ได้ยินเสียงนั้น…
ทั้งๆ ที่รู้กันอยู่แล้วว่า “เหล้า” เป็นต้นตอของปัญหาต่างๆ มากมาย แถมยังเป็นตัวการของโรคร้ายกว่า 60 โรค ซ้ำยังทำให้เกิดอุบัติเหตุถึงขั้นเสียชีวิตมากถึงปีละกว่า 1 หมื่นราย แต่ยังไง๊ ยังไง!!! ก็ยังเห็นเหล้าเป็นเพื่อนขาประจำที่มาร่วมวงในงานรื่นเริงทุกครั้งไป
เหล้ามิได้สร้างปัญหาแต่เพียงเท่านี้ มันยังเป็นต้นเหตุของความแตกร้าวในครอบครัว ตลอดจนการทำร้ายร่างกาย แม้กระทั่ง คนที่เราพูดเสมอว่า รัก อย่างพ่อ แม่ หรือเด็กตัวเล็กๆ ที่เราเรียกเค้าว่า “ลูก” และคนอื่นๆ อีกในครอบครัว ด้วยเหตุนี้ สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า ภายใต้การสนับสนุนของ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สสส. ได้จัดแถลงข่าวการเตรียมความพร้อมในโครงการวันเข้าพรรษา…วันงดดื่มสุราแห่งชาติ ขึ้นที่ลานกิจกรรมสร้างสุข สสส.
ในปีนี้ได้มีการกำหนดแนวคิดในการรณรงค์ว่า “พรรษานี้..ลูกชวนพ่อ แม่เลิกเหล้า” เพราะจากผลการเก็บข้อมูลของศูนย์ปรึกษาปัญหาเลิกเหล้า พบว่า นอกจากภรรยา ญาติพี่น้อง หรือแม้กระทั้งเพื่อนแล้ว พบว่า ผู้ที่โทรเข้าไปปรึกษาขอความช่วยเหลือนั้น ยังพบว่าเป็น “ลูก” ถึงร้อยละ 16 ของคนที่โทรเข้าไป
ซึ่งการขอคำปรึกษาส่วนใหญ่เป็นเรื่องพ่อดื่มเหล้า ถึงร้อยละ 80 รองลงมาเป็นปัญหาแม่ดื่มเหล้า ร้อยละ 15 และร้อยละ 5 ทั้งพ่อและแม่ดื่มเหล้า เหตุผลที่เด็กเหล่านั้น มีความคิดและกล้าที่จะโทรไปปรึกษาหรือขอความช่วยเหลือ เพราะ “ความรัก” ที่มีต่อผู้เป็นพ่อ แม่ เพราะเป็นห่วงเรื่องสุขภาพ กลัวพ่อ แม่จะมีอายุสั้น ถึงร้อยละ 70 นอกจากนี้ ยังรู้สึกเครียดที่คนในครอบครัวทะเลาะวิวาท ทำลายข้าวของ ทำร้ายร่างกาย ถึงร้อยละ 20 และรู้สึกเบื่อหน่ายกับพฤติกรรมของพ่อแม่ที่ยังดื่มเหล้าอยู่ ทั้งๆ ที่เคยสัญญาว่าจะเลิกแต่ก็ทำไม่ได้อยู่ ร้อยละ 10
เภสัชกร สงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า สคล. กล่าวว่า เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า น้ำเมาหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด นอกจากจะเป็นต้นเหตุของโรคต่างๆ แล้ว ยิ่งถ้าคนไทยงดเหล้าในช่วงเข้าพรรษากันได้หมด จะประหยัดเงินได้มากกว่า 3 หมื่นล้านบาท และลดผลกระทบทุกด้านอีกกว่า 2 หมื่นล้านบาท
“สำหรับในปีนี้ถือเป็นการครบรอบ 1 ปี ที่รัฐบาลประกาศให้วันเข้าพรรษาของทุกปี เป็นวันงดดื่มสุราแห่งชาติ ที่สำคัญ ประเทศไทยยังเป็นประเทศแรกที่เริ่มประกาศใช้ จึงเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่ง ส่วนการรณรงค์ในปีนี้ทางสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า สคล. จะเน้นรณรงค์เรื่องการสร้างเสริมคุณค่าของเด็ก โดยการเชิญชวนให้โรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศ จัดกิจกรรมให้เด็กมีส่วนร่วมด้วยการเชิญชวนพ่อแม่งดเหล้าเข้าพรรษานี้ ด้วยการเขียนประกวดเรียงความว่า “ลูกอยากให้พ่อแม่เลิกดื่ม เพราะอะไร” แล้วนำไปอ่านให้พ่อแม่ฟัง กิจกรรมภาพวาดระบายสี อีกทั้ง ยังมีมหกรรมน้ำดื่มทางเลือก ซึ่งเป็นการประกวดเครื่องดื่มที่ไม่ผสมแอลกอฮอล์ โดยกลุ่มเยาวชนระดับมหาวิทยาลัยอีกด้วย” ผอ.สคล กล่าว
ด้าน นายแพทย์ วศิน บำรุงชีพ จิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ด้านบำบัดสุรา และยาเสพติด ประจำโรงพยาบาลมนารมย์ กล่าวว่า ผู้ที่เข้ามาบำบัดและขอคำปรึกษาถึงวิธีการเลิกดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้น มีหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะมาคนเดียว พ่อแม่พามา ญาติพี่น้องพาแม่ หรืออาจจะโดนบังคับมา เป็นต้น แต่ทั้งหมดนั้นต้องขึ้นอยู่กับ “จิตใจ” เป็นหลัก จากนั้นค่อยเข้าสู่กระบวนการบำบัดต่อไป แต่ที่จะขาดไปไม่ได้เลยนั่นคือ คนในครอบครัวหรือคนใกล้ชิดต้องคอยให้กำลังใจและเข้าใจเขา
“จากสถิติผู้ที่เข้ามาปรึกษาที่โรงพยาบาลส่วนใหญ่ จะนึกถึงลูกและครอบครัวมากที่สุด โดยเกิดจากแรงจูงใจเป็นสำคัญ เมื่อแรงจูงใจบวกกับความตั้งใจอย่างแท้จริง ก็จะทำให้สามารถเลิกเหล้าได้ ซึ่งคุณต้องรู้ว่าเวลาที่จะเลิกแล้วจะเกิดอะไรบ้างกับตนเอง ส่วนวิธีการแก้ปัญหาในการเลิกเหล้านั้น อาจเสริมแรงด้วยกิจกรรมต่างๆ เช่น การออกกำลังกาย ถ้าเข้าใจถึงวิธีการ เหตุผล รู้จักวิธีการจัดการกับความเครียด ผลที่เกิดขึ้นภายหลังการบำบัดก็จะดีมาก หากตั้งใจจริง การเลิกเหล้าคงไม่ใช่เรื่องยาก” นายแพทย์ วศิน
ใช่ค่ะ!!! เพราะมันไม่ใช่เรื่องยาก หากเราตั้งใจจะเลิกจริงๆ อย่างหนูครอบครัวของหนูน้อยคนนี้
ด.ญ.สุดธิดา ช้างเผือก อายุ 13 ปี เป็นนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนปัญญาวรกุล ได้เล่าให้ฟังว่า ตั้งแต่หนูจำความได้ก็เห็นพ่อดื่มเหล้าตลอด แต่ก็ไม่กล้าถามซักทีว่าดื่มทำไม เพราะเวลาพ่อเมาน่ากลัวมาก จนถึงวันที่พ่อกับแม่เลิกกัน และแม่ก็หันมาดื่มเองอีก ทั้งๆ ที่ก็รู้ว่าเหล้าไม่ดี แต่หนูก็ยังไม่กล้าถามแม่อยู่ดี ว่าดื่มเพื่ออะไร จนวันหนึ่งหนูเข้าร่วมกิจกรรมในโครงการ เยาวชนคนพอเพียง รู้เท่าทันน้ำเมา หนูเริ่มรู้เรื่องราวของเหล้ามากขึ้น และไม่อยากให้แม่ดื่ม จึงตัดสินใจเข้าไปขอให้แม่เลิกเหล้า ตอนนั้นแม่ก็ยังไม่รับปากอะไร จนเพื่อนๆ แม่หัวเราะเยาะและบอกว่า “แม่แกเลิกเหล้าไม่ได้หรอก” ทำให้หนูร้องไห้เสียใจ และในวันนั้นแม่ก็รับปากว่าจะเลิกเหล้าเพื่อลูกตลอดไป
จนถึงวันนี้ครอบครัวเราอบอุ่นขึ้น และหนูภูมิในมากที่แม่ยอมเลิกเหล้า และอยากจะบอกคนอื่นๆ ว่าแม่หนูเลิกเหล้าได้แล้วค่ะ………
ด้านนางยุพาพร พวงบางยาง อายุ 42 ปี มีอาชีพร้อยพวงมาลัย ผู้เป็นแม่เล่าให้ฟังว่า จุดเริ่มต้นของการรู้จักเหล้า เนื่องจากสามีชอบดื่มกับเพื่อนๆ ทุกวัน หากเมากลับมาเมื่อใด จะมีพฤติกรรม อาละวาท ทะเลาะ ทำลายข้าวของอยู่เสมอ ลูก 2 คนก็โดนลูกหลงไปด้วย จนไม่ไหวแล้วจริงๆ จนต้องแยกทางกัน และในขณะนั้นเกิดความเครียดกับปัญหา ทั้งการเลิกรา ความเป็นอยู่ ค่าใช้จ่าย ทำให้หันไปพึ่งพาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หวังว่าจะดับทุกข์ ครั้งแรกเริ่มดื่มเบียร์ และขยับมากินทุกวัน คิดว่าดื่มเพื่อสนุกสนาน คงไม่เป็นไร พอดื่มแล้วตอนเช้าจะมีอาการมึนหัว ก็จะบ่นให้ลูกฟังบ่อยๆ ลูกก็ขอให้เลิก ก็ยังไม่ยอมเลิก แต่ได้พอมาเห็นลูกร้องไห้ เห็นน้ำตาก็ทำให้คิดได้ และบอกลูกว่าจะเลิกดื่มเพื่อลูก…
จากเสียงร้องขอของเด็กน้อยตาดำๆ คนหนึ่งที่อยากให้ “แม่เลิกดื่มเหล้า” วันนี้คำขอนั้นเป็นจริงขึ้นมาแล้ว…ครอบครัวนางยุพาพรอยู่กันอย่างมีความสุข มีเงินเหลือเก็บ แถมร่างกายก็ดูแข็งแรงกว่าเดิม คุณภาพชีวิตดีขึ้นแบบผิดหูผิดตา…
มิใช่เพียงเธอผู้นี้คนเดียวเท่านั้น ที่สามารถหันหลังให้เหล้าได้ คุณเองก็สามารถมีชีวิตที่ดีกว่าได้ เริ่มต้นวันนี้ยังไม่สาย ตั้งใจจริง เลิกได้แน่นอน!!!!
เรื่องโดย: ณัฐภัทร ตุ้มภู่ www.thaihealth.or.th
Update:18-06-52
อัพเดทเนื้อหาโดย: ณัฐภัทร ตุ้มภู่