ผวาโรค NCDs สสส.จับมือ WHO เจ้าภาพถกรับมือ
ที่มา : หนังสือพิมพ์บ้านเมือง
แฟ้มภาพ
สสส.-WHO ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดประชุมนานาชาติ "ISPAH 2016" ครั้งแรกในเอเชีย "ส่งเสริมกิจกรรมทางกาย" ถกปัญหา โชว์กว่า 600 งานวิจัย WHO ชี้ ทั่วโลกตายจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรังปีละ 35 ล้านคน ห่วง 3.2 ล้านคนอาจเสียชีวิต เพราะกิจกรรมทางกายไม่พอ
ศ.นพ.อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม ที่ปรึกษาคณะกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดการประชุมนานาชาติด้านการส่งเสริมกิจกรรมทางกายและสุขภาพครั้งที่ 6 กล่าวว่า ในระหว่างวันที่ 16-19 พฤศจิกายนนี้ สสส. ร่วมกับสมาพันธ์นานาชาติด้านการส่งเสริมกิจกรรมทางกายและสุขภาพ และองค์การอนามัยโลกเป็นเจ้าภาพจัดประชุมนานาชาติด้านการส่งเสริมกิจกรรมทางกายและสุขภาพ ครั้งที่ 6 (The 6th International Congress on Physical Activity and Health 2016 : ISPAH 2016 Congress) จัดขึ้นที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งมีกระทรวงสาธารณสุข และกรุงเทพมหานคร เป็นเจ้าภาพร่วม
ทั้งนื้ถือเป็นครั้งแรกที่การประชุมนี้ถูกจัดขึ้นในภูมิภาคเอเชีย โดยมี พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุม ซึ่งปัญหาสาธารณสุขในปัจจุบันที่เกิดจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรังทวีความรุนแรงมากขึ้น ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (WHO) พบว่าแต่ละปีประชากรโลก 35 ล้านคน ต้องเสียชีวิตไปเพราะโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ ความดัน มะเร็ง เบาหวาน ซึ่งมีสาเหตุสำคัญเกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน ที่มีปัจจัยเสี่ยงสำคัญมาจาก เหล้า บุหรี่ อาหาร และขาดกิจกรรมทางกาย
"คนยุคนี้ถูกตรึงไว้กับหน้าจอ จนเกิดพฤติกรรมเนือยนิ่ง แต่ละวันพบว่าคนจะใช้เวลาติดจอ 6-7 ชั่วโมง โดยรวมแล้วมีพฤติกรรมเนือยนิ่ง 13.42 ชั่วโมงต่อวัน ทั้งนี้ประชากรผู้ใหญ่ทั่วโลกประมาณ 1 ใน 4 ยังมีกิจกรรมทางกายน้อยกว่า 30 นาทีต่อวัน ที่น่ากังวลคือ WHO คาดคะเนว่าการมีกิจกรรมทางกายไม่เพียงพอ จะเป็นสาเหตุการเสียชีวิตของประชากรโลกถึงร้อยละ 5.5 หรือประมาณ 3.2 ล้านรายต่อปี"
ศ.นพ.อุดมศิลป์ชี้ว่า การประชุมนานาชาติฯ หรือ ISPAH 2016 ในครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสดีที่ประเทศไทย และอีก 80 ประเทศทั่วโลก ร่วมกว่า 800 คนที่เข้าร่วมประชุม จะได้ร่วมกันพัฒนายุทธศาสตร์กิจกรรมทางกายที่เหมาะสมกับบริบทของแต่ละประเทศ พร้อมต่อยอดนำไปสร้างเสริมหรือพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ที่เอื้อให้ประชากรมีกิจกรรมทางกายเพิ่มขึ้นในทุกช่วงวัย ซึ่งกิจกรรมไฮไลท์ในการประชุมที่น่าสนใจคือ การนำเสนอผลงานวิจัยกิจกรรมทางกายในด้านต่างๆ กว่า 600 ชิ้น และการเปิดเผยรายงานสถานการณ์การมีกิจกรรมทางกาย 2 รายงานสำคัญคือ Country Card รายงานเปรียบเทียบการมีกิจกรรมทางกายของประชากรใน 67 ประเทศทั่วโลก และ Report Card รายงานการมีกิจกรรมทางกายของเยาวชนใน 38 ประเทศทั่วโลก ซึ่งสามารถเปรียบเทียบประเทศไทยกับประเทศอื่นได้ และที่สำคัญในพิธีปิดการประชุมจะมีการประกาศปฏิญญากรุงเทพ (Bangkok Declaration) ที่จะนำไปสู่การผลักดันการขับเคลื่อนและเปลี่ยนแปลงทัศนคติ พฤติกรรม ไปจนถึงนโยบายส่งเสริมกิจกรรมทางกายทั้งในระดับชาติและนานาชาติ