ผู้สูงอายุบ้านดอนซาก ฟื้นชีวิตเพื่อนติดเตียง

ที่มา: เว็บไซต์ Gotoknow.org โดยคุณวนาลี จันทร์อร่าม


ภาพประกอบจากเว็บไซต์ Gotoknow.org โดยคุณวนาลี จันทร์อร่าม


ผู้สูงอายุบ้านดอนซาก ฟื้นชีวิตเพื่อนติดเตียง thaihealth


ชมรมผู้สูงอายุบ้านดอกซาก ดูแลสุขภาพผู้สูงวัยครบ 4 มิติ และฟื้นชีวิตผู้ป่วยติดเตียง


ทุกเย็นของวันจันทร์ พุธ ศุกร์ หากเราเข้าไปในหมู่บ้านดอนซาก หมู่ 6 ต.ห้วยงู อ.หันคา จ.ชัยนาท เสียงแรกที่จะได้ยิน คือเสียงประกาศเชิญชวนให้ผู้สูงอายุมาร่วมกันออกกำลังกาย ที่บริเวณลานเอนกประสงค์ของศาลากลางหมู่บ้าน ส่วนใครที่ไม่สะดวกเดินทางไป ก็จะมีเสียงเพลงเปิดให้ออกกำลังอยู่กับที่บ้านได้เช่นกัน


นี่คือกิจกรรมการส่งเสริมออกกำลังกาย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งโครงการเสริมสร้างสุขภาพผู้สูงอายุในชุมชน หมู่ 6 บ้านดอนซาก และได้รับการสนับสนุนจาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) โดยมี ชมรมผู้สูงอายุบ้านดอนซาก เป็นผู้รับผิดชอบโครงการ เพื่อเสริมสร้างสุขภาพของผู้สูงอายุทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และสังคม เพื่อให้ผู้สูงอายุดูแลสุขภาพได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมกับวัย


ผู้สูงอายุบ้านดอนซาก ฟื้นชีวิตเพื่อนติดเตียง thaihealth


วิสูตร ทองอ่ำ ประธานชมรมผู้สูงอายุบ้านดอนซาก เล่าถึงจุดเริ่มต้นการทำโครงการว่า ชมรมผู้สูงอายุบ้านดอกซาก ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2546 ปัจจุบันมีสมาชิก 107 คน มีการจัดประชุมในวันที่ 10 ของทุกเดือน ซึ่งเป็นวันเดียวกับเทศบาลแจกเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ แม้จะมีการก่อตั้งชมรมมาถึง 14 ปี แต่กลับไม่ค่อยมีความเคลื่อนไหว หรือมีกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง สมาชิกชมรมก็ไม่ค่อยได้พบปะเจอหน้าพูดคุยกัน แม้จะอยู่ในหมู่บ้านขนาดเล็กๆ บ้านแต่ละหลังก็ไม่ห่างกันมาก และยังเป็นสังคมชนบท ก็ยังไม่ค่อยได้ไปมาหาสู่กัน สมาชิกจะได้เจอหน้ากันก็แค่วันที่มีการแจกเบี้ยยังชีพหรือมีหน่วยงานราชการเข้ามาเป็นครั้งคราวเท่านั้น


ผู้สูงอายุบ้านดอนซาก ฟื้นชีวิตเพื่อนติดเตียง thaihealth


การได้รับการสนับสนุนจาก สำนักสร้างสรรค์โอกาสและนวัตกรรม สสส.ให้ดำเนินโครงการเสริมสร้างสุขภาพผู้สูงอายุ ทำให้ชมรมมีความเคลื่อนไหว มีการอบรมให้ความรู้แก่ผู้สูงอายุ ส่งเสริมการออกกำลังกายทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 17.00 น. ด้วยการฟ้อนรำ ยืดเส้นยืดสายด้วยไม้พลอง ยางยืด และผ้าขาวม้า


“ผ้าขาวม้าเป็นผ้าที่อยู่คู่กับคนแก่ๆ เราจึงเอามาประยุกต์ใช้แทนไม้พลอง เพราะยืดหยุ่นกว่า ซึ่งดีต่อการบริหารเส้นสาย ข้อต่างๆ ของร่างกาย” ลุงวิสูตร บอก แต่ละครั้งจะมีสมาชิกมาออกกำลังกายไม่น้อยกว่า 40 คน ส่วนการส่งเสริมสุขภาพจิต ก็จะชวนกันเข้าวัดฟังเทศน์ ทำบุญทุกวันพระ และพิธีกรรมทางศาสนาต่างๆ อย่างต่อเนื่อง


“เราเห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ทุกคนดูมีความสุข มีรอยยิ้ม ได้พบปะพูดคุยกัน เวลามาเจอกันก็จะสนุกสนานจนลืมแก่ไปเลยก็มี เราต้องการให้ผู้สูงอายุทุกคนดูแลตัวเองได้ ไม่ต้องเป็นภาระของลูกหลาน ซึ่งแม้ว่าที่นี่จะยังอยู่กันแบบครอบครัวใหญ่ ไม่ได้เป็นครอบครัวเดี่ยวเหมือนสังคมเมือง แต่บางครั้งก็ไม่ค่อยได้คุยกับลูกหลานหรอก เดี๋ยวนี้มัวแต่ติดโทรศัพท์ แทบจะไม่ได้คุยกัน เพราะเราก็ไม่รู้จะคุยเรื่องอะไรกัน แต่บางทีเราก็เอาเรื่องที่เรามาคุยกันไปคุยให้ลูกๆ ฟัง ทำให้มีเรื่องได้พูดคุยกันมาสักครั้งหนึ่ง” ประธานชมรมผู้สูงอายุบ้านดอนซาก กล่าว


ขณะเดียวกันชมรมผู้สูงอายุบ้านดอนซาก ยังเข้าร่วมกิจกรรมของชุมชนเป็นประจำ เช่น การแข่งขันกีฬา ประชุมประจำเดือนก็จะมีการทานข้าวร่วมกันเพื่อกระชับความสัมพันธ์ รวมไปถึงการเยี่ยมบ้านผู้สูงอายุในชุมชนที่ติดติดบ้านติดเตียง แบบเพื่อนช่วยเพื่อน โดยขณะนี้มีผู้สูงอายุที่ติดบ้าน 5 ราย ติดเตียง 1 ราย สมาชิกจะไปเยี่ยมเพื่อให้กำลังใจเดือนละ 2 ครั้ง


ผู้สูงอายุบ้านดอนซาก ฟื้นชีวิตเพื่อนติดเตียง thaihealth


“ป้านงค์” อนงค์ แย้มพงษ์ วัย 70 ปี เป็นอีกหนึ่งที่ป่วยติดบ้าน เพราะแขน ขาไม่มีเรี่ยวแรง ต้องนั่งรถเข็นในการดำเนินชีวิต แต่เพราะการเข้าไปเยี่ยมของอาสาสมัครดูแลผู้สูงอายุ (อผส.) พร้อมด้วยการช่วยเหลือต่างๆ ทำให้ป้านงค์เริ่มเดินได้ แม้จะต้องใช้รถเข็นประคับประคองก็ตามทุกๆ วัน ทั้ง ลูกบอลทราย รอกยืด และวงล้อหมุน ตอนนี้สุขภาพจิตถือว่าดีมากส่วนร่างกายก็ดีขึ้นตามลำดับ จากที่เดินไม่ได้เลย ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลย ต้องมีคนดูแล 24 ชม. ตอนนี้ไปไหนใกล้ๆ พอได้บ้าง แต่ต้องใช้มือจับรถเข็นแล้วค่อยๆ ไป ดีกว่าแต่ก่อนเยอะ” ป้านงค์ ว่า


ผู้สูงอายุบ้านดอนซาก ฟื้นชีวิตเพื่อนติดเตียง thaihealth


ขณะที่ “ลุงหวอง” หรือ สหวอง แจ้งสิน วัย 82 ปี เป็นหนึ่งในผู้สูงอายุที่เคยป่วยเป็นอัมพฤกษ์ครึ่งซีก จนเดินไม่ได้ แต่เมื่อมาออกกำลังกายร่วมเพื่อนๆ วันนี้ลุงหวอง จึงสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ เดินไปไหนมาไหนได้


ลุงหวอง เล่าว่า เมื่อปี 2556 ตนป่วยเส้นเลือดสมองตีบ จนเป็นอัมพฤกษ์ซีกซ้าย เดินไม่ได้ ต้องมีลูกมาคอยดูแล และต้องเสียเวลาไปรักษาที่ รพ. นานหลายปี ทั้งทานยาและกายภาพบำบัด จนเมื่อปีที่ผ่านมา ทราบว่าทางชมรมมีกิจกรรมออกกำลังกายจึงเข้าร่วม ก็เห็นว่าร่างกายดีขึ้นต่อเนื่อง แขน ขา มีเรี่ยวแรงกว่าแต่ก่อน พอหยุดไป ก็รู้สึกปวดเนื้อปวดตัวไม่สบาย จึงมาออกกำลังกายอีกครั้งอย่างต่อเนื่อง “เดี๋ยวนี้หยุดออกกำลังกายไม่ได้เลย เดี๋ยวมันปวดขึ้นมาอีก” ลุงหวอง บอกและว่า ผู้สูงอายุถ้าเจ็บป่วย จะท้อแท้ไม่ได้ ท้อเมื่อไหร่อาการทรุดลงเมื่อนั้น และเป็นเร็วมาก โชคดีที่มีลูกหลานคอยดูแล และกำลังใจจากเพื่อนๆ ผู้สูงอายุด้วยกัน ทำให้อยู่ได้ต่อไป


ด้วยการเข้าร่วมโครงการเสริมสร้างสุขภาพผู้สูงอายุในชุมชน ของ สสส. ทำให้ผู้สูงอายุบ้านดอนซากได้มีเรื่องราวพูดคุย ได้พบปะกันมากขึ้น นำมาซึ่งการส่งเสริมกิจกรรมต่าง ทำให้วันนี้ผู้สูงอายุแห่งบ้านดอนซาก จึงมีความสุขทั้งกาย ใจและปัญญา

Shares:
QR Code :
QR Code