ผนึกกำลังหลายหน่วยงานลดอุบัติเหตุสงกรานต์

ที่มา : มติชนออนไลน์ 


ภาพประกอบจากมติชนออนไลน์ 


ผนึกกำลังหลายหน่วยงานลดอุบัติเหตุสงกรานต์ thaihealth


สธ.ผนึกกำลังหลายหน่วยงานลดอุบัติเหตุช่วงสงกรานต์


เมื่อวันที่ 4 เมษายน ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อมด้วย นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผู้บังคับการกองแผนงานพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก นพ.อัจฉริยะ แพงมา เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) ทพ.ศิริเกียรติ เหลียงกอบกิจ รักษาการผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และนายจุมพฎ วรรณฉัตรสิริ ผอ.กองบูรณาการความปลอดภัยทางถนน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ร่วมกันแถลงข่าวร่วมมือร่วมใจ สุขใจเทศกาลสงกรานต์” ระหว่างวันที่ 11-17 เมษายนนี้


นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร กล่าวว่า ทางกระทรวงสาธารณสุขได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อลดอุบัติเหตุทางถนนอย่างเข้มงวด และเตรียมความพร้อมบุคลากรทางการแพทย์ อุปกรณ์ ยาเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ ระบบการส่งต่อผู้ป่วยทั้งทางบก ทางอากาศ เพื่อรองรับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นอยู่แล้ว แต่ถึงแม้จะมีความพร้อมมากเพียงใดก็ไม่อยากเห็นความสูญเสียที่เกิดขึ้น ดังนั้นขอให้ประชาชนเดินทางกลับบ้านด้วยความระมัดระวัง เมาไม่ขับ คาดเข็มขัดนิรภัย สวมหมวกกันน็อก และทำให้เป็นนิสัยตลอดทั้งปีเพื่อลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุ อย่างไรก็ตาม หากเกิดอุบัติเหตุ หรือเจ็บป่วยฉุกเฉินถึงแก่ชีวิตสามารถเข้ารับการรักษาได้ทุกรพ.ฟรี 72 ชั่วโมงแรก แต่หากไม่ใช่กรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินถึงแก่ชีวิต ก็สามารถเข้าได้ทุกรพ.เช่นกัน แต่เป็นการรักษาตามสิทธิ หากโทร 1669


ผนึกกำลังหลายหน่วยงานลดอุบัติเหตุสงกรานต์ thaihealth


นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า ช่วงสงกรานต์ปี 60 มีคนเสียชีวิต 440 คน บาดเจ็บนอนรพ. 4,141 ราย สูงสุดในวันที่ 13 เมษายน คิดเป็นร้อยละ 21 สูงสุดในกลุ่มคนขับรถจักรยานยนต์ และเป็นถนนสายรอง ช่วงเวลาที่เกิด 15.00-20.00 น. ซึ่งเป็นช่วงที่กฎหมายอนุญาตให้ขายสุราได้ ทำให้เป็นสาเหตุการเกิดอุบัติสูงถึงร้อยละ 43 นอกจากนี้ยังพบว่าในจำนวนผู้บาดเจ็บทั้งหมดนั้นเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี และมีการดื่มสุรา 1,669 ราย ดังนั้นปีนี้ จะต้องมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยให้สำนักงานป้องกันควบคุมโรคทุกแห่ง ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดในการออกตรวจเข้มข้นก่อนเทศกาลสงกรานต์เลย โดยเฉพาะพื้นที่จัดกรรมกรรมขนาดใหญ่ ซึ่งช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 60 มีการสุ่มตรวจไป 3,264 แห่ง พบการทำผิดจำนวนมากทั้งการโฆษณา ลด แลก แจก แถม ขายในพื้นที่ห้ามขาย ขายให้เด็ก เป็นต้น ในจำนวนนี้สามารถส่งดำเนินคดีได้ 159 ราย


นายจุมพฎ กล่าวว่า แผนการดูแลเทศกาลสงกรานต์ปีนี้เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน แล้ว แต่จะมีความเข้มข้นอย่างมากในวันที่ 11-17 เมษายน โดยเฉพาะใน 198 อำเภอเสี่ยง และ 1 เขตเสี่ยงสูงในกทม. จะมีการตั้งด่าน ค้นหาคนเสี่ยง ยึดกุญแจรถ เป็นต้น ทั้งนี้ขอย้ำว่าหากเกิดอุบัติเหตุแล้วมีการดื่มแอลกอฮอล์ร่วมด้วย มีจะมีโทษหนักขึ้น หากมีคนตายก็จะยิ่งมีโทษหนักขึ้นไปอีก นอกจากนี้ ในกรณีที่มีการทำประกันภัยภาคสมัครใจนั้นหากพบว่ามีแอลกอฮอล์เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ประกันจะไม่จ่ายเงินเด็ดขาด ซึ่งจากข้อมูลช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา พบว่ามีเคสที่ประกันไม่จ่ายราวๆ 9-14 ล้านบาท ดังนั้นขอให้ประชาชนตระหนักว่าหากดื่มแอลกอฮอล์แล้วอย่าขับรถ หากขับไปเกิดอุบัติเหตุแล้วจะมีโทษหนักมาก แถมประกันฯ ไม่จ่ายเงินด้วย


พล.ต.ต.ธนชาติ กล่าวว่า ทางตำรวจจะดู 2 เรื่อง คือจัดการจราจรเพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางมากที่สุด และการบังคับใช้กฎหมายเพื่อลดอุบัติเหตุอย่างเข้มข้น ซึ่งหากเกิดอุบัติเหตุมีคนเจ็บแล้วจะต้องคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายต้องเป่าวัดระดับแอลกอฮอล์ หากไม่รู้สึกตัวเป่าแอลกอฮอล์ไม่ได้ก็จะมีใบส่งตัวไปยังรพ.เพื่อให้ดำเนินการตรวจเลือดวัดระดับแอลกอฮอล์ทุกราย และต้องขอขอบคุณกระทรวงสาธารณสุขที่ช่วยค่าใช้จ่ายในส่วนนี้


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมควบคุมโรคได้จัดทำเอกสารเผยแพร่ผลการตรวจวัดแอลกอฮอล์ในเลือด ในรพ.สังกัดกระทรวงสาธารณสุขช่วงเทศกาลสงกรานต์ 60 พบว่ามีการส่งตรวจ 705 ราย พบว่าผู้ขับขี่มีแอลกอฮอล์ในเลือดมากกว่าร้อยละ 60 โดยแบ่งเป็นคนที่มีแอลกอฮอลในเลือดสูงกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ร้อยละ 57.29 ผู้ที่มีแอลกอฮอล์ในเลือดต่ำกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ อยู่ที่ร้อยละ 3.95 และไม่พบแอลกอฮอล์ ร้อยละ 38.77

Shares:
QR Code :
QR Code