‘ปั่น ปัน ปัญญา’ เพื่อเด็กและชุมชน
การอ่านนอกจากเป็นอาหารสมองที่ดีแล้ว ยังมีส่วนช่วยในการส่งเสริมพัฒนาการทางด้านอารมณ์และจิตใจให้แก่ผู้อ่านด้วย ยิ่งผู้อ่านได้รับความสนุกสนาน เพลิดเพลินจากเรื่องที่อ่านมากเท่าไหร่ การเรียนรู้ก็ยิ่งพัฒนาขึ้นเท่านั้น การอ่านกับเด็กจึงเป็นสิ่งสำคัญที่คุณครูควรปลูกฝังและส่งเสริมให้เด็กรักการอ่านตั้งแต่ยังเล็กแต่ปัจจุบันก็ยังพบว่าเด็กไทยยังอ่านหนังสือกันน้อยลง
โดยทางสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และภาคีเครือข่าย จ.ระนอง ขับเคลื่อนโครงการ "ปั่น ปัน ปัญญา" ระดมหนังสือคุณภาพให้โรงเรียนบ้านเกาะพยาม พร้อมชูออกกำลังกายควบคู่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศ สร้างแรงบันดาลใจสู่เมืองวิถีสุขภาวะ เพื่อเปิดโอกาสการเข้าถึงหนังสือ สื่อการอ่าน และกิจกรรมส่งเสริมการอ่านในทุกครอบครัว
นายสุริยันต์ กาญจนศิลป์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เป็นประธานในการเปิด งานปั่น ปัน ปัญญา : หนังสือที่รัก เพื่อเมืองที่รัก @เกาะพยาม พร้อมปล่อยขบวนจักรยานเพื่อนำหนังสือคุณภาพไปมอบแก่โรงเรียนบ้านเกาะพยาม โดย นายสุริยันต์ กล่าวว่า เกาะพยามกำลังได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะมีความงามทางธรรมชาติที่ชาวชุมชนรักษาไว้ การจัดกิจกรรม "ปั่น ปัน ปัญญา" หนังสือที่รักเพื่อเมืองที่รัก ระดมหนังสือคุณภาพเพื่อเด็กๆ ในครั้งนี้ ถือเป็นการวางรากฐานแห่งการอ่าน ต่อยอดยกระดับให้จังหวัดระนองเป็นนครแห่งการอ่าน ที่มีการส่งเสริมการอ่านอย่างทั่วถึงต่อไป โดยนอกจากจะส่งเสริมการอ่าน ส่งเสริมการออกกำลังกายแล้ว ยังสร้างค่านิยมการอนุรักษ์ธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม ด้วยการใช้จักรยานบนเกาะ และชาวจักรยานยังได้ร่วมกันจัดกิจกรรม "เกาะพยามสะอาดด้วยมือทุกคน" ด้วยการเก็บขยะเพื่อเป็นตัวอย่างแก่นักท่องเที่ยวด้วย
ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า สสส.ร่วมกับภาครัฐและภาคเอกชน รณรงค์ให้มีการใช้จักรยานเป็นชีวิตประจำวัน พร้อมเพิ่มพื้นที่สุขภาวะในทุกจังหวัดด้วยยุทธศาสตร์ 3 ส. คือ "1 เส้นทาง 1 สนาม และ 1 สวน" ซึ่งแต่ละจังหวัดสามารถออกแบบตามบริบทที่เหมาะสม ให้มีใน 1 เส้นทางจักรยานที่ระยะทางไม่น้อยกว่า 3 กิโลเมตร และใช้ 1 สนาม 1 สวน คือ ใช้สนามกีฬาและสวนสาธารณะที่มีอยู่แล้ว จัดให้มีเส้นทางจักรยานเพื่อการพักผ่อนและการออกกำลังกาย ประกอบกับแผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน ได้มีโครงการ "ปั่น ปัน ปัญญา" ที่เกิดขึ้นตั้งแต่วิกฤติน้ำท่วมครั้งใหญ่ โดยร่วมมือกับสมาคมชมรมจักรยานในจังหวัดต่างๆ ระดมหนังสือคุณภาพส่งมอบแก่พื้นที่ที่ประสบภัย จนได้รับคำชื่นชมและความร่วมมือจากหลายฝ่าย ซึ่งในปีนี้ได้ผนวกการออกกำลังกายและการแบ่งปันความสุขเพื่อเด็กและชุมชน มาเป็นโครงการ "ปั่น ปัน ปัญญา : หนังสือที่รัก เพื่อเมืองที่รัก" ซึ่ง สสส.สนับสนุน จ.ระนองเป็นโมเดลต้นแบบ "เมืองวิถีสุขภาวะ" ที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้จังหวัดอื่นๆ ต่อไป
ด้าน นางสุดใจ พรหมเกิด ผู้จัดการแผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน สสส. กล่าวว่า ที่ผ่านมาแผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่านได้ลงพื้นที่ทำงานอย่างต่อเนื่อง พบว่าการอ่านหนังสือคุณภาพนอกจากจะช่วยสร้างความสุข เสริมความรู้และจินตนาการสำหรับเด็กแล้ว การอ่านยังทำให้เกิดการพัฒนาด้านอาชีพในชุมชน เช่น พื้นที่มัสยิดดารุสลาม จังหวัดกระบี่ ครั้งนี้ นักปั่นนักจิตอาสาได้ช่วยกันระดมหนังสือคุณภาพมอบหนังสือเพื่อห้องสมุดโรงเรียนบ้านเกาะพยาม และมอบตู้หนังสือให้แก่น้องๆ ชนเผ่ามอแกน รวมถึงจัดให้มีมุมการอ่านและแลกเปลี่ยนหนังสือในชุมชนจุดต่างๆ เปิดโอกาสการเข้าถึง "การอ่าน" แก่ชาวบ้านบนเกาะและนักท่องเที่ยว รวมถึงสร้างการเรียนรู้วางรากฐานแห่งการอ่านต่อไป
ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์