‘ปั่นปอดยิ้ม’… สร้างเอ็นโดรฟินเลิกบุหรี่

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์


ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ


'ปั่นปอดยิ้ม'... สร้างเอ็นโดรฟินเลิกบุหรี่ thaihealth


เช้าตรู่วันที่ 10 ก.ค. ที่ผ่านมา ณ บริเวณลานหน้าเสาธงกระทรวงสาธารณสุข มีงานเปิดตัว งาน "6×4 รวมใจ ปั่น ปลุก ลุก สร้างกระแสรณรงค์โครงการ 3 ล้าน 3 ปี เลิกบุหรี่ทั่วไทยเทิดไท้องค์ราชัน ปีที่ 3" ภายใต้แนวคิด "ปั่นปอดยิ้ม" โดยมี  นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์  รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดงาน


งานดังกล่าวเป็นการรวมกลุ่มของบุคลากรด้านสาธารณสุข กว่า 500 คน จากทุกภาคของประเทศไทยประกอบด้วย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สมาคมหมออนามัย สมาคมสาธารณสุขแห่งประเทศไทย มูลนิธิเครือข่ายหมออนามัย สมาคมวิชาชีพสาธารณสุข และชมรมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน เพื่อมาร่วมสร้างสัญลักษณ์และประกาศความมุ่งมั่นพร้อมกันว่าจะร่วมเป็นส่วนหนึ่งช่วยให้คนไทยเลิกบุหรี่


นายมงคล เงินแจ้ง นายกสมาคมหมออนามัยแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เครือข่ายหมออนามัย โดยสาธารณสุขอำเภอทุกอำเภอทั่วประเทศ 878 อำเภอ เป็นแกนนำแสดงพลังผลักดันการขับเคลื่อนองค์กร และเครือข่าย โดยออกมาปั่นจักรยานจากทั่วทุกภาคทั้งประเทศ มีทีมปั่นทั้งหมด 8 สาย ผ่าน 63 จังหวัด ตามโครงการ 6 x 4  รวมใจ ปั่น ปลุก ลุกฯ ซึ่งมีความหมายถึงการร่วมมือรวมพลังการทำงานของ 6 องค์กรหลัก ปั่นจักรยานเพื่อมาแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันทั้ง 4 ภาค เชิญชวนให้คนไทย สมัครใจเลิกบุหรี่ให้ได้ 3 ล้านคน ตามเป้าหมายโครงการ 3 ล้าน 3 ปี เลิกบุหรี่ทั่วไทย เทิดไท้องค์ราชัน (พ.ศ. 2559-2562)


'ปั่นปอดยิ้ม'... สร้างเอ็นโดรฟินเลิกบุหรี่ thaihealth


"ขณะออกกำลังกายร่างกายจะหลั่งสารเอ็นโดรฟิน หรือสารสร้างความสุข ทำให้ผู้สูบบุหรี่มีความสุขและลดการอยากสูบบุหรี่ ซึ่งหากทำเป็นประจำจะทำให้เลิกสูบบุหรี่ตามที่ตั้งใจไว้ได้ สอดคล้องกับข้อมูลที่พบว่า การปั่นจักรยาน 100 ชั่วโมง ช่วยลดอัตราการตายลงร้อยละ 10 และการปั่นจักรยาน 1 ชั่วโมง ช่วยให้ชีวิตยืนยาวขึ้นอีก 1 ชั่วโมง การปั่นจักรยานจึงเป็นกุศโลบายที่ ดีที่ในการเลิกบุหรี่" ดร.นพ.บัณฑิต ย้ำถึงคุณค่าของการทำกิจกรรมครั้งนี้ เป็นอีกแนวทางของการทำงานเพื่อมุ่งหวังให้คนไทยเลิกบุหรี่ โดยใช้ใจหรือการหักดิบเป็นสำคัญ หากใจไม่ไหวจึงจะใช้ยาช่วยเลิกบุหรี่โดยมีบุคลากรของกระทรวงสาธารณสุขมาดูแล


นพ.บัณฑิต กล่าวต่อว่า การทำงานเพื่อเลิกบุหรี่ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้คือต้องลดอัตราการสูบบุหรี่ของคนในประเทศลง 30% คือลดจำนวนผู้สูบบุหรี่ไม่น้อยกว่า 1.8 ล้านคนในปี 2568 ตามมติองค์การอนามัยโลก โดยเน้นยุทธศาสตร์ 4 ด้าน คือ 1 สนับสนุนคือการทำระบบปฏิบัติการจริง ๆ ยุทธศาสตร์ที่ 2 คือการสร้างกระแส ยุทธศาสตร์ที่ 3 คือทำระบบพื้นฐานรองรับ ยุทธศาสตร์ที่  4 คือถักทอพันธมิตร


'ปั่นปอดยิ้ม'... สร้างเอ็นโดรฟินเลิกบุหรี่ thaihealth


ทั้งนี้เนื่องจากอดีตมีการทำงานด้านรณรงค์เป็นหลัก เช่น ใช้วันที่ 31 พ.ค.รณรงค์วันงดสูบบุหรี่โลก ปีละหน หลังจากนั้นก็เงียบ ดังนั้นจึงต้องสร้างระบบบริการขึ้น จริง ๆ โดยให้ อสม.ในประเทศไทยที่มีอยู่ 1 ล้านชวนคนเลิกสูบบุหรี่ให้ได้ปีละ 1 คน ถ้าทำสำเร็จจะมีคนเลิกบุหรี่ปีละ 1 ล้านคน 3 ปีก็ 3 ล้านคน ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่ อสม.จะตั้งหน้าตั้งตาชวนคนเลิกบุหรี่


ทั้งนี้จากข้อมูลในเว็บไซต์ของ QuitForKing พบว่า กว่า 2 ปี ของโครงการ 3 ล้าน 3 ปีฯ มีผู้สูบบุหรี่สามารถเลิกได้ตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป ถึง 4 เท่า จากช่วงเวลาปกติ ที่มีผู้เลิกบุหรี่เฉลี่ยเพียง 30,000 คนต่อปีเท่านั้น

Shares:
QR Code :
QR Code