พลังสานสายใยเพื่อนช่วยเพื่อน ให้โอกาสเยาวชนก้าวพลาด
ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
โครงการพลังพลเมืองเยาวชนสงขลา โดยการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และมูลนิธิสยามกัมมาจล ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ให้ความสนใจกับเยาวชนทุกกลุ่ม ทั้งเด็กในระบบ นอกระบบ รวมทั้งการเปิดพื้นที่ให้เยาวชนที่ก้าวพลาดจากศูนย์ฝึกเด็กและเยาวชน สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน นำเสนอโครงการร่วมกับครูและพนักงานคุมประพฤติ ทำให้เยาวชนมองเห็นคุณค่าของตนเองในผลงานที่ร่วมทำและร่วมเรียนรู้กับเยาวชนอื่นๆ อย่างมีศักดิ์ศรีทัดเทียมกัน
โครงการสานสายใยเพื่อนช่วยเพื่อน เป็นหนึ่งโครงการที่ให้โอกาสเด็กก้าวพลาดได้มาทำกิจกรรม ทำให้เขาจดจ่ออยู่กับการสานตะกร้า แตกยอดความรู้จากพื้นฐานของการสานไปสู่การคิดออกแบบลายใหม่ๆ ฝึกให้เขานิ่งขึ้น ยกระดับจิตใจตัวเองขึ้น ระบบสมองได้รับการพัฒนา ทั้งเรื่องความจำ การเห็นอกเห็นใจผู้อื่น การช่วยเหลือผู้อื่น การจัดการวางแผน ทำให้ในอนาคตข้างหน้าเมื่อพวกเขาก้าวออกจากศูนย์ฝึกแล้ว สิ่งเหล่านี้จะช่วย ให้เขารู้จักการยับยั้งชั่งใจ รู้จักวางแผน คิดรอบคอบมากขึ้น ไม่ต้องเข้ามาอยู่ในสภาวะแบบนี้อีก
จักร แกนนำเยาวชนโครงการสานสายใยเพื่อนช่วยเพื่อน จากศูนย์ฝึกและอบรมเด็ก และเยาวชนเขต 9 จังหวัดสงขลา คือตัวอย่างของเยาวชนที่ก้าวพลาด เมื่อมีโอกาสกลับมาเริ่มต้นใหม่ จักรจึงขอใช้โอกาสในครั้งนี้ให้คุ้มที่สุดด้วยการเข้าร่วมโครงการ
"โครงการสานสายใยเพื่อนช่วยเพื่อน ฝึกให้ผมสามารถจัดการอารมณ์ตัวเองได้ดีขึ้น จากเดิมเป็นคนอารมณ์ร้อน ตอนนี้อารมณ์เย็นลง ฟังก่อนคิด คิดก่อนทำ ถ้าไม่มีโครงการนี้ ไม่มีครูเขี้ยวที่ให้โอกาสได้เข้าร่วมโครงการ ผมอาจจะไม่มีวันนี้ จากที่ผมนั่งสานแค่ให้ออกมาสวย แต่ผมนั่งสานแล้วนึกถึงอนาคตมากขึ้น ว่าเราสานแล้วเราออกไปแล้วเราจะทำอะไร มันเปลี่ยนวิธีคิดเราไป จากเด็กที่ไม่คิดอะไรเลย ไร้สาระไปวันๆ กลับมาคิดวางแผน นึกถึงอนาคตของตัวเองมากขึ้น" จักรกล่าว
ปัจจุบันจักรออกมาทำงานเป็นผู้ช่วยอยู่ที่ร้านขายสีทาบ้านในตัวเมืองสงขลา และยังคงมาช่วยงานกับทางศูนย์ฝึกอยู่ตลอดเวลา รวมทั้งทีมโครงการพลังพลเมืองเยาวชนสงขลา เพราะได้รับโอกาสให้ทำในสิ่งที่ตัวเองไม่เคยคิดว่าจะได้ทำ ทำให้จักรมีความสุขทุกครั้งที่ได้เข้าร่วมกิจกรรม เปลี่ยนความคิดทำให้คิดถึงคนอื่นมากขึ้น มีจิตอาสาอยากช่วยผู้อื่น จากที่เคยเป็นคนทำก่อนคิด ทำให้คิดก่อนทำมากขึ้น เรียนรู้ที่จะกล้าปฏิเสธ นี่คือสิ่งที่เขาได้ติดตัวกลับไปนอกจากทักษะทางด้านฝีมือ
นางพรรณิภา โสติพันธุ์ ผู้อำนวยการโครงการพลังพลเมืองเยาวชนสงขลา กล่าวว่า "โครงการพลังพลเมืองเยาวชนสงขลาทำงานกับกลุ่มเยาวชนที่เข้าร่วมกิจกรรม อายุระหว่าง 12-24 ปี ช่วงวัยนี้เป็นช่วงที่สมองมีความมหัศจรรย์ที่สุด ทางสงขลาฟอรั่มจึงถือเอาเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญอันดับหนึ่งในปีนี้ สมองวัยรุ่นเป็นช่วงที่มีระบบการสร้างสรรค์ได้ตลอด ในขณะเดียวกันก็ต้องเข้าใจด้วยว่าในการเปลี่ยนแปลงของสมองจะมีระบบที่เปรียบเสมือนผู้ร้ายที่ทำให้เด็กพลุ่งพล่าน โมโหร้าย ใช้อารมณ์ ขาดการยับยั้งชั่งใจ ถ้าเราเสริมศักยภาพในเรื่องของ Executive Functions (EF) ให้กับเขาในช่วงวัยนี้ได้ จะทำให้เขาเรียนรู้การยับยั้งชั่งใจ การคิดวางแผนผ่านโครงการที่เขาลงมือทำ"
ในขณะที่ ครูเขี้ยว นายประชิด ตรงจิต ที่ปรึกษาโครงการสานสายใยเพื่อนช่วยเพื่อน นำโครงการเข้าไปบรรจุในชั้นเรียนของทาง ศูนย์ฝึก โดยใช้ชื่อว่า "ห้องเรียนสานสายใย" เพราะหวังว่าห้องเรียนนี้จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยยกระดับให้เยาวชนที่ก้าวพลาดมาเข้าร่วมปรับเปลี่ยนวิธีคิด และมีทักษะอาชีพติดตัวเมื่อวันที่ก้าวออกจากรั้วกำแพงนี้ไป
"ผมเป็นที่ปรึกษาของโครงการ ผมบอกเด็กว่าการที่เขาได้เข้ามาอยู่ในโครงการสานสายใย ถามว่าดีหรือไม่ดีครูไม่สามารถบอกได้ แต่สิ่งหนึ่งที่จะเกิดขึ้นได้คือ ระบบวิธีการคิด ความรับผิดชอบ การเอาใจใส่ การเรียนรู้ ทั้งหมดจะมีครบในโครงการสานสายใย ตั้งแต่เรื่องทักษะการทำงาน การทำงานเป็นทีม ที่สอดแทรกอยู่ในกระบวนการเรียนการสอน" ครูเขี้ยวกล่าว