พรธรรมะจากพระชื่อดังรับปี 2554
ใช้ชีวิตมี “สติ” เข็มทิศความสำเร็จปีใหม่
ผ่านพ้นบรรยากาศของการเฉลิมฉลอง และเริ่มเข้าสู่การดำรงชีวิตตามปกติ ตามภาระหน้าที่ของแต่ละคนที่พึงปฏิบัติ หลายๆ คนอาจจะยังตั้งหลักไม่ถูกหลังหยุดยาวติดต่อกัน เรามีธรรมะดีๆ มาฝาก
พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก แห่งวัดป่าสุนันทวนาราม บ้านท่าเตียน ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี กล่าวว่า เมื่อถึงช่วงเวลาปีใหม่ ทุกคนอยากจะเริ่มต้นปีด้วยความสุข ดังนั้น ก็ต้องเริ่มต้นด้วยการวางอดีตลง โดยเฉพาะอดีตที่ติดค้าง เกิดความน้อยใจ เสียใจ ก็ขอให้ปล่อยวาง และเริ่มต้นปีด้วยการทำบุญ ให้ทาน โดยเฉพาะการอภัยทาน ที่ไม่คิดติดค้างโกรธเคืองใดๆ
“ขอให้ทุกคนดำเนินชีวิตอย่างมีศีล และมีสติ โดยกำหนดลมหายใจเข้าลึกๆ หายใจออกยาวๆ ซึ่งจะช่วยให้เรามีสติชัดเจนขึ้น ส่วนอารมณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ถือเป็นขยะ ไม่ควรยึดมั่น ถือมั่น เหตุการณ์อะไรที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านๆ มา ที่ไม่พอใจ เสียใจ ก็ให้ปล่อยออกไปกับลมหายใจ ซึ่งหากเราสามารถทำให้จิตใจสบายได้ ชีวิตเราก็จะมีความสุข เมื่อมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นก็จะสามารถรับมือได้ เพราะปัญหาทุกอย่างที่เป็นความทุกข์ล้วนเกิดขึ้นจากใจทั้งสิ้น หากเราดูแลใจได้ปัญหาที่มากระทบจากภายนอกก็เป็นเพียงแค่ธุลี”
พระอาจารย์มิตซูโอะ กล่าวอีกว่า การพิจารณาลมหายใจเข้าลึกๆ หายใจออกยาวๆ เพื่อให้มีสติ และปล่อยวางอารมณ์ยึดมั่น ถือมั่นที่มีในใจลง และให้อภัยเป็นทาน จะช่วยทำให้ประเทศไทยกลับคืนสู่ความสงบสุข หลังจากที่ปีที่ผ่านมาประเทศไทยบอบช้ำมา
ขณะที่ “พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี” หรือ “ท่าน ว.วชิรเมธี” ได้กล่าวถึงพรปีใหม่ซึ่งเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตว่า ในปี 2554 นี้ขอให้ญาติโยมได้ใช้ “จตุรพลัง” อันหมายถึงพลังทั้ง 4 เป็นเข็มทิศในการดำเนินชีวิตอย่างมีสติ เพื่อความสุขของสังคมไทย สำหรับพลังทั้ง 4 ประกอบด้วย
1. พลังปัญญา – ไม่เชื่อต้องศึกษา ไม่มีปัญญาต้องเรียนรู้ เนื่องจากสังคมไทยในปัจจุบันใช้อารมณ์กันมาก แต่ใช้ความรู้น้อย และไม่ค่อยจะรู้จริง เมื่อเกิดปัญหาขึ้นจึงใช้อารมณ์มาตัดสิน ไม่ได้ใช้ความรู้หรือเหตุผล จึงก่อให้เกิดเหตุการณ์วุ่นวายดังที่ผ่านมา นอกจากนี้สังคมไทยควรจะเลิกใช้คำว่า “ไม่เชื่ออย่าลบหลู่” เพราะคำดังกล่าวทำให้เราไม่กล้าที่จะหาคำตอบ ซึ่งทำให้ไม่เกิดปัญญา
2.พลังความเพียร – ต้องพึ่งความเพียรของตน ดีกว่าพึ่งการบนเทวดา ที่ผ่านมา สังคมไทยมีการบูชาเทพ หรือเทวดากันมาก แม้การบูชาเทพเป็นสิ่งที่ดี แต่สิ่งสำคัญ คือ ต้องเชื่อมั่นในความสามารถของตัวเองด้วย ไม่ใช่หวังพึ่งเทพอย่างเดียวจนไม่ทำอะไรเลย เหมือนที่พระพุทธเจ้าสอนว่าตนเป็นที่พึ่งแห่งตน
3.พลังความสุจริต – ทำมาหากินอย่างสุจริต ดีกว่าหลงผิดคอร์รัปชัน ประเทศไทยติดอันดับหนึ่งในสิบของโลกในเรื่องคอร์รัปชัน จึงต้องปลูกฝังความคิดใหม่ว่าคนโกงคืออาชญากร เป็นบาป และสังคมต้องต่อต้าน ไม่เพียงแต่นักการเมืองเท่านั้น คนในทุกสาขาอาชีพก็ไม่ควรเบียดบังเอาของคนอื่นมาเป็นของตนเอง
4. พลังความสามัคคี – ร่วมกันคิด ร่วมกันทำ ร่วมกันนำประเทศไทยพ้นวิกฤติ คนไทยต้องช่วยกัน อย่าเห็นแก่ตัวเอง แต่ให้มองผลประโยชน์ของส่วนรวมเป็นที่ตั้ง
ด้าน พระปพนพัชร์ จิรธัมโม เจ้าอาวาสวัดคำประมง อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร บอกว่า การเริ่มต้นปีใหม่ควรข้ามปีด้วยการสนุกทางธรรม สวดมนต์ ทำบุญ ทำทาน ถือเป็นการล้างพิษภัยที่ไม่ดีในปีที่ผ่านมาในตัวเรา ล้างสิ่งไม่ดีต่างๆ ทั้งโรคภัยและอื่นๆ เพื่อให้ปีใหม่จะได้มีพลังชีวิตในการขับเคลื่อน ให้มีชีวิตใหม่ที่ดี มีกำลังใจ ถ้าเริ่มด้วยสิ่งไม่ดี ชีวิตก็จะไม่ดีตามไปด้วย แต่ถ้าเราเริ่มต้นปีด้วยสิ่งดีๆ ชีวิตก็จะดี สังคมก็จะดี ชาติก็ดีตามไปด้วย
“การฉลองมันเป็นพฤติกรรมมาจากตะวันตก ไม่ใช่ของบ้านเรา ถ้าเราอยากมีความสุขมีความเป็นสิริมงคลในปีต่อไป ต้องทำกิจกรรมที่เป็นกุศล ชะล้างกรรมเก่า กรรมที่มันใกล้จะตามเราทัน หากเราตั้งใจจริง กรรมก็อาจลดลงไปได้บ้าง จากหนักก็จะเป็นเบา ฉะนั้น เราควรทำสิ่งดีๆ ทั่วประเทศ”
พระปพนพัชธ์ จิรธัมโม บอกต่อว่า ปีใหม่นี้ก็ขอให้คนไทยทุกคน รักกัน ให้อภัยกัน ให้พูดความว่าขอโทษ ขอบใจ ให้อภัยแล้วให้มากขึ้น ไม่โทษซึ่งกันและกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ยามทุกข์ต้องมีสติ และต้องบอกตนเองอยู่เสมอว่าอย่าประมาท ในทุกๆ เรื่อง ทั้งหน้าที่การงาน การดำรงชีวิต ของให้ญาติโยมทั้งหลายมีสุขภาพกายใจที่แข็งแรง ทุกท่านทุกคนเทอญ
ที่มา : คีตฌาณ์ ลอยเลิศ Team content www.thihealth.or.th
Update : 04-01-54
อัพเดทเนื้อหาโดย : สุนันทา สุขสุมิตร