พัฒนา กทม. สู่มหานครสุขภาวะวิถีใหม่
ที่มา : เว็บไซต์มติชนออนไลน์
แฟ้มภาพ
กทม. ร่วมกับภาคีเครือข่ายสุขภาพ อาทิ สธ. สช. และ สสส. เดินหน้าขับเคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพ พัฒนาการให้บริการทางการแพทย์และสาธารณสุข สู่มหานครสุขภาวะวิถีใหม่
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในฐานะประธานกรรมการสนับสนุนการจัดและขับเคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพกรุงเทพมหานคร เป็นประธานพิธีเปิดการประชุมสมัชชาสุขภาพกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 2 พ.ศ.2564 ภายใต้ประเด็นหลัก "พลิกวิกฤตเป็นโอกาส ร่วมสร้างมหานครสุขภาวะ วิถีใหม่" โดยมี รศ.จิราพร ลิ้มปานานนท์ รองประธานคณะกรรมการสนับสนุนการจัดและขับเคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพกรุงเทพมหานคร นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ทพ.วิรัตน์ เอื้องพูลสวัสดิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 13
พญ.ขจีรัตน์ ปรักเอโก ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการพัฒนาระบบสุขภาพ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) นพ.ชวินทร์ ศิรินาค รองปลัด กทม. พร้อมด้วยภาคีเครือข่ายสมัชชาสุขภาพกรุงเทพมหานครจากหลายภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาการ ภาคประชาสังคม และประชาชน ร่วมประชุมที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น เขตหลักสี่
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า กทม.มีนโยบายที่จะพัฒนามหานครแห่งนี้ ให้เป็นเมืองที่น่าอยู่อย่างยั่งยืน ประชาชนมีสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง ห่างไกลโรคภัยไข้เจ็บ และมีคุณภาพชีวิตที่ดี จึงมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะพัฒนาการให้บริการทางการแพทย์และสาธารณสุข มีคุณภาพได้มาตรฐานและทั่วถึง การดูแลสุขภาวะและสวัสดิการของคนกรุงเทพฯ ทุกเพศ ทุกวัย อย่างเป็นระบบ รวมทั้งจัดกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพในรูปแบบต่าง ๆ ตลอดจนส่งเสริมการเรียนรู้ให้ประชาชนสามารถดูแลสุขภาพด้วยตนเอง เพื่อสร้างสังคมแห่งสุขภาวะที่ดีและมีความสุข พร้อมเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพ เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และประเทศชาติต่อไป
"การประชุมสมัชชาสุขภาพกรุงเทพฯ ในวันนี้ แสดงให้เห็นถึงพลังแห่งความสามัคคีร่วมแรงร่วมใจของทุกฝ่าย ที่ต้องการให้เกิดกระบวนการพัฒนานโยบายสาธารณะแบบมีส่วนร่วมของคนกรุงเทพฯ ที่มีทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาการ และภาคประชาสังคม มาร่วมกันคิด ร่วมกันตัดสินใจ ร่วมปฏิบัติ และรับผิดชอบในเรื่องต่างๆ ที่มีผลกระทบต่อประชาชนในกรุงเทพฯ ภายใต้เป้าหมายพลิกวิกฤตเป็นโอกาส ร่วมสร้างมหานครสุขภาวะ วิถีใหม่ ซึ่งคณะกรรมการสนับสนุนการจัดและขับเคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพกรุงเทพมหานคร
โดยได้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ และคณะทำงานขึ้นมาจากผู้แทนภาคส่วนต่างๆ เพื่อทำหน้าที่จัดกระบวนการสมัชชาสุขภาพ เริ่มตั้งแต่การพิจารณาคัดเลือกประเด็นนโยบายสาธารณะที่เป็นปัญหาร่วมของคนกรุงเทพฯ การพัฒนาข้อเสนอเชิงนโยบาย การจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นของกลุ่มเครือข่ายและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ตลอดจนมีการชี้แจงทำความเข้าใจกับกลุ่มเครือข่ายถึงบทบาทหน้าที่ในเวทีประชุมหาฉันทามติร่วมกัน" พล.ต.อ.อัศวิน กล่าว
ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวว่า คณะกรรมการฯ ได้ประกาศระเบียบวาระที่นำเข้าสู่การพิจารณาครั้งนี้ 2 เรื่อง ได้แก่ 1.การสานพลังพัฒนาพื้นที่สาธารณะเพื่อสุขภาวะของชุมชน 2.การพัฒนาระบบบริการสุขภาพปฐมภูมิในกรุงเทพฯเพื่อรองรับภาวะวิกฤต
"สืบเนื่องจากมาตรา 40 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2550 กำหนดให้มีการจัดสมัชชาสุขภาพเฉพาะพื้นที่ หรือสมัชชาสุขภาพเฉพาะประเด็น ซึ่งเป็นกระบวนการที่ให้ประชาชนและหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องได้ร่วมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และเรียนรู้อย่างสมานฉันท์ เพื่อนำไปสู่การเสนอแนะนโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพหรือความมีสุขภาพของประชาชน โดยจัดให้มีการประชุมอย่างเป็นระบบและอย่างมีส่วนร่วม กทม. จึงร่วมกับ สช., สสส. และหน่วยงานภาคีเครือข่าย จัดสมัชชาสุขภาพกรุงเทพฯ ครั้งที่ 2 พ.ศ. 2564 เพื่อหาฉันทมติ และขับเคลื่อนใน 2 ประเด็นหลักร่วมกันของภาคีเครือข่ายจากหลายภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาการ ภาคประชาสังคม ผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ คณะทำงานที่เกี่ยวข้อง และประชาชน รวมทั้งสิ้นประมาณ 500 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากการพิจารณาให้ข้อเสนอต่อระเบียบวาระแล้ว กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การรายงานผลการขับเคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 1 พ.ศ.2563 การพิจารณาให้ข้อเสนอต่อระเบียบวาระสมัชชาสุขภาพกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 2 กิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ รวมทั้งการจัดบูธนิทรรศการเกี่ยวกับการใช้พื้นที่สาธารณะ ทั้งมิติการส่งเสริมสุขภาพ ความมั่นคงทางอาหาร พื้นที่แห่งการแลกเปลี่ยนเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ และพื้นที่เพื่อรองรับสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 โดยชุมชน โดยจัดประชุมในสถานที่ (Onsite) และแบบออนไลน์ (Online) ผ่านระบบ Zoom สำหรับประชาชนผู้สนใจสามารถติดตามรับชมการถ่ายทอดสดทาง FB Live กรุงเทพมหานคร โดย สำนักงานประชาสัมพันธ์ และ สช.