ป่วยลมชัก ห้ามขับรถเด็ดขาด!

/data/content/24685/cms/e_abcfjkmpqsu4.jpg


          แพทย์ประสาทเตือนป่วยลมชักห้ามขับรถเด็ดขาด


          น.พ.สมชาย โตวณะบุตร ผู้ทรงคุณวุฒิอายุรกรรม สาขาประสาทวิทยา สถาบันประสาทวิทยา ในฐานะนายกสมาคมโรคลมชักแห่งประเทศไทย กล่าวถึงกรณี นายบัวลำ โง๊ะบุดดา ผอ.ร.ร.วังน้ำขาวชินูปถัมภ์ อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู เกิดอาการลมชักขณะขับรถ จนพุ่งชนนักเรียนเสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บอีก 7 คน ว่า โรคลมชักเกิดจากความผิดปกติของเซลล์สมองบริเวณผิวสมอง ซึ่งจะปล่อยกระแสไฟฟ้าออกมาจนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ซึ่งสมองจะมีส่วนของการมองเห็น การได้ยิน การควบคุมกล้ามเนื้อและความรู้สึก ทั้งนี้ หากเซลล์สมองเกิดความผิดปกติบริเวณส่วนของการควบคุมกล้ามเนื้อ ก็จะเกิดอาการเหมือนถูกไฟฟ้าช็อต เกร็ง และกระตุก ซึ่งคาดว่ารายนี้ก็น่าจะเกิดจากส่วนนี้


          สำหรับรายของ ผอ.ร.ร.วังน้ำขาว คาดว่า อาจเกิดจากอาการชักขึ้นมา ซึ่งตนไม่แน่ใจว่า ผอ.ร.ร.วังน้ำขาว รู้ตัวมาก่อนหรือไม่ว่าป่วยโรคลมชัก ซึ่งต้องสอบถามจากเจ้าตัว รวมถึงให้แพทย์ที่ทำการรักษาอยู่เป็นผู้วินิจฉัยว่าผู้ป่วยรู้ตัวมาก่อนหรือไม่ ซึ่งหากรู้ตัวว่าป่วยแล้วไม่กินยาอย่างต่อเนื่องถือว่าเป็นความประมาท แต่ถ้าไม่รู้ตัวมาก่อนว่าป่วยก็ถือว่าเรื่องนี้จะกลายเป็นอุบัติเหตุ


          "การรักษาผู้ป่วยโรคลมชักจะแนะนำทุกครั้งว่าไม่ควรขับรถ เพราะหากอาการกำเริบขึ้นมา ไม่เพียงตัวเองที่จะบาดเจ็บ ยังอาจเกิดอุบัติเหตุต่อชีวิตผู้อื่นเช่นกรณีนี้ด้วย ที่น่าห่วงคือประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายห้ามคนเป็นโรคลมชักขับรถ หากเป็นยุโรป หรือสหรัฐอเมริกา จะมีกฎหมายระบุไว้ชัดเจนว่าห้ามขับรถ เว้นแต่มีใบรับรองแพทย์ยืนยันว่าผู้ป่วยมีการกินยาอย่างต่อเนื่อง และไม่เคยเกิดอาการชักอย่างต่ำ 6 เดือน-1 ปี จึงจะสามารถขับรถได้" น.พ.สมชาย กล่าว


 


 


          ที่มา : หนังสือพิมพ์บ้านเมือง


          ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต

Shares:
QR Code :
QR Code