ผลักดันยุติเอดส์ในไทย
ที่มา : ไทยโพสต์
แฟ้มภาพ
เผยคนติดเชื้อเอชไอวีในไทยยังสูง 4.8 แสนราย หรือมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มกว่า 6.4 พันราย/ปี กรุงเทพฯ เป็นพื้นที่เสี่ยงสุด จับมือกับศูนย์ความร่วมมือไทย-สหรัฐ ด้านสาธารณสุขผลักดันเป้าหมาย 95-95-95 หรือลดอัตราการติดเชื้อ การเสียชีวิต และการเลือกปฏิบัติให้ได้ในปี 2573
นพ.ปรีชา เปรมปรี รองอธิบดีกรมควบคุมโรค พร้อมด้วย นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ Dr.Thierry Roels ผู้อำนวยการโครงการ เอชไอวีและวัณโรคโลก สำนักงานประจำประเทศไทยและภูมิภาคเอเชีย ศูนย์ความร่วมมือไทย-สหรัฐ ด้านสาธารณสุข และ นพ.สุขสันต์ กิตติศุภกร ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร ร่วมเปิดโครงการเครือข่ายยุติเอดส์ในกรุงเทพมหานคร (Network to Ending AIDS in Bangkok : NEAB) ซึ่งประเทศไทยได้แสดงเจตนารมณ์อย่างมุ่งมั่นที่จะยุติปัญหาเอดส์ภายในปี 2573 โดยขับเคลื่อนยุทธศาสตร์แห่งชาติว่าด้วยการยุติปัญหาเอดส์ พ.ศ.2560-2573 มีเป้าหมายหลัก 3 ประการ "ไม่ติด-ไม่ตาย-ไม่ตีตรา" ดังนี้ 1.ลดการ ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ เหลือไม่เกิน 1,000 รายต่อปี 2.ลดการเสียชีวิตในผู้ติดเชื้อเอชไอวี เหลือปีละไม่เกิน 4,000 ราย และ 3.ลดการเลือกปฏิบัติ อันเกี่ยวเนื่องจากเอชไอวี และเพศภาวะลงจากเดิมร้อยละ 90 โดยจะดำเนินงานให้สอดคล้องกับเป้าหมายโลกให้บรรลุ 95-95-95 ในปี 2573
นพ.ปรีชา เปรมปรี รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์โรคเอดส์ในประเทศไทย ปี 2561 คาดประมาณจำนวนผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่ยังมีชีวิตอยู่ประมาณ 480,000 คน กำลังรับยาต้านไวรัส 358,606 คน มีผู้เสียชีวิตเนื่องจากเอชไอวี 18,000 คน และติดเชื้อรายใหม่ 6,400 คน ซึ่งพบว่ากรุง เทพมหานครเป็นจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่มากที่สุด และเป็นพื้นที่ที่มีความชุกของการติดเชื้อเอชไอวีและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์สูง แต่การให้บริการดูแลรักษาเอชไอวียังไม่ครอบคลุม ทำให้ในปี 2563 รัฐบาลสหรัฐได้สนับสนุนงบ ประมาณเพิ่มเติมให้กับกรุงเทพ มหานครและกระทรวงสาธารณ สุข เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพระบบบริการ ป้องกัน ดูแลรักษา กลุ่มเสี่ยง ผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ และระบบข้อมูลให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น โดยจะเพิ่มโรงพยาบาลชั้นนำอีก 9 แห่ง ซึ่งเป็นโรงพยาบาลภาครัฐขนาดใหญ่ที่ผู้ติดเชื้อฯ จำนวนมากกำลังรับการดูแลรักษาอยู่ พร้อมเรียนรู้จากโรงพยาบาลในเครือข่ายให้เป็นต้นแบบการยุติปัญหาเอดส์ในกรุงเทพมหานคร เพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย "เสี่ยงแล้วไม่ติด ติดแล้วกินยา กินยาอย่างสม่ำเสมอ"
"ทั้งนี้ ประเทศไทยกำลัง ก้าวเข้าสู่เป้าหมายการยุติปัญหา เอดส์ โดยกระทรวงสาธารณสุขได้ผลักดันนโยบาย เช่น การสนับสนุนงบประมาณ เวชภัณฑ์ ยา และการตรวจทางห้องปฏิบัติการที่เพียงพอ ให้ครอบคลุมทุกกลุ่มประชากร พร้อมสนับสนุนให้มีกองทุนสุขภาพให้สิทธิประโยชน์ในการตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวีและยาต้านไวรัส เพื่อการรักษาฟรี เริ่มด้วยการให้ยาป้องกันก่อนการสัมผัสเชื้อเอชไอวี (PrEP) ฟรี ร่วมกับการใช้ถุงยางอนามัย ในประชากรที่มีพฤติกรรมเสี่ยง รวมทั้งเร่งหาแนวทางให้กับคนที่ไร้สิทธิ และลดช่องว่างของแต่ละสิทธิ์ เพื่อให้ทุกคนที่อยู่ในประเทศไทยได้เข้าถึงบริการป้องกันและดูแลรักษาอย่างครอบคลุม พร้อมจัด บริการและระบบส่งต่ออย่างมี ประสิทธิภาพ ทั้งในภาครัฐ เอก ชน องค์กรภาคประชาสังคมให้ครอบคลุมทุกสิทธิประโยชน์" นพ.ปรีชากล่าว