พบ ‘อุปกรณ์ร้านเสริมสวย’ เปื้อนเชื้อโรค

         กองสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม สำนักอนามัย พบสถานประกอบการเสริมสวยหรือแต่งผม ที่ไม่ผ่านการตรวจประเมิน ส่วนใหญ่มักมีข้อบกพร่อง คือ สถานที่มีคราบสกปรกหรือชำรุด ไม่มีการจัดการขยะที่เป็นอันตราย พบอุปกรณ์ปนเปื้อนเชื้อรา 81 ตัวอย่าง


/data/content/25356/cms/e_abdentxy3457.jpg


          นางอินจิรา นิยมธูร ผอ.กองสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม สำนักอนามัย กทม. กล่าวว่า สำนักอนามัยได้กวดขัน ดูแล สถานประกอบการเสริมสวยหรือแต่งผม ร่วมกับสำนักงานเขตอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาจากการตรวจสุขลักษณะของสถานที่เสริมสวยหรือแต่งผม 1,854 แห่ง ผ่านเกณฑ์ 1,459 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 79 ไม่ผ่านเกณฑ์ 395 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 21 สถานประกอบการที่ไม่ผ่านการตรวจประเมิน ส่วนใหญ่มักมีข้อบกพร่อง คือ สถานที่มีคราบสกปรกหรือชำรุด ไม่มีการจัดการขยะที่เป็นอันตราย เช่น ใบมีดโกน ภาชนะบรรจุน้ำยาดัดผม กระป๋องสเปรย์ เป็นต้น


          นอกจากนี้ จากการสุ่มตรวจอุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ในสถานประกอบกิจการเสริมสวย 95 ตัวอย่าง เช่น กรรไกรตัดผม แปรงม้วนผม หวี กิ๊บติดผม กรรไกรตัดหนัง ที่แคะเล็บ ตะไบเล็บ เป็นต้น เพื่อตรวจวิเคราะห์การปนเปื้อนทางห้องปฏิบัติการ ผลการตรวจพบการปนเปื้อนเชื้อรา 81 ตัวอย่าง คิดเป็นร้อยละ 85.27 ดังนั้นจึงได้แนะนำให้ผู้ประกอบการเพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดอุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ ในสถานประกอบการเสริมสวยหรือแต่งผมให้เพิ่มมากขึ้น


           รายงานข่าวแจ้งว่า เดิม กทม.มีข้อบัญญัติ กทม. เรื่อง ควบคุมการแต่งผม พ.ศ. 2518 แต่ในปัจจุบันได้ถูกยกเลิกไปแล้ว มีสาระสำคัญ เช่น 1. ห้ามมิให้ผู้ใดเป็นผู้รับจ้างเสริมสวยหรือแต่งผม เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจาก กทม. 2. ผู้รับจ้างเสริมสวยหรือแต่งผมจะต้องได้รับการตรวจร่างกายจากแพทย์อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง และมีใบรับรองการตรวจร่างกายจากแพทย์ว่าไม่เป็นโรคต่างๆตามที่กำหนด 3. ผู้ได้รับใบอนุญาตรับจ้างเสริมสวยหรือแต่งผม ในขณะที่ให้บริการ ต้องแต่งกายให้สะอาดและสุภาพเรียบร้อย หลังจากให้บริการแต่ละรายเสร็จ จะต้องล้างมือให้สะอาดแล้วเช็ดให้แห้ง ก่อนให้บริการผู้ใช้บริการรายต่อไป ในขณะทำงานต้องมีผ้าสะอาดปิดปากและจมูก


           ทั้งนี้ มีรายงานว่าทางสมาคมฯ ผู้ประกอบการ และช่างเสริมสวยได้เรียกร้องให้ กทม.ผลักดันข้อบัญญัติฉบับดังกล่าวกลับมาใช้อีกครั้ง โดยเฉพาะกำหนดช่างผู้ให้บริการจะต้องผ่านการอบรมหลักสูตรโดยเฉพาะ เพื่อสุขอนามัยและสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการ


 


 


            ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ 


            ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต

Shares:
QR Code :
QR Code