ปั้นชุมชนพึ่งตนเอง ยกระดับเกษตรอินทรีย์
ที่มา : หนังสือพิมพ์สยามรัฐ
ภาพประกอบจากเว็บไซต์มติชน
จากการใช้เวลาบ่มเพาะประสบการณ์ เก็บเกี่ยวความรู้ การทำงานส่งเสริมเกษตรอินทรีย์กับเกษตรกรเครือข่ายใน จ.นครปฐม และพื้นที่ใกล้เคียง ร่วมกับภาคีมายาวนานถึง 7 ปี ภายใต้การสนับสนุนของ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.)
วันนี้สามพรานโมเดล โดยการนำของ อรุษ นวราช ผู้บริหารสามพราน ริเวอร์ไซด์ และผู้ก่อตั้งสามพรานโมเดล ได้ก้าวไปสู่อีกบทบาทหนึ่งนั่นคือ ทำหน้าที่เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ ถ่ายทอดความรู้จากประสบการณ์ตรงในการขับเคลื่อนพัฒนาห่วงโซ่คุณค่าอุปทานอาหารอินทรีย์ ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ผ่านการอบรมหลักสูตรต่างๆ ให้กับองค์กรและหน่วยงาน ที่สนใจอย่างต่อเนื่องโดยใช้พื้นที่เครือข่ายสามพรานโมเดล เป็นต้นแบบแห่งการเรียนรู้เพื่อขยายเครือข่ายสร้างผู้นำร่วมในการเปลี่ยนแปลงระบบอาหารสมดุล
ทั้งนี้ล่าสุดฝ่ายกิจการเพื่อสังคมบริษัท น้ำตาลมิตรผล จำกัด มอบหมายให้เป็นที่ปรึกษาโครงการเชื่อมโยงผลผลิตเกษตรอินทรีย์จากชุมชนสู่โรงอาหารโรงงาน (From Farm to Factory) จัดอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนาส่งเสริมและเชื่อมโยงผลผลิตเกษตรอินทรีย์ ให้กับเจ้าหน้าที่ ฝ่ายพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน ฝ่ายธุรการโรงงานและเกษตรกรเครือข่าย ต.มิตรผลร่วมพัฒนา จ.ขอนแก่น และกาฬสินธุ์ จำนวน 40 คน เมื่อช่วงปลายเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา ณ โรงแรมสามพราน ริเวอร์ไซด์ จ.นครปฐม มีเป้าหมายเพื่อนำองค์ความรู้ไปพัฒนาให้เกิดการเชื่อมโยงอาหารปลอดภัยจากฟาร์มสู่โรงงาน และยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรสู่ผู้ประกอบการเกษตรอินทรีย์ หวังสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนสามารถพึ่งตนเองได้อย่างยั่งยืน
อรุษ อธิบายกระบวนการทำงานของหลักสูตรนี้ให้ฟังว่า ก่อนที่จะมีการอบรมทางทีมเจ้าหน้าที่มูลนิธิได้ลงพื้นที่ จ.ขอนแก่น และกาฬสินธุ์ เก็บข้อมูลมาทำการวิเคราะห์ ออกแบบโปรแกรมการอบรมให้เหมาะสมกับบริบทพื้นที่ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมอบรมได้รับความรู้และสามารถนำกลับไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งโชคดีว่า มิตรผลสร้างฐานไว้ดีมาก และมีการทำงานรูปแบบเดียวกับที่สามพรานโมเดลทำคือ เชื่อมธุรกิจกับชุมชน และมีทีมพัฒนาชุมชนที่ทำงานในพื้นที่อย่างเข้มแข็ง ขาดเพียงแค่ความเข้าใจเรื่องมาตรฐานเกษตรอินทรีย์และไม่มีเครื่องมือในการขับเคลื่อนซึ่งไม่ใช่เรื่องยาก
"มิตรผลมีฐานที่ดีอยู่แล้ว สามพรานโมเดลเข้ามาทำหน้าที่เติมเต็มในเรื่องเทคนิค สร้างความเข้าใจเรื่องมาตรฐานเกษตรอินทรีย์กระบวนการขับเคลื่อนต้นน้ำ โดยการใช้ระบบรับรองแบบมีส่วนร่วมเป็น เครื่องมือ แต่ก็ยังเน้นการเรียนรู้แบบครบวงจร ทั้งการวางแผนการผลิต ปัจจัยการผลิต แปรรูป การจัดการหลังการเก็บเกี่ยว และช่องทางการตลาดซึ่งเหล่านี้เป็นความรู้ที่สามารถนำกลับไปปรับใช้ได้ทันทีหลังจบการอบรม"
คมกริช นาคะลักษณ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานองค์กรสัมพันธ์ และบริหารองค์กร เพื่อความยั่งยืน บริษัท น้ำตาลมิตรผล จำกัด กล่าวว่า บริษัทต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตชุมชนที่อยู่รอบโรงงานให้เกิดความเข้มแข็ง พึ่งพาตนเอง และอยู่ได้อย่างยั่งยืน ซึ่งไม่ใช่แค่ส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกอ้อยอย่างเดียว แต่สอนให้เขาปลูกอยู่ปลูกกิน มีเหลือส่งขายให้กับโรงงาน แต่ไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะฝ่ายโรงงานและเกษตรกรเองยังไม่เข้าใจระบบเกษตรอินทรีย์ดีพอ จนได้เจอกับ คุณอรุษ ได้รู้จักสามพรานโมเดล ช่วยให้ทุกฝ่ายเข้าใจและเชื่อมั่นในวิถีเกษตรอินทรีย์ และเข้าถึงหัวใจสำคัญของการพึ่งพาตนเองได้อย่างชัดเจน การอบรมครั้งนี้ หวังให้ทั้งฝ่ายโรงงานและชุมชนได้เก็บเกี่ยวความรู้เพื่อนำกลับไปวางแผน สร้างข้อตกร่วมกันบนพื้นฐานการค้าที่เป็นธรรมเดินหน้าพัฒนาชุมชนของเราให้เข้มแข็งสามารถพึ่งตัวเองและอยู่ได้อย่างยั่งยืน
สำหรับหลักสูตรนี้ใช้เวลาอบรม 3 วัน เน้นให้ผู้เข้าร่วมอบรมเข้าใจเรื่องมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ ระบบรับรองแบบมีส่วนร่วม PGS ซึ่งถือเป็นเครื่องมือสำคัญในกระบวนการขับเคลื่อนต้นน้ำ ฟังบรรยายควบคู่กับการศึกษาดูงานในพื้นที่ต้นแบบเพื่อให้เห็นภาพได้ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น อย่างเช่น ดูการขับเคลื่อนของ กลุ่มเกษตรอินทรีย์บางช้างที่ผลิตผลไม้เป็นหลัก และกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรทฤษฎีใหม่หัวใจอินทรีย์ ผลผลิตผักเป็นหลัก ซึ่งทั้ง 2 กลุ่ม มีผู้นำที่เข้มแข็ง และใช้ระบบ PGS ในการขับเคลื่อน พัฒนาจนได้รับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์สากล IFOAM นอกจากนี้ยังได้ศึกษากระบวนการขับเคลื่อนกลางน้ำ การแปรรูปผลไม้อินทรีย์และเห็ดอินทรีย์ ของ Happylife Farm (วิสาหกิจชุมชนแปรรูปผลิตภัณฑ์อาหารตำบลสระพัฒนา) พร้อมทั้งได้เรียนรู้เรื่องปัจจัยการผลิตการ ดูระบบการจัดการแปลงปลูกพืชผสมผสาน ที่ สุขใจออร์แกนิกฟาร์ม สวนเกษตรอินทรีย์มาตรฐานสากล IFOAM EU และ CANADA ของโรงแรม รวมถึงเยี่ยมชมตลาดสุขใจหนึ่งช่องทางการตลาดสำคัญของเกษตรกรเครือข่ายสามพรานโมเดล