พบเด็กไทยฟันน้ำนมผุสูงขึ้น กระตุ้นพ่อแม่ใส่ใจสุขภาพช่องปากลูก

 

สธ. เผย พบเด็กเป็นโรคฟันน้ำนมผุเพิ่มสูงขึ้น แนะพ่อแม่ใส่ใจสุขภาพช่องปากลูกและดูแลพฤติกรรมการกินของเด็ก ที่นิยมดื่มน้ำอัดลมและขนม

นพ.วิชัย เทียนถาวร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยระหว่างเป็นประธานเปิดโครงการรณรงค์ “คนไทยฟันดี สดุดีสมเด็จย่า” ว่า เนื่องในโอกาสวันคล้าย วันพระราชสมภพของสมเด็จพระศรีนครินทรา บรมราชชนนี 21 ตุลาคม 2555 และเป็นวันทันตสาธารณสุขแห่งชาติ และในเดือนตุลาคมของทุกปีเป็นเดือนแห่งการรณรงค์ดูแลสุขภาพช่องปากคนไทย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) โดยกรมอนามัยได้จัด โครงการรณรงค์”คนไทยฟันดี สดุดีสมเด็จย่า” เพื่อเทิดพระเกียรติฯ สมเด็จพระศรีนครินทรา บรมราชชนนี “พระมารดาแห่งการทันตแพทย์ไทย” และส่งเสริมให้ประชาชนได้หันมาดูแลสุขภาพช่องปากของตนเองมากขึ้น

นพ.วิชัย กล่าวต่อไปว่า จากการสำรวจ ปัญหาด้านทันตสาธารณสุขของคนไทย พบว่า เด็กไทย อายุ 3 ปี เป็นโรคฟันน้ำนมผุ ถึงร้อยละ 61 และเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 81 เมื่ออายุ 5 ปี สำหรับฟันแท้ผุถึงร้อยละ 57 ซึ่งปัญหาส่วนใหญ่เกิดจากผู้ปกครองเริ่มแปรงฟันให้เด็กช้าและไม่แปรงฟันทุกวัน และจากพฤติกรรมการบริโภคของเด็กที่นิยม กินขนม น้ำอัดลม ซึ่งเด็กเล็กยังไม่มีประสิทธิภาพ ในการแปรงฟันของเด็กเล็กยังไม่มี ต้องอาศัยพ่อแม่หรือผู้ปกครอง สำหรับผู้สูงอายุพบปัญหา  การสูญเสียฟันจนไม่สามารถเคี้ยวอาหารได้ ซึ่งร้อยละ 92 พบสูญเสียฟันอย่างน้อย 1 ซี่ ส่วนหนึ่งไม่มีฟันทั้งปากต้องใส่ฟันเทียม และพบปัญหาโรคในช่องปาก เป็นปัญหาที่กรมอนามัยต้องเร่งดำเนินการแก้ไข

ด้าน นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดี กรมอนามัย กล่าวว่า กรมอนามัยได้กระตุ้นให้คนไทยให้ความสำคัญในการดูแลสุขภาพช่องปากและฟันของตนเองตั้งแต่เด็กจนถึงสูงอายุ เริ่มตั้งแต่โครงการ “ลูกรักฟันดี เริ่มที่ซี่แรก” ที่จัดขึ้นทั่วประเทศในวันที่ 1-7 พฤศจิกายนนี้ เพื่อฝึกทักษะการแปรงฟันให้พ่อแม่ เพราะเด็กต้องการการดูแลสุขภาพฟันตั้งแต่ฟันซี่แรก ตั้งเป้ามีแม่ลูกเข้าร่วมกิจกรรม 1 แสนคู่

 

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์แนวหน้า

 

Shares:
QR Code :
QR Code