พระสงฆ์ไทยฟันผุสูง แนะ 6 วิธีดูแล

ที่มา : เว็บไซต์กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข


ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ


พระสงฆ์ไทยฟันผุสูง แนะ 6 วิธีดูแล thaihealth


แฟ้มภาพ


“กรมอนามัย” เผยพระสงฆ์ไทยร้อยละ 96 ฟันผุ เหตุฉันอาหารประเภทแป้งและน้ำตาลในปริมาณมาก และขาดการทำความสะอาดช่องปากที่ดี พร้อมแนะ 6 วิธีดูแลสุขภาพช่องปากและฟัน 


นายแพทย์วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า พระสงฆ์และสามเณรจำนวนมากมีปัญหาสุขภาพช่องปาก ทั้งโรคฟันผุโรคเหงือกอักเสบรวมถึงโรคปริทันต์บางครั้งพบเป็นทั้งโรคฟันผุและโรคปริทันต์ในเวลาเดียวกันทั้งที่ยังอายุน้อย จากการสำรวจสุขภาพฟันพระภิกษุสงฆ์โดยกระทรวงสาธารณสุข ปี 2556 พบว่า มีฟันผุถึง ร้อยละ 96 ซึ่งสูงกว่าการมีฟันผุในประชากรวัยทำงาน 35-44 ปี ที่พบฟันผุร้อยละ 86 โรคฟันผุในพระภิกษุสงฆ์และสามเณรอาจจะเนื่องมาจากอาหารที่ญาติโยมนำมาใส่บาตรหรือนำมาถวาย


นอกจากควรลดอาหารประเภทหวาน มัน เค็มแล้ว ควรคำนึงถึงเครื่องดื่ม เช่นชา กาแฟ น้ำอัดลม หรือน้ำหวานต่างๆ ซึ่งมีส่วนประกอบน้ำตาลอยู่ในปริมาณมาก เมื่อฉันบ่อยๆ และไม่ทำความสะอาดช่องปากให้เพียงพอและถูกวิธี ก็จะทำให้เสี่ยงต่อการเกิดฟันผุมากขึ้น นอกจากนี้ พระสงฆ์และสามเณรไม่ค่อยมีโอกาสมาพบทันตแพทย์ โรคในช่องปากจึงอาจลุกลามไปจนถึงขั้นสูญเสียฟัน


นายแพทย์วชิระ กล่าวว่า การดูแลสุขภาพช่องปากพระสงฆ์และสามเณรสามารถทำได้โดย 1) แปรงฟันให้สะอาดด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ อย่างน้อยวันละ 2 ครั้งหลังฉันอาหาร ควรแปรงลิ้นด้วยทุกครั้งหากแปรงฟันทันทีไม่ได้ ให้บ้วนปากให้สะอาดทุกครั้งหลังมื้ออาหารควรใช้ไหมขัดฟันทำความสะอาดซอกฟันทั่วทุกซี่ วันละ 1 ครั้งก่อนนอน 2) เน้นผัก ผลไม้ เพื่อเสริมสร้างฟันให้แข็งแรงและมีเส้นใยช่วยทำความสะอาดฟันผลไม้จำพวก แตงกวา ฝรั่ง มะเขือเทศ ชมพู่ จะช่วยในการทำความสะอาดฟัน อาหารที่มีวิตามินซี เช่น ส้ม สับปะรด กะหล่ำปลี แครอท ผักคะน้า มีความสำคัญในการรักษาเหงือก ฟัน กระดูกอาหารที่มีวิตามินบี 2 เช่น ถั่วลิสง รำ ถั่วเหลือง มะม่วง จะช่วยป้องกันมุมปากแตก ลิ้นอักเสบ


อธิบดีกรมอนามัย กล่าวต่อว่า 3) พบทันตบุคลากรเพื่อตรวจสุขภาพช่องปากและฟันอย่างน้อยปีละ1ครั้งและตรวจสุขภาพในช่องปาก ด้วยตนเองอย่างสม่ำเสมอ หากพบสิ่งผิดปกติควรรีบไปรักษา 4) หลีกเลี่ยงการฉันลูกอม ลูกกวาด ท็อฟฟี่ ขนมกรุบกรอบของจุบจิบ ขนมหวานเหนียว หรือขนมหวานจัด 5) ไม่ควรสูบบุหรี่หรือใช้ยาสูบทุกประเภทเพราะทำให้ช่องปากสกปรกมีกลิ่นปากเหงือกอักเสบและเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งช่องปาก และ6) ไม่ใช้ฟันกัดหรือขบของแข็ง

Shares:
QR Code :
QR Code

ใส่ความเห็น

ระบุข้อความ