ปุ๋ยอินทรีย์บางระกำ วิชาใดไหนเล่า จะเทียบเท่าภูมิปัญหา

 

ปุ๋ยอินทรีย์บางระกำ วิชาใดไหนเล่า จะเทียบเท่าภูมิปัญหา

 

ระบบเศรษฐกิจชุมชน และสวัสดิการ คือรากฐานของการพัฒนาท้องถิ่น ซึ่งหมายถึงการพึ่งพาตนเอง และดูแลกันเอง โดยใช้ชุมชนเป็นฐาน มิใช่การลงทุนในสาธารณูปโภคพื้นฐาน การส่งเสริมให้ชุมชนเข้มแข็งพึ่งตนเอง จะทำให้คนไม่ต้องอพยพไปทำงานในเมืองใหญ่ สถาบันครอบครัวและชุมชนจะฟื้นฟูความเข้มแข็งขึ้นมาใหม่ เด็กเยาวชน ประชาชนในชุมชนได้รับการดูแล และมีโอกาสพัฒนาในทางที่ดีขึ้น

แต่ละชุมชนมีศักยภาพ ที่จะพัฒนาตนเอง ด้วยแต่ละแห่งหนล้วนมีภูมิปัญญาท้องถิ่น ที่สามารถยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน และตอบสนองต่อปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการอนุรักษ์สภาพแวดล้อม และการสร้างความสุขทางจิตใจ

ที่ชุมชนตำบลบางระกำ อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม ให้ความสำคัญกับหลักคิดนี้ เน้นการพึ่งพาตัวเอง ทั้งการเสริมสร้างรายได้ การปรับชีวิตให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสังคม

อย่างสิ่งที่ลุงสมเกียรติ สุนทรไพศาล ทำมาตลอด 20 ปี ก็คือการเกษตรปลอดภัย โดยเขาเชื่อว่า ไม่มีอาหาร ไม่มีวัตถุดิบใดที่ ปลอดภัยแท้จริง ด้วยว่าต้องปนเปื้อนไม่มากก็น้อย จากทางใดทางหนึ่ง ตั้งแต่การผลิตไปจนถึงขั้นตอนสุดท้ายอย่างการขนส่ง

การเกษตรปลอดภัยของลุสมเกียรติ คือการเกษตรอินทรีย์ การทำปุ๋ยอินทรีย์ตามที่เข้าใจกัน หากแต่ที่เรียกเช่นนั้น เพราะลุงสมเกียรติต้องการทำปุ๋ยอินทรีย์ให้ปลอดภัยต่างหาก

“ปลอดภัยต่างจากสารพิษนะครับ คือมันปลอดภัยพอที่จะบริโภคแล้วไม่เกิดโรค ไม่เป็นอันตรายต่อตัวเรา และสิ่งแวดล้อม นี่คือความจริงสำหรับการเกษตรใน พ.ศ. นี้ที่แท้จริง” ลุงสมเกียรติเล่า

ลุงสมเกียรติร่วมกับ อบต. จัดตั้งศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงตำบลบางระกำ เริ่มจากน้ำหมักชีวภาพของลุงที่หมักนานกว่า 1 ปี จนเป็นหัวเชื้อผสมลงในเม็ดปุ๋ย จากนั้นเข้าเครื่องผสมจนได้เป็นเม็ดออกมาใส่กระสอบ เรียกกันว่า ‘ปุ๋ยอินทรีย์บางระกำ’

น้ำหมักชีวภาพสูตรของลุงสมเกียรตินั้นไม่ต่างจากน้ำหมักที่อื่นๆ โดยการนำผลไม้หรือพืชผัก หรือเศษอาหาร 3 ส่วน น้ำตาล 1 ส่วน น้ำ 10 ส่วน ใส่รวมกันในภาชนะ (ขวด, ถัง) ที่มีฝาปิดสนิท อย่าให้อากาศเข้าโดยเว้นที่ว่างไว้ประมาณ 1 ใน 5 ของขวด/ถัง หมั่นเปิดฝาคลายแก๊สออก และปิดกลับให้สนิททันที วางไว้ในที่ร่ม อย่าให้ถูกแสงแดด หมักไว้ 1 ปี ก็จะได้น้ำหมักชีวภาพ ซึ่งมีจุลินทรีย์ สารอินทรีย์ ธาตุอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสิ่งมีชีวิต

ลุงสมเกียรตินำน้ำหมักที่ว่านี้ ผสมลงในเม็ดปุ๋ยเข้าเครื่องผสมจนได้ที่ ซึ่งดีต่อพืชแล้ว ยังดีต่อสิ่งแวดล้อมด้วย และนอกจากใช้ทำปุ๋ย เอาไปใช้ซักล้างทำความสะอาดแทนสบู่ ผงซักฟอก แชมพู น้ำยาล้างจาน หรือจะใช้ดับกลิ่นในห้องน้ำ โถส้วม ท่อระบายน้ำก็ได้

กรณีที่ไม่ได้นำไปทำปุ๋ย ลุงสมเกียรติอิบายว่า หมักแค่ 3 เดือนก็พอแล้ว ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ นอกจากเป็นทางเลือกของเกษตรกรสำหรับใช้ในการป้องกันกำจัดศัตรูพืช โดยไม่ต้องใช้สารเคมีแล้ว ชาวบ้านทั่วไปก็นำสูตรที่ว่านี้ไปใช้ได้ โดยลุงสมเกียรติไม่หวงสูตร

“ผมแก่แล้ว ลูกๆ โตกันหมด ผมไม่มีอะไรต้องห่วง” ลุงสมเกียรติปิดท้าย

 

 

ที่มา : ปันสุข

Shares:
QR Code :
QR Code