พม.นำร่อง 12 การเคหะ
เนรมิตเป็น“ฟิตเนสชุมชน”
พม. – เคหะฯ จับมือ สสส. “ชวนขยับทั้งชุมชน” เนรมิตลานอเนกประสงค์เป็น “ฟิตเนสชุมชน” หลังพบกว่า 70% อยากออกกำลังกาย – มีสถานที่เหมาะสม เริ่มนำร่อง 12 เคหะ-บ้านเอื้อฯ ตั้งเป้าดึงผู้อยู่อาศัยกว่า 2 ล้านคนทั่วประเทศใส่ใจสุขภาพ
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 13 กันยายน ที่สำนักงานใหญ่ การเคหะแห่งชาติ นายอิสระ สมชัย รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นประธานในพิธีลงนามความร่วมมือโครงการเสริมสร้างวิถีชีวิตสุขภาวะของชุมชน “การเคหะ – สสส. ชวนขยับทั้งชุมชน” โดย นายสุชาติ ศิริโยธิพันธุ์ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ (กคช.) และ ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และผู้แทนชาวชุมชนการเคหะทั้ง 12 ชุมชน ร่วมลงนามปฏิญญาการออกกำลังกาย พร้อมร่วมกิจกรรม “ยางยืด ยืดชีวิต” ซึ่งเป็นวิธีการออกกำลังกายแบบพอเพียง ที่ทุกคนสามารถทำได้
โดยนายอิสระ กล่าวว่า การเคหะแห่งชาติมีหน้าที่หลักในการเสริมสร้างความมั่นคงในการอยู่อาศัย สิ่งที่ต้องคำนึงเป็นอันดับแรก คือทำอย่างไรให้คนจำนวนมากอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ท่ามกลางสังคมแวดล้อมที่ดี มีสุขภาวะทางกายและจิตดี ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี แสดงให้เห็นถึงความห่วงใยของหน่วยงานภาครัฐที่มีต่อประชาชน และยังเป็นการบูรณาการการทำงานร่วมกันของหน่วยงานภาครัฐอีกด้วย
ด้านนายสุชาติ กล่าวว่า นอกจากการจัดสร้างที่อยู่อาศัยให้กับประชาชนผู้มีรายได้น้อย กคช. ให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตและเสริมสร้างสุขภาวะของผู้อยู่อาศัย จึงนำไปสู่ความร่วมมือกับ สสส. จัดโครงการ “การเคหะ – สสส. ชวนขยับทั้งชุมชน” เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการออกกำลังกายอย่างเป็นระบบ และพัฒนาองค์ความรู้ให้ประชาชนในชุมชนมีโอกาสออกกำลังกายเป็นวิถีชีวิต โดยใช้พื้นที่สาธารณะลานอเนกประสงค์ สนามกีฬาของการเคหะแห่งชาติเป็นพื้นที่ดำเนินการ เน้นกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชนเพื่อให้เกิดความยั่งยืนต่อไป
ทพ.กฤษดา กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้ จะช่วยยกระดับสุขภาวะของผู้อยู่อาศัยในชุมชนการเคหะฯ และบ้านเอื้ออาทร กว่า 2 ล้านคน จาก 500 ชุมชนทั่วประเทศให้ดียิ่งขึ้น เพราะแค่ขยับก็เท่ากับออกกำลังกาย โดยเฉพาะจากผลสำรวจความคิดเห็น “ความต้องการด้านกิจกรรมการออกกำลังกาย ของประชาชนที่อาศัยในชุมชนการเคหะแห่งชาติ” ของแผนงานส่งเสริมการออกกำลังกายและกีฬาเพื่อสุขภาพ สสส. ร่วมกับ กคช. ตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤษภาคม 2553 ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 10 แห่ง อาทิ โครงการเคหะชุมชนร่มเกล้า โครงการบ้านเอื้ออาทรบึงกุ่ม โครงการบ้านเอื้ออาทรสมุทรปราการ ระบุว่า ชาวชุมชน 33 % ออกกำลังกายเป็นประจำ 67% นานๆ ครั้ง และ 70.40% บอกว่าต้องการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ อีกเกือบ 20% เพื่อได้พบปะพูดคุยกับคนอื่น เห็นได้ชัดว่าการออกกำลังกายมีส่วนในการเชื่อมความสัมพันธ์ที่ดี และสิ่งที่ต้องการมากที่สุดคือ การมีสถานที่ที่เหมาะสมกับการออกกำลังกายรองลงมาคือการบริหารจัดการที่ดี
“ความร่วมมือครั้งนี้ จะเริ่มนำร่องในพื้นที่ 12 โครงการ อาทิ โครงการเคหะชุมชนคลองจั่น เคหะชุมชนร่มเกล้า บ้านเอื้ออาทรรามอินทรา (คู้บอน) บ้านเอื้ออาทรบึงกุ่ม บ้านเอื้ออาทรสมุทรปราการ 1 เป็นต้น ดำเนิน 5 โครงการหลัก ได้แก่ 1. จัดอบรมพัฒนาศักยภาพผู้นำชุมชน กรรมการชุมชน ผู้นำกลุ่ม 2.เสริมสร้างสุขภาพผู้อยู่อาศัย โดยต่อยอดกิจกรรมที่เป็นที่สนใจอยู่เดิมในชุมชน เช่น กลุ่มแอโรบิค ไทเก็ก รวมทั้งสนับสนุนให้เกิดกลุ่มออกกำลังกายใหม่ๆ ขึ้น
3.สนับสนุนความเกื้อกูลระหว่างชุมชน จัดแข่งขันกีฬาเชื่อมสัมพันธ์ อาทิ กีฬาฟุตบอล แบดมินตัน บาสเกตบอล เป็นต้น 4.ฟื้นฟูและให้คำปรึกษาปัญหาสุขภาพ และ 5. จัด “ฟิตเนสชุมชน” โดยร่วมพัฒนาลานอเนกประสงค์ของการเคหะให้กลายเป็นลานกีฬากลางแจ้ง ที่ชาวชุมชนร่วมกันนำวัสดุอุปกรณ์เหลือใช้ มาประดิษฐ์เป็นเครื่องออกกำลังกาย” ทพ.กฤษดา กล่าว
ที่มา : หนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการออนไลน์
Update : 16-09-53
อัพเดทเนื้อหาโดย : สุนันทา สุขสุมิตร
